“ 10 ข้อคิด พลิกมุมคิดให้ชีวิตงดงาม “
สวัสดีครับ ในกระทู้ขอแบ่งปัน “ 10 ข้อคิด พลิกมุมคิดให้ชีวิตงดงาม “ กันนะครับ
1. ในความผิดหวัง แม้มองให้ดี ย่อมเห็นบทเรียนชีวิต เห็นว่าอะไรๆ อาจไม่ได้อย่างใจเสมอไป ไม่มีใครสมหวังไปทุกเรื่อง ไม่มีใครผิดหวังไปทั้งหมด ทว่า เรามักหลงลืมความจริงข้อนี้ไป คล้ายคนอกหัก เปิดเพลงช้ำรักฟังวน ๆ จบเพลงนี้ก็มีเพลงใหม่ ลืมสังเกตไปว่า เพราะอะไรจึงมีเพลงอกหักมากมายล้นโลก ไม่ใช่เราผิดหวังอยู่ผู้เดียว คิดได้เช่นนี้ ทุกข์ที่มีย่อมทุเลาเบาบาง
2. ใจเรามิเคยเป็นอิสระ จากคำชื่นชม และคำนินทา แม้ได้ยินคำชม ใจจะฟู แม้รับรู้คำนินทาใจจะแฟบ คิดให้ดี เขาพูดถึงเราอย่างไร เกี่ยวอันใดกับเรา แม้เราเป็นคนชั่วร้าย หากเขาชมว่าดี ความเลวร้ายของเราก็มีอย่างเก่า หรือเราเป็นคนพอใช้ได้ แต่ถูกเขาชมเกินความจริง คำชมนั้น ก็ไม่ได้ทำให้เราดีขึ้น เราเป็นอย่างไร อยู่ที่คิด พูด ทำอะไร คำคนเพียงลมปาก การกระทำต่างหากเป็นของจริง
3. เชื่อมั่นตัวเองเป็นสิ่งดี แต่ต้องทำตนให้ดีพอ จึงเชื่อในตนได้ หากความชั่วร้ายมีมาก การเชื่อตนเองย่อมเป็นสิ่งอันตราย เป็นคนขี้เกียจ หากเชื่อตัวเอง ย่อมไม่ได้ทำงาน เป็นคนขี้กลัว หากเชื่อตัวเองย่อมมิได้ริเริ่ม เป็นคนขี้เหนียว หากเชื่อตัวเองคงมิได้แบ่งปันผู้ใด การเชื่อมั่นในตนเองเป็นขั้นตอนที่ 3 การมองเห็นตนเองตามความเป็นจริงเป็นขั้นตอนที่ 1 ส่วนขั้นตอนที่ 2 คือการปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้นกว่าเก่าก่อน ทำให้ครบสามข้อ การเชื่อมั่นในตนจึงนำไปสู่ชีวิตที่ดีได้
4. คำว่าเปลี่ยนโลกฟังแล้วยิ่งใหญ่ น่าเร้าใจกว่าการเปลี่ยนตนเอง คนจำนวนมาก จึงมุ่งมั่นเปลี่ยนโลก โดยไม่ใส่ใจการเปลี่ยนแปลงตนเอง กลายเป็นความเศร้าใหญ่โต เพราะต่างตนต่างตีตราว่าผู้อื่นคือตัวปัญหา โทษกันไปโทษกันมา เหมือนไฟป่าลามทุ่ง จงปรับเปลี่ยนโลกด้วยการเปลี่ยนแปลงตนเองเถิด เราเป็นส่วนหนึ่งของโลก เมื่อเราเปลี่ยนแปลงหนึ่งคน โลกทั้งใบย่อมเปลี่ยนไปไม่เหมือนเก่า ปัด กวาด เช็ด ถู บ้านตนเองให้เสร็จ ก่อนถือถุงดำไปเก็บขยะในซอย
5. หาความรู้ให้รอบด้าน อย่าหาความรู้เพื่อสนับสนุนความเชื่อของตน เปิดรับข้อมูลทุกทิศทาง ระวังใจยึดติดความคิดใดความคิดหนึ่ง โลกคือส่วนผสมสีสัน มิใช่สีขาวหรือสีดำ ทั้งชนชาติ ศาสนา ความคิด เผ่าพันธุ์ ให้เห็นเป็นสิ่งเดียวกันได้อย่างไร จุดยืนทำให้มีที่ยืน แต่ต้องมิใช่จุดยืนตายตัว มีบวก มีลบ เพิ่มลดได้ มีซ้าย มีขวา เคลื่อนไหวได้ ถ่ายเทความเชื่อของตน ด้วยความเห็นแตกต่าง ความแตกต่างมิใช่สิ่งน่ารังเกียจ แต่เป็นสิ่งสวยงาม ทำให้โลกไม่น่าเบื่อ
6. สงบนิ่งคือธรรมะ ธรรมะคือเห็นตามจริง ความจริงเป็นอย่างไร ก็เห็นไปอย่างนั้น ไม่มีความคิดอ่าน ประสบการณ์ผู้เห็นเข้าไปจับ เข้าไปวิพากษ์ ปล่อยให้สิ่งที่ถูกเห็นเป็นอิสระ จากความอยากให้สิ่งนั้น ๆ เป็นอย่างใจตัว นี่คือระบบการวางใจในชีวิต เรียกว่า การทำข้างในให้ว่างจากความยึดมั่นถือมั่น ส่วนข้างนอกก็มิใช่การปล่อยปละละเลย มีหน้าที่อันใด ก็ทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ ทำเสร็จแล้ววางไว้ สำเร็จหรือไม่ อย่าเอาใจไปผูกมัด
7. หลายคนประกาศว่าฉันเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ นี่คือความจริงเพียงครึ่งเดียว เมื่อเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว เท่ากับเป็นเรื่องไม่จริงไปทั้งหมด ความจริงคือ เราไม่ได้เป็นอะไร มิได้เป็นคนใจร้อน มิได้เป็นคนใจเย็น มิได้เป็นคนดีเลิศ แต่ก็มิได้เป็นคนชั่วช้า เราเป็นทุกสิ่ง ขณะที่เราไม่เป็นอะไรสักอย่าง เหมือนรถกำลังเคลื่อนที่ เคยเป็นในสิ่งที่ผ่านมา แต่เมื่อผ่านมาแล้ว ก็ไม่ได้เป็นอีกแล้ว ชีวิตเราไหลอยู่ในห้วงเวลาของปัจจุบัน อดีตเคยพูดว่าเราเป็นคนอย่างไร วันนี้สิ่งนั้นได้ผ่านมาแล้ว เพียงคนโง่เขลาเท่านั้น ที่ตอกตรึงตนไว้กับความหมายเก่าแก่วันวาน
8. จุดไฟโกรธเผาใจตนก่อน แล้วใช้ไฟเดียวกันเผาผู้อื่น เราจะตายไปพร้อมกันด้วยความโกรธ แต่เราจะรีบตายไปทำไม เพราะไม่ช้าเร็วเราก็ตายอยู่วันยังค่ำ ดับไฟโกรธเสีย ยังไม่ต้องรีบตาย ยังไม่ต้องรีบเผาใจตนเอง ความทุกข์ไม่หนีเราไปไหนหรอก หายโกรธเสียเถิด ใจเย็น ๆ นั่งคุยกับความสุขก่อนได้ไหม
9. ชีวิตคืออะไร แล้วเรามีชีวิตไปทำไม คำตอบมีหลากหลายตามภูมิปัญญา บางก็ว่ามีชีวิตอยู่เพื่อรัก บางก็ว่ามีชีวิตอยู่เพื่อความสำเร็จ บางก็ว่ามีชีวิตอยู่เพื่อเป็นที่จดจำ ความคิดสุดท้ายงี่เงาที่สุด แม้ตายไปนานแล้ว ยังหวังอีกหรือว่าใครจะจดจำเราได้ มันสำคัญตรงไหน เรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไรหรือ ไม่มีใครรู้ได้ ที่แน่ ๆ ชีวิตนี้เราต้องการสิ่งเดียวกัน นั่นคือความสุข บางที หนทางแห่งความสุขแท้ คือหนทางเดียวเพื่อเข้าถึงความหมายของการมีชีวิตอยู่
10. จงอย่าเศร้านานเกินไป และอย่ามีความสุขมากเกินไป อย่าโง่เขลาเกินไป และอย่าฉลาดเกินไป ได้โปรดเป็นในทุก ๆ สิ่ง และทอดทิ้งสิ่งเหล่านี้ไว้เบื้องหลัง ลมหายใจเข้าออกตลอดเวลา เราเคยรับรู้มันบ้างหรือไม่ หรือเราหายใจเฉพาะในวัดวาอาราม หรือเราหายใจเฉพาะในวิหารศักดิ์สิทธิ์ หยุดไหลตามโลกชั่วขณะ แล้วกลับสู่ภายใน เจ็บปวดตรงไหน เราจะได้สะสาง ปล่อยวางความโกรธ ปล่อยวางความโลภ ปล่อยวางความหลง สู่ความเมตตาและสติรู้ตัวทั่วพร้อม อย่าได้น้อยเนื้อต่ำใจ จะท้อแท้สิ้นหวังไปใย ลมหายใจยังอยู่ ชีวิตใหม่ซ่อนอยู่ในปัจจุบันขณะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ ลองนำมาปรับใช้กันดูนะครับ แล้วพบกันกระทู้หน้าครับ
อ้างอิงจาก: stampchan