นิทาน ฉบับวายวาย
ฝากนิยายเรื่องนิทาน ฉบับวายวายเป็นนิยายดัดแปลงจากนิทาน เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งไมาเจตนาจากต้นฉบับ ขออภัย ณ ที่นี้นามปากกา: ใต้เวหา อ่านได้ที่ readawrite
เรื่องกระต่ายกับเต่า
จิ๊บๆ จิ๊บๆ
เสียงนกร้องอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม อากาศสดชื่นไร้มลพิษสัตว์ป่าอยู่กันอย่างสงบสุขออกอาหารโดยไร้ความกังวล ผืนป่ามีต้นไม้ปกคลุมหนาแน่นร่มรื่นชวนน่าไปสัมผัส
" ฮ่าๆ ฮ่าๆ ในป่าแห่งนี้ข้าเป็นสัตว์ที่วิ่งเร็วที่สุดไม่มีใครเทียบเทียมได้ไม่เชื่อ มีใครอยากแข่งกับข้าอีกไหม"
ป่าใหญ่แห่งนี้ ยังมีกระต่ายขนนุ่มสีขาว ตัวเล็กผอมผิวหน้าเอ็นดู มีหูและหางงดงาม ใบหน้าละมุนแต่ผิดกับนิสัย ที่ชอบพูดโม้โอ้อวด ว่าไม่มีใครวิ่งเร็วเท่าเจ้าตัว มั่นใจในความเร็วของฝีเท้าตัวเองมักพูดดูถูกสัตว์อื่น ว่าเชื่องช้า ไม่คล่องแคล่วว่องไวจนไม่มีใครมาแข่งด้วย
วันหนึ่งเจ้ากระต่ายเดินไปเล่นทั่วป่า เพราะเบื่อไม่มีใครมาแข่งด้วย ชมนกชมไม้ จนกระทั่งไปเจอกับเจ้าเต่าหนุ่มที่มีรูปร่าง สูง ใหญ่ ใบหน้างดงาม จุดสำคัญมีกระดองขนาดใหญ่ติดข้างหลัง มักชอบเดินเชื่องช้า
คิกคิก
เจ้ากระต่ายตัวแสบเดินเข้าไปคุยกับ เจ้าเต่าหนุ่ม ที่กำลังหาอาหารกิน ยืนประชันหน้า
"นี่เจ้าเต่าทำไมเจ้าชอบเดินเชื่องช้า"
"ก็ข้าเดินเท่านี้ ไปเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย" ได้ยินที่เจ้าเต่ากล่าวอย่าง เฉยชา ไม่สนใจเขาเลยรู้สึกไม่ดีที่เจ้าเต่าเมินเขาอยากให้เจ้าเต่าหันมาสนใจ เลยคิดทำการเอาชนะด้วยการวิ่ง ข้าจะเอาชนะด้วยการวิ่ง
"มาแข่งวิ่งกับข้าไหม ว่าใครวิ่งเร็วกว่ากัน"
"ข้าไม่สน"
เจ้าเต่าตอบเสียงที่บ่งบอกเริ่มรำคาญมิชอบให้ผู้ใดมายุ่ง เจ้ากระต่ายกลัวไม่มาแข่งด้วยจนมีข้อตกลงว่าฝ่ายใดชนะผู้ชนะมีสิทธิ์ขออะไรกับฝ่ายแพ้
"เดี๋ยวก่อน ถ้าแข่งกันฝ่ายชนะสามารถขออะไรฝ่ายแพ้ได้"
เจ้าเต่าครุ่นคิด
"อืม ตกลง"
เย้ๆ ดีใจที่เจ้าเต่าตกลง
" เจอกันพรุ่งนี้ตะวันตรงหัวที่ต้นไม้ใหญ่ ส่วนข้าจะไปหากรรมการตัดสินเอง"
กล่าวเสร็จทั้งสองจึงแยกไปทางใครทางมันรอเวลาที่จะแข่งพรุ่งนี้
รุ่งขึ้น
เที่ยงวันทั้งคู่มารออยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ เป็นจุดนัดพบ ส่วนกรรมการการตัดสินเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ท่านราชสีห์ที่ตรงและเที่ยงธรรม
ปัง !
ทั้งคู่มาประจำที่ เมื่อได้ยินสัญญาณเจ้ากระต่ายจอมแสบออกตัวด้วยฝีเท้าที่รวดเร็วส่วนเจ้าเต่าหนุ่มที่เงียบขรึมออกตัวด้วยความเร็วที่ช้าเหมือนที่เดินอยู่ทุกวัน เดินไปเรื่อยๆอย่างสม่ำเสมอ
เจ้ากระต่ายวิ่งนำเจ้าเต่าหนุ่มมาก่อน พอมาถึงครึ่งทางก็หันกลับ ไปมองข้างหลังไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้า เต่าหนุ่ม เริ่มมองเห็นต้นไม้ต้นใหญ่ ที่แผ่ ก้านใบ ร่มรื่นน่านอน
"นอนสักพักคงไม่เป็นอะไรอย่างไรเสียเจ้าเต่าก็วิ่งไม่ทันข้าอยู่แล้ว"
เมื่อพูดกับตัวเองสิก็ตรงไปที่ต้นไม้ใหญ่ แล้วล้มตัวนอนอย่างสบาย วันนี้อากาศดีมากลมพัดตลอดทำให้อากาศเย็น เจ้ากระต่ายหลับเป็นตายไม่รู้ว่า เวลาผ่านไปเท่าไหร่
เริ่มได้ยามเย็น เจ้ากระต่ายที่นอนอย่างสบาย สะดุ้งรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาต้องเป็นอันตกอกตกใจที่ตัวเองหลับไปนาน รีบหันไปมองข้างหลังก็ไม่เห็นเงาเจ้าเต่า ก็ดีใจแต่พอหันกลับมามองข้างหน้าต้องหุบยิ้ม เพราะเจ้าเต่าหนุ่มกำลังเดินเข้าเส้นชัย
ไม่จริง!
เมื่อเห็นเช่นนั้นรีบออกวิ่งเต็มสปีด แต่เนื่องจาก จุดที่อยู่มันห่างไกลจากเจ้าเต่ามากทำให้วิ่งไม่ทันเจ้าเต่าหนุ่มกำลังเข้าเส้นชัย
ตุ๊บ !
ทรุดตัวล้มลงกับพื้นอย่างน่าสงสารที่ไม่เคยแพ้ใครแต่กลับมาแพ้ให้กับเจ้าเต่าหนุ่มที่คลานช้าต้วมเตี้ยมเสียใจมากที่ความพ่ายแพ้เพราะมาจากตนเองที่ประมาท
ประกาศผู้ชนะ
"เอาล่ะ ผู้ชนะคือ เจ้าเต่า อันเป็นที่รู้กัน ข้ามาเป็นพยานตัดสินอย่างเที่ยงธรรม ส่วนข้อตกลงระหว่างเจ้าทั้งสองจัดการกันเอง"
ราชสีห์กล่าวประกาศผู้ใดเป็นฝ่ายชนะ เหล่าสัตว์ต่างดีใจกันทั่วหน้า ที่เจ้าเต่าเอาชนะเจ้ากระต่ายที่ชอบโอ้อวด มักบอกว่าตนเก่งกว่าสัตว์ตัวอื่น ไปแสดงความยินดีกับเจ้าเต่า
เจ้าเต่าหนุ่มคลานเข้าไปหากระต่ายที่เสียใจอยู่ถึงเขาจะสงสาร แต่ข้อตกลงที่ฝ่ายชนะจะขออะไรกับฝ่ายแพ้ก็ได้ อย่างที่เข้าใจกันเจ้าเต่าเป็นสัตว์สันโดษ ไม่ยุ่งกับผู้ใด ครั้งนี้ขอสั่งสอนเจ้ากระต่ายเพียงเท่านั้น
"เจ้าคงไม่ลืมข้อตกลงใช่ไหม"