นักเปียโน บทที่ 3 เด็กในฟาร์ม
บทที่ 3 เด็กในฟาร์ม
โทนีและมิสซิสอีแวน ขึ้นรถประจำทางตรงใจกลางเมือง พวกเขานั่งรถผ่านตึกรามบ้านช่อง สักพักรถประจำทางก็วิ่งมาตามทางถนนขรุขระที่อยู่นอกตัวเมือง
รถประจำทางจอดทุกหมู่บ้าน โทนีเห็นทุ่งสีเขียวที่มีขนาดเล็ก และ หมู่บ้านที่เงียบเหงา ทุกบ้านมีสวน กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยมาเตะจมูก ผ่านมาทางหน้าต่างรถ
ในที่สุด รถประจำทางก็หยุด โทนีเห็นแม่น้ำสายหนึ่งพร้อมกับสะพานเก่าๆ ถนนเล็กๆ วิ่งข้ามสะพาน ผ่านทุ่งหญ้าและภูเขา
“มาเร็ว โทนี” แม่ของเขาตะโกนร้องบอก พวกเขาลงจากรถ และ ต้องเดินต่อไปอีก สองกิโล ท่ามกลางอากาศร้อนอบอ้าว สองข้างทาง มีดอกไม้สีเหลืองและสีขาว ขึ้นมากมาย โทนีไม่รู้จักชื่อของมัน แต่เขาก็อยากรู้ว่าต้นไม้และดอกไม้พวกนี้มีชื่อเรียกว่าอะไร
ระหว่างทาง เขาเห็นฝูงแม่วัวอยู่ในทุ่ง
‘ฉันไม่เคยเห็นวัวตัวเป็นๆ มาก่อนเลย’ โทนีพูดกับตัวเอง เขามองดูพวกมันเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ไปตามทุ่งหญ้าสีเขียว พวกมันดูตัวใหญ่และเชื่องช้า
โทนีและแม่ของเขามาถึงบ้านกลางทุ่ง และ เดินตัดมาตามทุ่งนา ฝูงไก่เดินหาอาหาร แมวอ้วนสีขาวนอนอยู่บนกำแพง และ จ้องมองพวกเขาด้วยสายตาง่วงนอน
มิสเตอร์วูดเปิดประตูออกมาและพูดคุยกับมิสซิสอีแวน
“สวัสดี เบทตี้ ดีใจที่ได้พบเธออีกครั้ง ขอบคุณสำหรับจดหมาย สบายดีมั้ย” พวกเขาทักทายกันสักพักเหมือนเพื่อนเก่าที่เจอกันอีกครั้ง
โทนียืนอยู่หน้าประตู รู้สึกประหม่า แต่มิสเตอร์วูดก็ยิ้มให้เขา
“นี่ ลูกชายของเธอเหรอเบตตี้” เขาถาม
“ใช่ค่ะ ชื่อแอนโทนี แต่พวกเราเรียกว่า โทนี ภายในครอบครัว เขาออกจากโรงเรียนเมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว เขาเป็นเด็กดีและแข็งแรงมากๆ กรุณาให้เขาทำงานเถอะนะค่ะ มิสเตอร์วูด พวกเราจำเป็นต้องใช้เงิน ยังมีเด็กๆ อีก 6 คนอยู่ที่บ้าน มิสเตอร์วูดคงจะเข้าใจนะค่ะ”
มิสเตอร์วูดมองมาที่โทนี พร้อมกับถามขึ้นว่า “เธออายุเท่าไหร่แล้ว”
“13 ครับ”
“เธอชอบต่างจังหวัดมั้ย” มิสเตอร์วูดถามต่อ
“ชอบครับ” โทนีตอบแบบไม่ลังเล
“เธออยากจะทำงานกับฉันหรือเปล่าล่ะ โทนี เธออยากจะเป็นชาวนามั้ย”
โทนีนิ่งไปพักนึงพร้อมกับคิดในใจว่า การทำงานที่ร้านค้ามันแย่ แต่ การทำงานในโรงงานแย่ยิ่งกว่า ตอนเย็นหลังเลิกงาน คนที่ทำงานในโรงงานต่างดูอิดโรย หน้าขาวซีด ไม่มีอะไรที่มันจะแย่ไปกว่านั้นแน่ เขาคิด เขามองหน้าแดงๆ ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของมิสเตอร์วูด พร้อมกับตอบว่า “ผมต้องการทำงานที่นี่ครับ ได้โปรดรับผมทำงานด้วยนะครับ”
แม่ของเขาพูดถูก โทนีเป็นเด็กดี และ แข็งแรง เขาขยันทำงานให้กับมิสเตอร์วูด แต่เขาก็ไม่ได้ให้เงินเดือนมากมายแก่โทนี โทนีกินและพักอาศัยอยู่กับมิสเตอร์วูด เขาเป็นนายจ้างที่ใจดี และ สอนงานต่างๆ ให้กับโทนี มิสเตอร์วูดไม่มีลูกชาย เขามีลูกสาวหนึ่งคน ชื่อว่า ลินดา ลินดาอายุน้อยกว่าโทนีหนึ่งปี มิสเตอร์วูดรักลูกสาวของเขามาก แต่เขาก็ฝันอยากมีลูกชายอีกสักหนึ่งคน มิสเตอร์วูดจึงเอ็นดูโทนีเป็นพิเศษเสมือนเป็นลูกชายของเขาเอง
โทนีมีความสุขกับการทำงานที่นี่ ถึงแม้ว่าในแต่ละวัน หลังจากเสร็จสิ้นงานในฟาร์ม เขาจะเหนื่อยและปวดขา แต่พอถึงเวลานอน เขาก็หลับสนิทอย่างกับเด็กน้อย โทนีกินอาหารฝืมือของมิสเตอร์วูดและดื่มนมทุกวัน ทำให้ร่างกายของเขาเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้า เขาจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ โทนีจึงส่งเสื้อผ้าที่เขาใส่ไม่ได้แล้ว ไปให้กับน้องๆ พร้อมกับเงินจำนวนหนึ่งส่งกลับไปให้พ่อแม่ของเขาด้วย
บางครั้งโทนีก็กลับไปเยี่ยมครอบครัวของเขา เขามีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับไปหาครอบครัว และ เมื่อถึงเวลาต้องกลับมาทำงาน เขาก็มีความสุขเช่นกัน เขามักจะบอกกับคนอื่นเสมอว่า ตอนนี้ตัวเขาเองเป็นเด็กบ้านนอกไปแล้ว
ในช่วงวันหยุดของโรงเรียน ไปป์และน้องชายของเขา จอห์น มักจะมาเล่นที่ฟาร์มบ่อยๆ ไปป์อายุสิบเจ็ด ส่วนจอห์นอายุสิบหก แต่พวกเขาทั้งคู่ยังไปเรียนหนังสือ พ่อของพี่น้องสองคนนี้มีร้านขายรองเท้าขนาดใหญ่อยู่ในเมือง เขาต้องการให้ทั้งไปป์และจอห์นเรียนในวิทยาลัย เพื่อเรียนทางด้านธุรกิจ แต่พวกเขาทั้งคู่ชอบที่จะมาเที่ยวเล่นในฟาร์มของมิสเตอร์วูดช่วงโรงเรียนปิดอยู่เสมอ
‘ เราอยากเป็นชาวนา ‘ ไปป์พูดขึ้น
‘ใช่แล้ว การทำงานในฟาร์มเป็นงานที่ดีที่สุดในโลก’ จอห์นสนับสนุน
‘แต่พวกเธอมาที่นี่เฉพาะช่วงหน้าร้อนเท่านั้น และ หน้าร้อนก็ไม่ได้มีตลอด แต่งานในฟาร์มต้องทำตลอดแม้กระทั่งฤดูหนาว งานในฟาร์มนั้นทั้งหนักและสกปรก’ โทนีโต้แย้ง
‘เธอก็ชอบมันอยู่ดี’ จอห์นพูด ซึ่งเขาก็พูดถูก โทนีชอบงานของเขามากๆ
ที่มา: oxford bookwarm