ยาพารา กินดีมีประโยชน์ ปลอดโรค ปลอดภัยจริงหรือ
เมื่อเอ่ยถึงยาพาราคงไม่มีใครบอกว่าไม่รู้จัก เพราะเป็นยาสามัญประจำบ้านมักมีติดไว้ประจำทุกบ้าน เมื่อมีอาการปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ทีไร จะเป็นยาที่ทุกคนคิดถึงเป็นอันดับแรกนั่นเอง และเป็นที่รู้กันยาพาราเซตามอลเป็นยาที่รับประทานได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ สตรีมีตั้งครรภ์ และสามารถบรรเทาอาการปวดได้หลากหลายอีกด้วย ถึงแม้ว่ายาพาราเซตามอลจะเป็นยาที่แพทย์รับรองว่าใช้ได้ปลอดภัยก็จริง แต่ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี กินเกินขนาด ย่อมเกิดผลข้างเคียงได้เช่นกัน
ดังนั้น เพื่อให้การใช้ยาพาราได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงต่อร่างกาย เรามาเรียนรู้วิธีใช้ยาพาราที่ถูกต้องกันเถอะ
ยาพาราเซตามอล คือ
ยาพารา เซตามอลคือยาแก้ปวดและลดไข้ อยู่ในกลุ่มยาที่เรียกว่ายาแก้ปวด ซึ่งการทำงานไปปิดกั้นการผลิตสารเคมีบางชนิดในร่างกายที่ทำให้เกิดอาการปวดและอักเสบ มักใช้รักษาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ยาพาราแก้ปวดฟัน ปวดศีรษะ ปวดประจำเดือน และโรคข้ออักเสบ รวมทั้งใช้ยาพาราลดไข้ มีจำหน่ายทั่วไปในหลายรูปแบบ เช่น ยาเม็ดมีทั้งยาพาราเม็ดสีเหลือง สีขาว และยาพาราเม็ดสีฟ้า พาราแคป และยาพาราน้ำ
โดยทั่วไปแล้วการใช้ยาพาราเซตามอลถือว่าปลอดภัย เมื่อใช้ตามคำแนะนำ แต่เช่นเดียวกับยาอื่นๆ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงในบางคนได้ สิ่งสำคัญคือต้องกินยาพาราในปริมาณที่กำหนดและไม่เกินขีดจำกัดต่อวัน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายของตับ และไต ที่อาจเกิดขึ้น
ประโยชน์ของยาพาราเซตามอล
เรามาดูประโยชน์หลัก ๆ ของยาพาราเซตามอล คือสามารถบรรเทาอาการปวดและลดไข้ได้ มาดูกันเลยว่ายาพาราเซตามอลสรรพคุณมีอะไรบ้าง ดังหัวข้อที่จะกล่าวต่อไปนี้ คือ
- ยาพาราเซตามอลสรรพคุณเป็นยาบรรเทาอาการปวดที่มีประสิทธิภาพและมักใช้เพื่อรักษาอาการปวดเล็กน้อยถึงปานกลาง เช่น ปวดศีรษะ ปวดประจำเดือน ปวดฟัน และปวดข้อ
- พาราเซตามอลสามารถช่วยลดไข้ได้ โดยการลดอุณหภูมิของร่างกายและทำให้รู้สึกสบายขึ้น
- พาราเซตามอลมีจำหน่ายทั่วไป โดยไม่ต้องมีใบสั่งยา ยาพาราในเซเว่นก็มีขาย ทำให้ผู้ที่ต้องการสามารถซื้อหาได้ง่าย และยาพาราเซตามอลราคาไม่แพง
- มีความปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ โดยทั่วไปแล้วยาพาราปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ รวมถึงเด็กและสตรีมีครรภ์ เมื่อใช้ตามคำแนะนำ หรือใช้ตามเอกสารกำกับยา
- ผลข้างเคียงยาพารามีน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับยาบรรเทาปวดอื่นๆ เช่น ยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่
สเตียรอยด์ (NSAIDs) และมีโอกาสน้อยที่จะทำให้กระเพาะอาหารระคายเคืองหรือมีเลือดออก - พาราเซตามอลสามารถใช้ร่วมกับยาอื่นๆ ได้อย่างปลอดภัย เช่น ไอบูโพรเฟนหรือโคเดอีน เพื่อให้การบรรเทาอาการปวดมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่าแม้ยาพาราเซตามอลจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ควรใช้ในปริมาณที่พอเหมาะและตามปริมาณที่แนะนำในฉลากยา เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
วิธีกินยาพาราเซตามอลที่ถูกต้อง
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจวิธีกินยาพาราเซตามอลที่ถูกต้อง เพื่อให้ยานั้นสามารถเข้าไปรักษาร่างกายของเราให้ได้ผลดีที่สุด โดยแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ สำหรับเด็กปละสำหรับผู้ใหญ่
วิธีกินยาพาราสำหรับเด็ก
เมื่อให้ยาพาราเซตามอลแก่เด็ก สิ่งสำคัญคือต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในเอกสารที่กำกับมาในฉลากเกี่ยวกับการใช้ยา เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิผล ต่อไปนี้เป็นเกณฑ์ในการใช้ยาพาราเซตามอลสำหรับเด็ก
- ก่อนให้ยาใดๆ แก่เด็ก สิ่งสำคัญคือต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ เช่น กุมารแพทย์ หรือเภสัชกรทุกครั้ง ซึ่งสามารถให้คำแนะนำเกี่ยวกับปริมาณที่ถูกต้องเหมาะสมตามอายุ น้ำหนัก และสุขภาพของเด็ก รวมทั้งสรรพคุณของยาพาราจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเด็ก
- ตรวจสอบขนาดและความเข้มข้น ยาพาราเซตามอลมีรูปแบบและความเข้มข้นต่างกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องตรวจสอบฉลาก เพื่อให้แน่ใจว่าให้ขนาดยาที่ถูกต้องสำหรับอายุและน้ำหนักของเด็ก ดูว่าเด็กอายุเท่านี้ยาพาราควรกินกี่เม็ด ถึงจะไม่เกินขนาด เป็นต้น
- ใช้ยาตามคำแนะนำในเอกสารกำกับยา ยาพาราเซตามอลที่ใช้กับเด็กจะมีในรูปยาน้ำหรือเป็นเม็ด ปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์หรือตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
- วิธีกินยาพารา สำหรับเด็กสามารถให้เด็กกินยาพาราพร้อมกับอาหารหรือนม เพื่อป้องกันไม่ให้ปวดท้อง หรือดูว่ายาพารากินตอนไหนได้บ้าง
- อย่าให้กินเกินขนาดที่แนะนำ การกินยาพารามากเกินไปอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเด็กได้ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือให้กินในปริมาณที่พอเหมาะและไม่เกินขีดจำกัดสูงสุดต่อวันและอย่าลืมอ่านคำเตือนในฉลากก่อนใช้ยา ให้กินได้ตามปริมาณดังนี้
- ยาน้ำพาราขนาด 80 มล. ต่อ 0.8 มล. สำหรับเด็กแรกเกิด – 3 ขวบ มีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม
- ยาน้ำพาราขนาด 160 มล.ต่อ 5 มล. สำหรับเด็กโต ช่วงอายุ 2-11 ปี มีน้ำหนักตัว 6 - 32 กิโลกรัม - จดบันทึกขนาดยาที่ให้กับเด็ก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ให้ยาพาราเซตามอลมากเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
ยาพาราเซตามอลสำหรับเด็ก เป็นยาที่ควรใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของเด็ก คุณแม่อย่าลืมอ่านเอกสารกำกับยาอย่างละเอียด ถ้ากินพาราไข้ไม่ลด ภายใน 3 วันควรพาไปพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจหาสาเหตุอย่างละเอียด จะได้รักษาได้ถูกต้อง
วิธีกินยาพาราสำหรับผู้ใหญ่
คำแนะนำทั่วไปเกี่ยวกับการรับประทานยาพาราเซตามอลสำหรับผู้ใหญ่มีดังนี้
- อย่าลืมอ่านฉลากและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างระมัดระวัง ยาพาราเซตามอลที่มีสูตรต่างกันอาจมีขนาดหรือแนวทางการใช้ต่างกัน เช่น ยาพารากินกี่เม็ดเมื่อมีอาการปวดน้อยปวดมากเป็นต้น
- ตรวจสอบปริมาณที่แนะนำและไม่เกินขีดจำกัดสูงสุดต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่กินยาพาราได้วันละกี่เม็ด ดูปริมาณที่ฉลากยาคือ ยาพารา 500 mg. ถึง 1,000 . ทุก 4 ถึง 6 ชั่วโมง ไม่ควรกินเกิน 8 เม็ดต่อวัน สูงสุด 4 กรัมใน 24 ชั่วโมง ถ้าปวดไม่มาก กินพารา 8 ชม./ครั้งก็ยังได้
- รับประทานพาราเซตามอลพร้อมอาหารและน้ำ หรือไม่กินอาหารก็ได้ แต่การรับประทานยาพาราพร้อมอาหารหรือน้ำ จะช่วยลดอาการปวดท้องที่อาจเกิดขึ้นได้ เพราะยาพาราออกฤทธิ์ภายใน 10-30 นาที
- วิธีใช้ยาพาราเซตามอลมักจะใช้ร่วมกับยาอื่นๆ เช่น โคเดอีนหรือคาเฟอีน เพื่อบรรเทาอาการปวดเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ไม่ควรใช้ยาร่วมกับยาอื่น ๆ โดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียงหรือการใช้ยาเกินขนาดได้
- พาราไม่ควรกินเกินกี่วันอย่าใช้ยาเกินระยะเวลาที่แนะนำคือไม่ควรกินพาราต่อเนื่องเกิน 5 วัน หรือสำหรับอาการปวดเรื้อรัง ที่ไม่ได้ปรึกษาแพทย์
หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับวิธีรับประทานยาพาราเซตามอล หรือหากพบผลข้างเคียงใด ๆ หรือการกินยาพาราแล้วอาการไม่ดีขึ้น ให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
วิธีเก็บยาพาราที่ถูกวิธี
หัวข้อนี้จะอธิบายเกี่ยวกับวิธีการเก็บยาพาราเซตามอลที่ถูกวิธี ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพของตัวยาและความปลอดภัย แนวทางการเก็บยาพาราเซตามอลอย่างถูกต้องและเหมาะสม มีดังต่อไปนี้
- ควรเก็บยาพาราเซตามอลในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงจากแสงแดด ความร้อน ควรเก็บในที่มีอุณหภูมิห้องไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส และความชื้นโดยตรง ถ้ายาโดยความร้อนและความชื้น อาจส่งผลต่อตัวยาและลดประสิทธิภาพทำให้ยาเสื่อมสภาพ และควรเก็บในภาชนะที่ปิดสนิท
- ควรเก็บยาพาราเซตามอลให้พ้นมือเด็กหรือสัตว์เลี้ยง เนื่องจากการกินของเด็ก โดยไม่ได้ตั้งใจอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือกินเกินขนาดอาจถึงเสียชีวิตได้
- ควรเก็บยาพาราเซตามอลไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม เพราะบรรจุภัณฑ์ที่ใส่มาได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันแสง ความชื้น และอากาศ อย่าเก็บยาพาราเซตามอลในที่มีความชื้นจะทำให้ยาเสื่อมสภาพได้เร็ว
- อย่าใช้ยาพาราเซตามอลที่หมดอายุแล้ว เพราะตัวยาอาจมีประสิทธิภาพน้อยลงหรือเป็นอันตรายได้
- ห้ามถ่ายยาพาราไปใส่ไว้ในภาชนะอื่นที่ไม่ใช่บรรจุภัณฑ์เดิม เนื่องจากจะสับสนและเพิ่มความเสี่ยงในการกินยาผิดทำให้เกิดอันตรายได้
เมื่อปฏิบัติตามคำแนะนำนี้แล้ว มั่นใจได้เลยว่ายาพาราเซตามอลที่มีอยู่ยังมีประสิทธิภาพ 100 เปอร์เซ็นต์สำหรับในการใช้รักษาโรค
ผลข้างเคียงจากยาพาราเซตามอล
โดยทั่วไปแล้วพาราเซตามอลถือเป็นยาที่ปลอดภัย ใช้กันทั่วไป เมื่อรับประทานในปริมาณที่แนะนำ หรือปริมาณที่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามพาราเซตามอลก็เหมือนยาอื่นๆ ก็อาจมีผลข้างเคียงได้ หัวข้อต่อไปนี้เป็นผลข้างเคียงยาพาราเซตามอลที่อาจเกิดขึ้นได้
- ยาพาราเซตามอลสามารถทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร เหงื่อออก เป็นระยะสั้น ๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรับประทานในขณะท้องว่าง
- อาจทำให้เกิดอาการปวดท้องหรือไม่สบาย หากรับประทานในปริมาณมาก
- ยาพาราเซตามอลทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เช่น ผื่นที่ผิวหนัง อาการคัน หรือลมพิษ ในบางกรณี อาจทำให้เกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงที่เรียกว่า แอนาฟิแล็กซิส (anaphylaxis) ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- การรับประทานยาพาราเซตามอลมากเกินไป หรือกินยาพาราเยอะผลข้างเคียง อาจทำให้ตับถูกทำลาย หากรับประทานเป็นเวลานานหรือใช้ร่วมกับแอลกอฮอล์
- พาราเซตามอลอาจทำให้จำนวนเม็ดเลือดขาวหรือเกล็ดเลือดในเลือดลดลง เกิดความผิดปกติของเลือด ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อหรือเลือดออกได้
- การใช้ยาพาราเซตามอลมากเกินไปอาจทำให้ไตเสียหายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากรับประทานเป็นเวลานานหรือใช้ร่วมกับยาอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อไตเช่นกัน
สิ่งสำคัญคือต้องรับประทานยาพาราเซตามอลตามที่กำหนดและไม่เกินปริมาณที่แนะนำ หากเกิดผลข้างเคียงใด ๆ หรือหากอาการไม่ดีขึ้น ให้ไปพบแพทย์ทันที
เรื่องที่หลายคนมักเข้าใจผิด กับ ยาพารา
การใช้ยาพาราในการบรรเทาอาการปวดต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ซึ่งมีผู้ใช้ยาหลาย ๆ คนอาจมีความเข้าใจที่สับสน หรือเข้าใจทั้งที่ถูกและผิดปะปนกันไปเกี่ยวกับสรรพคุณของยาพารา ในย่อหน้านี้เราจะมาไขข้อข้องใจที่หลาย ๆ คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาพารา เพื่อให้เข้าใจได้ถูกต้องและตรงกันมาดูกันเลย
ความเข้าใจผิดอันดับแรกเกี่ยวกับยาพาราเซตามอลคือเป็นยาไม่มีอันตรายใด ๆ และสามารถรับประทานได้ไม่จำกัดจำนวน โดยไม่เสี่ยงอันตรายต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่กล่าวนี้ไม่เป็นความจริง ยาพาราเซตามอลปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ก็ต่อเมื่อรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ แต่อาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงหากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป หรือใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ ที่มีตัวยาพาราเซตามอลรวมอยู่แล้ว อาจทำให้รับประทานเกิดขนาดมีอันตรายต่อร่างกายได้
ความเข้าใจผิดอีกประการหนึ่งคือ ยาพาราเซตามอลใช้ได้ผลกับอาการปวดทุกประเภท แม้ว่ายาพาราเซตามอลจะเป็นยาแก้ปวดที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ก็ไม่ได้ผลกับอาการปวดทุกประเภท เช่น ปวดเส้นประสาทหรือการอักเสบ ในการปวดกรณีเหล่านี้ ยาอื่นๆ อาจมีประสิทธิภาพในการรักษามากกว่า
และสุดท้าย อาจมีบางคนคิดว่ายาพาราเซตามอลเป็นยารักษาอาการพื้นฐานที่ไม่ทำให้เกิดอาการปวดหรือมีไข้ อย่างไรก็ตาม ยาพาราเซตามอลช่วยบรรเทาอาการได้ชั่วคราวเท่านั้น และไม่ได้รักษาโรคที่เกิดโดยมีต้นเหตุ หากมีอาการเจ็บปวดหรือมีไข้อย่างต่อเนื่อง ควรไปพบแพทย์ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป
สรุป
ยาพาราเซตามอล เป็นยาที่มีสรรพคุณรักษาอาการปวดหัว ปวดเข่า ปวดขา ปวดฟัน หรือมีไข้ ทุกคนสามารถใช้ยาพาราเซตามอลในการบรรเทาอาการได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณการรับประทานที่เหมาะสมกับน้ำหนักตัว เพื่อลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียง ทั้งนี้ ต้องเก็บรักษาไม่ให้โดนแสง ความชื้น และเก็บในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิท เพื่อรักษาประสิทธิภาพของยาให้เกิดผลดีที่สุด