อีกมุมของ "ยายสา" ตำนานแม่มดแห่งสมิหลา กับความลึกลับที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย"
หากพูดถึงชื่อ "ยายสา" หลายคนอาจนึกถึงตำนานแห่งความรักและการรอคอย แต่ในอีกมุมหนึ่งของเรื่องเล่า ยายสาไม่ได้เป็นเพียงหญิงชราผู้เฝ้ารอสามี หากแต่ยังถูกกล่าวขานว่าเป็น แม่มดผู้ครอบครองวิชาอาคม และมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวหลอนๆ ที่ทำให้คนในพื้นที่ยังคงจดจำเธอด้วยความหวาดกลัว
เงามืดในอดีตของยายสา
ตำนานเล่าว่ายายสาในวัยสาวเคยเป็นหญิงที่งดงามและมีจิตใจดี เธอใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่ริมทะเลสมิหลา แต่เมื่อสามีของเธอหายสาบสูญกลางทะเล ยายสาก็เปลี่ยนไป เธอเริ่มเก็บตัว ไม่สุงสิงกับใคร และใช้เวลาส่วนใหญ่ในป่าลึกที่ไม่มีใครกล้าย่างกราย
ว่ากันว่าในป่าแห่งนั้น ยายสาได้พบกับหมอผีชรา ผู้ถ่ายทอดวิชาอาคมแก่เธอ เพื่อช่วยให้เธอค้นหาความจริงเกี่ยวกับสามี แต่เมื่อเธอรู้ว่าชะตากรรมของเขาได้จบสิ้นไปแล้วกลางทะเล ยายสาก็สูญเสียศรัทธาในชีวิต และเริ่มใช้เวทมนตร์เพื่อแก้แค้นต่อชะตากรรม
คำสาปที่ไม่มีใครหลบหนีได้
หนึ่งในเรื่องเล่าที่หลอนที่สุดเกี่ยวกับยายสาคือ คำสาปแห่งสมิหลา คนในพื้นที่เชื่อกันว่าหากใครลบหลู่ หรือพูดจาไม่ดีถึงยายสา จะต้องพบกับความโชคร้าย บางรายถึงกับล้มป่วยหรือเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ
ชาวบ้านเล่าว่า เคยมีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งเดินทางไปเที่ยวที่เกาะสมิหลา พวกเขาเมามายและหัวเราะเยาะเรื่องราวของยายสา พร้อมพูดจาท้าทายว่าวิชาอาคมไม่มีจริง แต่ในคืนนั้นเอง ทุกคนในกลุ่มก็ประสบเหตุการณ์ประหลาด เช่น ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้กลางดึก แม้จะไม่มีใครอยู่รอบๆ หรือรู้สึกเหมือนมีใครบางคนจ้องมองจากความมืด
ยายสากับวิญญาณที่เฝ้าทะเล
บางคนเชื่อว่ายายสาไม่ได้มีเพียงอาคม แต่เธอยังสามารถควบคุมวิญญาณได้ เรื่องเล่าหนาหูคือ ยายสาเรียกวิญญาณของสามีและชาวประมงที่เสียชีวิตในทะเลกลับมาปกป้องเธอ ใครที่พยายามบุกรุกพื้นที่ของเธอ มักพบกับเหตุการณ์ที่อธิบายไม่ได้ เช่น เสียงฝีเท้าลึกลับในเวลากลางคืน ไฟฉายดับโดยไม่มีเหตุผล หรือเงาคล้ายร่างคนปรากฏขึ้นบนคลื่นทะเล
เรื่องเล่าจากชาวประมง
กลุ่มชาวประมงผู้สูงอายุในพื้นที่เล่าว่า ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเห็นยายสายืนอยู่บนโขดหินริมทะเล ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ ราวกับเธอกำลังสั่งการบางอย่าง พอรุ่งเช้าเรือประมงลำหนึ่งกลับมาพร้อมข่าวร้ายว่าเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งหายตัวไปกลางทะเล
บางคนเชื่อว่านี่คือฝีมือของยายสา ผู้โกรธแค้นที่คนเหล่านั้นลบหลู่ทะเลสมิหลา ซึ่งเธอถือเป็นบ้านและเขตแดนศักดิ์สิทธิ์
สถานที่ที่ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้
ป่าลึกบริเวณชายฝั่งสมิหลาบางแห่งถูกเชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ยายสาเคยอาศัยอยู่ แม้วันนี้จะไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่พื้นที่นั้นยังคงเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านไม่กล้าเข้าไป โดยเฉพาะเวลากลางคืน ว่ากันว่าในบางคืนแสงจันทร์ส่องลงมาจะเห็นเงาร่างของหญิงชราผู้หนึ่งยืนมองทะเลอย่างเดียวดาย
บทสรุป: ยายสาเป็นผู้ช่วยเหลือหรือผู้สร้างความหวาดกลัว?
ตำนานของยายสาไม่ได้มีเพียงด้านหลอน หากแต่ยังสะท้อนความเจ็บปวดของหญิงผู้สูญเสียทุกสิ่งในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความหวัง และความสุข เรื่องเล่าของเธอเตือนใจเราเกี่ยวกับผลของความเกลียดชังและความหวังที่ไม่สมหวัง
ดังนั้น เมื่อคุณเยือนหาดสมิหลา อย่าลืมหยุดมองทะเลอย่างสงบนิ่ง และระวังอย่าเผลอลบหลู่ ชื่อของยายสา บางทีเธออาจกำลังมองคุณอยู่จากเงามืดของทะเล…
แล้วคุณล่ะ? กล้าท้าทายคำสาปของยายสาหรือไม่?