หางหมูทอดกรอบ
หางหมู อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ
วิตามินบี 1 - 14% วิตามินบี 5 - 13.5% วิตามินบี 6 - 18.5% วิตามินบี 12 - 29.3%
โพแทสเซียม 14% สังกะสี 19.3%
วิตามิน B1 มีเอนไซม์ที่สำคัญต่อการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและพลังงาน ซึ่งให้พลังงานและสารพลาสติกแก่ร่างกาย ตลอดจนการเผาผลาญกรดอะมิโน
วิตามิน B5 มีโปรตีนไขมันการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต เผาผลาญคอเลสเตอรอล การสังเคราะห์ฮอร์โมนฮีโมโกลบิน ส่งเสริมการดูดซึมกรดอะมิโนและน้ำตาลในลำไส้ สนับสนุนการทำงานของเยื่อหุ้มสมอง ต่อมหมวกไต
วิตามิน B6 มีส่วนในการบำรุงรักษาการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน ยับยั้งและช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยในการเปลี่ยนกรดอะมิโน ในการเผาผลาญทริปโตเฟน ไขมันและกรดนิวคลีอิก ก่อให้เกิดการสร้างเม็ดเลือดแดง
วิตามิน B12 มีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญและการเปลี่ยนกรดอะมิโนโฟเลต วิตามินบี 12 เป็นวิตามินที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเลือด การขาดวิตามินบี 12 นำไปสู่โรคโลหิตจาง เม็ดเลือดขาวภาวะเกล็ดเลือดต่ำ
โพแทสเซียม มีส่วนในการควบคุมสมดุลของน้ำ และอิเล็กโทรไลต์มีส่วนร่วมในกระบวนการของระบบประสาทการควบคุมความดัน
สังกะสี เป็นส่วนหนึ่งของเอนไซม์มากกว่า 300 ชนิดมีส่วนร่วมในกระบวนการสังเคราะห์และการสลายตัวของคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน กรดนิวคลีอิก ควบคุมการแสดงออกของยีนจำนวนมาก การบริโภคสังกะสีที่ไม่เพียงพอจะนำไปสู่ โรคโลหิตจาง ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ตับแข็ง ความผิดปกติทางเพศ และความผิดปกติของทารกในครรภ์
เมนูหางหมูทอดกรอบ
ส่วนผสม
1 หางหมู 5 หาง ( หนัก1300กรัม )
2 น้ำสำหรับต้ม 5 ลิตร
3 เกลือใส่หม้อต้ม 1 ช้อนโต๊ะ
4 เกลือทาหมู 2 ช้อนชา
5 น้ำส้มสายชู 200 ml
6 น้ำมันสำหรับทอด 1 ขวด
ขั้นตอนการทำ
นำหางหมูไปล้างน้ำทำความสะอาด เสร็จแล้วนำไปต้มเป็นเวลา 15-20 นาที หรือจนกว่าหางหมู่จะเปื่อย
ต้มเสร็จ นำหางหมูมาทิ่มหนังให้ทั่ว แล้วนำไปทาเกลือ แช่น้ำส้มสายชูเป็นเวลา10 นาที
นำหางหมูไปอบที่ไฟ 250° เป็นเวลา 40-50 นาที อบให้พอเป็นหนังสีน้ำตาล
นำหางหมูที่อบเสร็จแล้วไปพักให้แห้ง
เมื่อหางหมูแห้งดีแล้ว ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันให้พอท่วมหางหมู น้ำมันเริ่มร้อน ก็เอาหางหมูลงทอดเลยครับ จนเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน เสร็จพร้อมทาน
เคล็ดลับ: ถ้าผึ่งหางหมูไม่แห้งพอ เวลาทอดน้ำมันจะกระเด็น
LOMA🐬🐬