หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ประวัติและที่มาของ "​ขนมบัวลอย" ขนมไทยโบราณที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน

โพสท์โดย dukedick

ขนมบัวลอย หนึ่งในขนมไทยโบราณที่ยังคงครองใจผู้คนมาจนถึงปัจจุบัน เป็นขนมที่แฝงไปด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อันยาวนาน แม้จะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าผู้ใดเป็นผู้คิดค้นและเริ่มทำเป็นครั้งแรก แต่มีการสันนิษฐานว่าขนมชนิดนี้มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และถูกกล่าวถึงในจารึกเก่าแก่ที่เอ่ยถึง “ชุดขนม” ซึ่งประกอบด้วย ไข่กบ นกปล่อย บัวลอย อ้ายตื้อ โดยทั้งหมดล้วนใช้น้ำกะทิเป็นกระสาย ขนมบัวลอยในบริบทดังกล่าวยังหมายถึง ข้าวตอก แตกต่างจากบัวลอยแป้งปั้นเม็ดกลมที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน

หลักฐานอีกส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นความนิยมของขนมบัวลอย คือการถูกกล่าวถึงใน กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย แสดงให้เห็นว่าบัวลอยในรูปแบบแป้งปั้นกลมเล็ก ๆ ต้มในกะทิหอมหวาน ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตำรับอาหารชาววังตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นแล้ว

นอกจากรากเหง้าในสังคมไทย ขนมบัวลอยยังสะท้อนถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับจีนอีกด้วย ขนมหวานจีนที่เรียกว่า “ทังหยวน” (汤圆) หรือ “ขนมอี๋” มีลักษณะคล้ายคลึงกับบัวลอย คือทำจากแป้งข้าวเหนียวปั้นเป็นลูกกลมและนำไปต้ม โดยนิยมกินกันใน เทศกาลตังโจ่ย (วันเหมายัน) เพื่อสื่อถึงความกลมเกลียวและความอบอุ่นของครอบครัว เมื่อแนวคิดนี้เดินทางมาสู่สังคมไทย จึงถูกปรับให้เข้ากับรสนิยมและวัตถุดิบท้องถิ่น เปลี่ยนน้ำเชื่อมใสแบบจีนเป็นน้ำกะทิหอมมัน กลายเป็นบัวลอยแบบไทยที่เราเห็นในทุกวันนี้

สิ่งที่ทำให้ขนมบัวลอยยังคงเป็นที่นิยมไม่ใช่เพียงรสชาติหวานมันกลมกล่อม หากแต่ยังเป็นเพราะ ความหมายมงคล ที่ซ่อนอยู่ในรูปร่างกลมเล็กของเม็ดบัวลอย

ด้วยเหตุนี้เอง ขนมบัวลอยจึงมักปรากฏในงานบุญ งานมงคล และพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ผู้รับประทาน ถือเป็นขนมที่ไม่เพียงตอบโจทย์เรื่องรสชาติ แต่ยังสืบทอดคุณค่าทางจิตใจและวัฒนธรรมไทยได้อย่างงดงาม

ทุกครั้งที่ตักบัวลอยร้อน ๆ เข้าปาก กลิ่นกะทิหอมมันที่คลอเคลียกับความนุ่มของแป้งเม็ดกลมเล็ก ไม่เพียงทำให้เราอิ่มเอม แต่ยังเชื่อมโยงเราเข้ากับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความเชื่อที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน นี่คือเสน่ห์ของ “บัวลอย” ขนมไทยมงคลที่ไม่มีวันเลือนหายไปจากสังคมไทย

 

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
dukedick's profile


โพสท์โดย: dukedick
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจาะสถิติสลากกินแบ่งรัฐบาล ย้อนหลัง 10 ปี (งวด 2 มกราคม)APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่งBBC ยกให้ "กรุงพนมเปญ" ติด TOP20..ปลายทางที่ดีที่สุดในโลกกัมพูชา ส่งจดหมายถึงทั่วโลก ลั่นไม่ได้อ่อนแอ แต่ถูกไทยบีบให้จนมุมมิตรภาพใต้สมุทร เมื่อ "วาฬเพชฌฆาต" จับมือ "โลมา" ร่วมทีมล่าล่าเหยื่อเขมรไม่มีคิดหยุด แต่คิดว่าจะรบไทยให้ชนะด้วย F-35 ได้อย่างไรในอนาคตไทยซื้อระบบป้องกันทางอากาศใหม่ !สอยอีกหนึ่ง นายพลเขมรร่วง อีกรายสถิติหวย ย้อนหลัง 10 ปี เลขท้าย 2 ตัว งวด 30 ธันวาคมอาเซียนเนื้อหอม! เจาะเหตุผลทำไม บังกลาเทศ-ปาปัวนิวกินี-ฟิจิ อยากเข้าใกล้ครอบครัวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บุกจับแล้ว 4 เมียนมา ยึดโดรน 10 ลำมูลค่า 7.5 ล้าน บินป่วนสุวรรณภูมิ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด อาหาร
ชายวัย 60 ปี กินแต่ "ของต้ม" หวังสุขภาพดี แต่กลับมีปัญหาสมองตื้อและความจำเสื่อมยายทวดวัย 100 ปี เปลี่ยนมาเป็นฟู้ดบล็อกเกอร์ กินอาหารหลากหลาย เช่น ชานมและหม่าล่า พร้อมเผยเคล็ดลับการมีอายุยืนที่ทุกคนทำได้แพทย์ระบบประสาทเตือนว่า 3 อาหารยอดฮิตที่กินบ่อยอาจทำลายสมองและเสี่ยงต่อการสมองเสื่อมโดยไม่รู้ตัวร้านอาหาร ชลธาร กำแพแสน จ.นครปฐม
ตั้งกระทู้ใหม่