บทที่ 7 การแข่งขันเปียโน
บทที่ 7 การแข่งขันเปียโน
โทนีทำงานและก็ทำงาน เขาตื่นนอนตอนเช้าเวลา 6 โมงทุกวัน เขาทำงานในฟาร์มจนกระทั่งถึง 4 โมงเย็น ทุกลมหายใจเข้าออกของเขามีแต่เสียงดนตรี เมื่อถึงเวลา 4 โมง โทนีขี่จักรยานเพื่อที่จะไปเรียนเปียโนกับมิสเตอร์กอร์ดอน เขาใช้เวลาในการฝึกซ้อมเปียโนจนถึงเวลาหนึ่งทุ่มตรง หลังจากนั้นเขาก็จะกินอาหารเย็นที่ฟาร์ม หลังจาก อาหารเย็น โทนีก็จะอ่านสมุดโน้ตเพลงของมิสเตอร์กอร์ดอน บ่อยครั้งที่เขาเผลอหลับไปบนโต๊ะกินข้าว ในเวลากลางคืน ขณะที่เขาหลับ ในใจของเขาก็ยังคงคิดถึงตัวโน้ต ราวกับว่ามันกำลังเคลื่อนไหวอยู่ในความฝันของเขาตลอดทั้งคืน เมื่อเขาตื่นขึ้นมา ดนตรีก็ยังคงอยู่ในใจของเขา ดนตรีคือโลกของเขาจริงๆ
ใบไม้ร่วงหล่นจากต้น ฤดูหนาวมาถึงแล้ว ท้องฟ้ายังคงมืดเมื่อถึงเวลาที่โทนีตื่นนอนในตอนเช้า และ ท้องฟ้าก็มืดเร็วในขณะที่โทนีขี่จักรยานไปฝึกซ้อมเปียโน รวมถึงเวลาที่โทนีต้องขี่จักรยานกลับมาที่ฟาร์มด้วย บางครั้งก็มีหิมะ เขาจึงจำเป็นต้องเดินไปและกลับ แต่เขาก็ไม่เคยขาดการฝึกซ้อมเปียโนสักครั้งเดียว
“โทนี เป็นอย่างไรบ้างครับ” มิสเตอร์วูดถามมิสเตอร์กอร์ดอนในวันหนึ่ง
“โทนี เป็นเด็กที่หัวไวครับ เขาสามารถเรียนรู้ได้เร็ว อีกหน่อยคงต้องเพิ่มความยากในการเรียนมากขึ้น”
และแล้วฤดูใบไม้ผลิก็เริ่มต้นขึ้น ต้นไม้กลับมามีใบสีเขียวเต็มต้นอีกครั้ง
“เร็วๆนี้ ในเมืองจะมีการแข่งขันเล่นเปียโนขึ้นในเดือนมิถุนายน วันที่ 12 นี้” มิสเตอร์กอร์ดอนบอกให้โทนีรู้
“ผมสามารถไปฟังได้มั้ยครับ” โทนีถาม
“ไม่ได้ ฉันต่างหากล่ะ ที่จะเป็นคนไปฟัง ไม่ใช่เธอ แต่เธอสามารถเข้าร่วมในการแข่งขันได้” มิสเตอร์กอร์ดอนบอกโทนี
“แต่ผมยังต้องฝึกฝนเพิ่มเติมอีก ผมยังไม่พร้อมที่จะเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้” โทนีพูดแบบไม่มีความมั่นใจ
“เธอจะพร้อมในไม่ช้า” มิสเตอร์กอร์ดอนให้กำลังใจ
มิสเตอร์กอร์ดอนอายุค่อนข้างมากแล้ว แต่เขาก็มีความตั้งใจที่จะสอนเปียโนให้กับโทนีทุกวัน วันละ 4 ชั่วโมง ส่วนงานที่ฟาร์ม มิสเตอร์วูดก็หาคนมาช่วยเขาทำงาน ในขณะที่โทนีขยันฝึกซ้อมเปียโนเพื่อเข้าร่วมในการแข่งขันที่จะมาถึง
“พวกเรามีเวลาอีกสองอาทิตย์ ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น” มิสเตอร์กอร์ดอนบอกกับโทนีในเย็นวันหนึ่ง “ดูนี่สิ นี่คือตารางในการแข่งขัน”
การแข่งขันในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสวยงาม โทนีคิดหลังจากที่เขาเห็นจากโปสเตอร์จัดงาน เขาไล่ดูรายชื่อผู้เข้าแข่งขัน และ เขาก็เห็นชื่อ แอนโทนี อีแวน อายุ 15 ประเภทการแข่งขัน เปียโน
“ไม่เคยมีใครเรียกผมว่า แอนโทนีมาก่อน ทำไมพวกเขาถึงไม่เรียกผมว่าโทนีล่ะครับ”
“โทนีคือชื่อของเด็กชาย ส่วนแอนโทนีฟังดูเหมือนชื่อคนที่โตพอที่จะเป็นผู้ชายเต็มตัวแล้ว โทนี อีแวน คือเด็กผู้ชายในฟาร์ม แอนโทนี อีแวนคือ นักดนตรี ฟังดูดีกว่าตั้งเยอะ แล้วสักวันหนึ่ง แอนโทนี อีแวนจะกลายเป็นนักดนตรีที่มีชื่อเสียงทั่วโลก และ จากวันนี้ไป ฉันจะเรียกเธอว่า แอนโทนี”
เช้าวันแข่งขัน มิสเตอร์กับมิสซิสวูด และ แอนโทนี นั่งรถเข้าไปในเมือง เมื่อมาถึงในเมือง มิสเตอร์วูดแวะดื่มกาแฟกับเพื่อนของเขา ส่วนมิสซิสวูดพาแอนโทนีไปเลือกซื้อของ เธอซื้อเสื้อแจ็คแก็ตและกางเกงสีน้ำตาล รวมถึงเสื้อเชิ้ตสีขาวให้กับแอนโทนี และ เธอยังซื้อรองเท้าใหม่ให้กับเขา พ่อของไปป์ลดราคาพิเศษให้ รองเท้าคู่ใหม่ดูดีมาก รองเท้าถูกขัดให้มันวาวเมื่อกระทบกับแสงไฟ มิสซิสวูดชอบมาก แต่รองเท้าดูเหมือนว่าจะเล็กเกินไปสำหรับแอนโทนี หลังจากที่แอนโทนีใส่เดินไปสักพัก เขาก็รู้สึกเจ็บที่เท้า เพราะรองเท้ากัดนั่นเอง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาจะพูดอะไรได้ล่ะ
“ฉันได้ยินมาว่า เธอจะเข้าร่วมแข่งขันเปียโนในคืนนี้ ฉันเห็นชื่อของเธอบนตารางการแข่งขัน แอนโทนี อีแวน ฟังดูดีนะ ขอให้โชคดี” พ่อของไปป์อวยพรให้เขา
ในเย็นวันนั้น ครอบครัววูดรวมทั้งแอนโทนี ขับรถไปที่บ้านของมิสเตอร์กอร์ดอน มิสเตอร์กอร์ดอนออกมาต้อนรับ เขาใส่ชุดที่ดูดีที่สุด
“คุณดูดีมากเลย มิสเตอร์กอร์ดอน คุณกำลังจะแต่งงานใช่มั้ย” มิสซิสวูดพูดและก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
เมื่อถึงเวลา มิสเตอร์กอร์ดอนกับครอบครัววูด รวมทั้งแอนโทนี ก็มาถึงสถานที่จัดการแข่งขัน ครอบครัววูดก็ขอปลีกตัวไปยังที่นั่งของพวกเขา ส่วนมิสเตอร์กอร์ดอนพาแอนโทนี เดินไปทางด้านหลังเวที เขาพาแอนโทนีไปรอที่ห้องด้านหลังเวที มีเหล่านักดนตรีหลายคนนั่งรออยู่ก่อนแล้วในห้องนั้น นักดนตรีที่เป็นผู้หญิงสวมชุดเดรสยาว ส่วนนักดนตรีที่เป็นผู้ชายต่างใส่สูทสำหรับงานกลางคืน ไม่มีใครทักทายหรือพูดคุยกัน
“โชคดีนะ หนุ่มน้อย” มิสเตอร์กอร์ดอนอวยพร
แอนโทนีนั่งรออยู่ในห้องนั้นเป็นเวลายาวนาน เขารู้สึกเจ็บเท้า มันแสบร้อนอย่างกับโดนไฟลวก มือของเขาเย็นเฉียบและสั่น เพราะว่าเขาตื่นเต้นและรู้สึกประหม่ากับการแข่งขันในครั้งนี้ เขาได้ยินเสียงเปียโนดังมาเป็นระยะ ทุกๆ สองถึงสามนาที จะมีพิธีกรบนเวที เรียกชื่อผู้แข่งขันแต่ละคนขึ้นการแสดง หลังจากนั้นไม่นาน พิธีกรบนเวทีก็เรียกชื่อของเขา “อันดับต่อไป ขอเชิญมิสเตอร์อีแวนครับ” แต่แอนโทนียังคงนิ่งเฉย เขาไม่คุ้นชินกับการถูกเรียกว่ามิสเตอร์อีแวน
“ขอเชิญมิสเตอร์แอนโทนี อีแวนบนเวทีด้านหน้าครับ” พิธีกรคนเดิมเรียกเขาอีกครั้ง
และเขาก็ยืนขึ้น พร้อมกับรู้สึกเจ็บที่เท้า เขาเดินตามผู้ชายอีกคนหนึ่งขึ้นบันได ไปยังเวทีด้านหน้า เขาคิดว่าตัวเขาเองเดินเหมือนอย่างชาร์ลี แชปลิน ทุกคนจะต้องหัวเราะเยาะเขาแน่ๆ
แอนโทนีเดินขึ้นมาบนเวที และก้าวเข้ามานั่งบนเก้าอี้ ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าเปียโนหลังใหญ่ ใบหน้าของเขาสะท้อนอยู่บนเปียโนหลังนั้น ซึ่งมันส่องแสงสว่างไสวเมื่อโดนแสงไฟกระทบ เขาหันไปเห็นใบหน้าของผู้คนมากมายที่นั่งอยู่ด้านล่างของเวที ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นกำลังจ้องมองแอนโทนีอยู่ แต่เขากลับไม่เห็นครอบครัววูด และ ก็ไม่เห็นมิสเตอร์กอร์ดอนด้วย แต่ทันใดนั้น แอนโทนีกลับรู้สึกถึงพลังแห่งความรัก และ ความใจดีของพวกเค้าเหล่านั้น เขาไม่รู้สึกเจ็บเท้า มือของเขาก็ไม่สั่น เขาได้สัมผัสคีย์บอร์ดบนเปียโน มันดูหลังใหญ่กว่าเปียโนของเขามากนัก คีย์บอร์ดก็ดูสะอาดและใหม่ จนเขารู้สึกว่า อยากจะสัมผัสมัน
‘อืม…..เพราะเราต้องการเล่นเปียโน เราถึงได้มาอยู่ที่นี่ไง’ โทนีบอกกับตัวเอง และเขาก็เริ่มบรรเลงบทเพลง เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมคนแปลกหน้าที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที เขาบรรเลงเพลงเพื่อเพื่อนของเขา, เพื่อครอบครัววูด, เพื่อลินดา, เพื่อมิสเตอร์กอร์ดอน, และเพื่อมิสเตอร์ลาร์ค
‘มิสเตอร์ลาร์ค ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน’ เขาคิด ‘คุณยังจำโทนี อีแวนได้มั้ย’
‘คุณเคยมอบความสุขโดยการบรรเลงเปียโนให้กับพวกเรา ขอบคุณครับ’
นิ้วมือของเขาพริ้วไหวบนแป้นคีย์บอร์ด เขาบรรเลงเปียโนอย่างไพเราะ เสียงเพลงดังกังวานอยู่ในฮอล์
‘เขาจะต้องเป็นผู้ชนะในคืนนี้’ มิสเตอร์กอร์ดอนพึมพำกับตัวเอง ‘และวันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเรา’
และแล้วเช้าวันถัดมา แอนโทนีก็รู้ว่าเขาเป็นผู้ชนะในการแข่งขันเปียโนเมื่อคืนนี้ เพราะเขาเห็นรูปของเขาบนหน้าหนังสือพิมพ์ แต่เขากลับจำอะไรไม่ได้เลย ยกเว้นเท้าที่เจ็บปวดของเขา
เมื่อคืนนี้หลังจากที่เขาก้าวลงจากรถ เขาแทบจะเดินไม่ได้ รองเท้าใหม่เล่นงานเขา บีบเท้าของเขา จนเขารู้สึกเจ็บปวดทั้งคืน ทั้งมิสเตอร์และมิสซิสวูดช่วยปฐมพยาบาลเขา เพื่อให้เขาคลายความเจ็บปวด โดยการแช่เท้าในน้ำอุ่น ลินดาช่วยโทนีถอดรองเท้า และต้องรู้สึกตกใจเมื่อเห็นเท้าของเขาทั้งบวมและแดงมาก
“นี่เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นมาก” โทนีพูด
“เธอชนะแล้ว” มิสซิสวูดร้องบอกด้วยความดีใจ “ลืมเรื่องเจ็บเท้าไปได้เลย หนุ่มน้อย เธอคือผู้ชนะการแข่งขัน คืนนี้เป็นคืนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ”
แต่แอนโทนีเหนื่อยเกินไป ที่จะตอบคำถามใดๆ พวกเขาต่างช่วยกันพยุงโทนีเข้านอน และเขาก็หลับไป ตื่นขึ้นตอนเก้าโมงเช้าของวันใหม่
ลินดาเอาอาหารเช้ามาเสริฟให้เขาถึงเตียงนอน เขารู้สึกแปลกๆ และไม่ชินมากๆ “ผมไม่เคยกินข้าวเช้าบนเตียงมาก่อนเลย” เขาบอกลินดา
ที่มา: The Oxford Bookwarms