โต๊ะกับเก้าอี้
โต๊ะกับเก้าอี้นั้นเป็นของคู่กันที่ไม่จำเป็นต้องใช้คู่กันในทุกครั้ง
บางทีเราอาจแค่ต้องการนั่งบนเก้าอี้
และบางทีเราก็อาจแค่ต้องการโต๊ะไว้วางของเพียงอย่างเดียว
แต่...ถ้ามันอยู่ด้วยกันก็จะดูสมบูรณ์แบบได้มากกว่า
และประโยชน์ใช้สอยมันก็จะมากกว่าด้วย
เหมือนกับผู้หญิงกับผู้ชายที่เป็นของคู่กัน
..อย่างไรอย่างนั้น
มีเพื่อนคนหนึ่งถามฉันต่อว่า
แล้วตกลงผู้หญิงหรือผู้ชาย
ใครกันที่เป็นโต๊ะ ใครกันที่เป็นเก้าอี้"
ฉันตอบไปว่า
"โต๊ะน่าจะเป็นผู้ชาย
และเก้าอี้น่าจะเป็นผู้หญิง
เพราะโต๊ะสามารถมีเก้าอี้
ได้มากกว่าหนึ่ง แต่ถ้า
เมื่อไรก็ตามที่เก้าอี้ริจะมีโต๊ะมากกว่าหนึ่งจะดูไม่งาม
และสังคมจะรุมประนามทันที" (ฮา)
แล้วเพื่อนคนเดิมมันก็ถามต่ออีกว่า
"ก็แล้วจะมีโต๊ะสักกี่ตัวในโลกนี้ ที่มันอยากจะมีเก้าอี้แค่เพียงตัวเดียว"
ฉันก็เลยตอบมันไปว่า
"ก็โต๊ะเขียนหนังสือไงแก..
แกเคยเห็นใครวางเก้าอี้ไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือมากก ว่าหนึ่งตัวกันบ้าง
ไม่เหมือนโต๊ะกินข้าวกับโต๊ะรับแขก
พวกนี้เจ้าชู้
มีเก้าอี้ตั้งเยอะ บางบ้านก็ 4 ตัว
บางบ้านก็ 6 ตัวหรืออาจมากกว่า"
"อ๊ะ ..แต่โต๊ะเครื่องแป้งเค้าก็รักเดียวใจเดียวเหมือนกันนะ
.มีเก้าอี้ตัวเดียวเหมือนกัน"
มันเสริมให้
"เออ..จริงว่ะ"
"อาจเป็นเรื่องของขนาดก็ได้มั้งแก.
ก็โต๊ะกินข้าวน่ะมันมีขนาดใหญ่
มันก็เลยต้องการเก้าอี้มากๆ
เพื่อมาเสริมบารมี
เหมือนคนรวยๆ ชอบมีอีหนูเยอะๆ ไว้ประดับบารมี
ส่วนโต๊ะเขียนหนังสือ
โต๊ะเครื่องแป้งน่ะ ขนาดมันไม่ใหญ่
เหมือนคนฐานะปานกลางไปจนถึงยากจน
จะมีเมียมากกว่าหนึ่งก็เลี้ยงไม่ไหว"
มันอธิบายเสียยืดยาว แล้วฉันก็ฮาอีก
ในความช่างคิดของ
ทั้งมันและฉัน มานั่งนึกแล้วก็อดขำไม่ได้
ในความเหมือนโดยบังเอิญระหว่างโต๊ะกับเก้าอี้
และความสัมพันธ์ระหว่างหญิงกับชาย
มาพูดถึงเก้าอี้กันบ้าง
เพื่อนมันถามฉันต่อว่า
"แล้วแกว่าเก้าอี้แบบไหนในโลกวะ
ที่มันจะชอบมีโต๊ะมากกว่าหนึ่ง"
มันเล่นเอาฉันคิดนานอยู่เหมือนกัน
"ก็เก้าอี้ล้อเลื่อนไงวะ
พวกนี้ชอบเลื่อนไปโต๊ะโน้น ย้ายมาโต๊ะนี้
เปลี่ยนโต๊ะอยู่เรื่อย"
คราวนี้เปลี่ยนมาเป็นมันบ้างที่ขำ
"เค้าเรียกมีรักสำรองเผื่อเลือกใช่ไหมแบบนี้" มันว่า
คงยุ่งน่าดูถ้าเก้าอี้ล้อเลื่อนมาเจอกับโต๊ะกินข้าว
เราก็เลยไม่เคยเห็นใครเอา
เก้าอี้ล้อเลื่อนมาตั้งกับโต๊ะกินข้าวเลยสักที
มันก็คงเหมือนการที่แม่เหล็กขั้วเดียวกันมันจะผลักกันนั่นแหละ
เราเลยไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่นัก
ที่ผู้หญิงไวไฟจะมาจับคู่กับผู้ชายเจ้าชู้
โดยมากถ้าอีกฝ่ายเจ้าชู้
อีกฝ่ายจะสงบสยบอยู่เสียมากกว่า
มันถึงจะอยู่ด้วยกันได้ ไปด้วยกันรอด
ในความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน
ฉันว่าเราไม่จำเป็นต้องเป็นโต๊ะกับเก้าอี้ที่สวยหรูงดงามมากมายอะไรนัก
แค่พอดูได้ ใช้งานได้
มันก็ไม่น่าเกลียดอะไรแล้วล่ะ
เอาแค่แบบโต๊ะเขียนหนังสือ
มีโต๊ะหนึ่งเก้าอี้หนึ่ง
นั่งแล้วรู้สึกสบาย
ถ้าเหนื่อยนักก็ฟุบหน้าหลับตาพักได้
หรือถ้าจะสวยงามก็ขอให้มันดูสวยงามแค่อย่างโต๊ะเครื่องแป้ง
ที่ดูดีสวยงาม เพราะหมั่นดูแลกันและกัน
เป็นกระจกคอยสะท้อนซึ่งกันและกัน
อยู่ร่วมกันโต๊ะหนึ่งเก้าอี้หนึ่งอย่างเข้าใจ
อย่าให้ต้องเป็นเหมือนโต๊ะกินข้าว
ที่ยิ่งใหญ่ร่ำรวย
แต่ก็ไม่สามารถดูแลเก้าอี้ที่มีได้อย่างทั่วถึง
กว่าจะแบ่งความห่วงใยมาใส่ใจแต่ละที
ก็คงต้องรอจนเหงาเฉาตายกันไปเสียก่อน
หรือไม่จำเป็นต้องสวยงามหรือหรูหรา
ถึงขนาดโต๊ะรับแขก
ที่มีเอาไว้แค่เพียงอวดชาวบ้านที่ผ่านไปผ่านมา
ใครเห็นใครพบก็สบายใจ
แต่เก้าอี้(โชฟา)นี่สิช้ำ
ต้องโดนโถมโดนทับไม่รู้จักเท่าไหร่
เพราะใครๆ ก็พากันแวะ
ถ้าจะมีความรักฉันอยากรักแบบโต๊ะเขียนหนังสือ
หรือโต๊ะเครื่องแป้งก็พอ ไม่ยิ่งใหญ่
ไม่หรูหรา แต่อบอุ่นพอให้บ้านน่าอยู่อาศัย
ฉันว่าถ้าแท้จริงแล้วคนเราวัดคุณค่ากันจากภายในจิตใจ
โต๊ะกับเก้าอี้ก็คงไม่ต่าง
ตรงที่เราวัดคุณค่ามันจากประโยชน์ใช้สอยมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก
บางทีเก้าอี้อาจขาหักขาโยกไปบ้างนะ
ถ้าตั้งเองไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
อาศัยพิงโต๊ะเอาก็ได้
ก็ไหนๆ เราก็คู่กันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
หรือบางที
โต๊ะอาจสึกมีรอยบิ่นรอยขีดข่วนไปบ้างก็ไม่เป็นไรหรอกนะ
เพราะเก้าอี้เค้าจะคอยบดบังให้เอง
ความจริงแล้ว คนเรารักกันมันไม่ต้องการองค์ประกอบอะไรที่มากมายเลย
แค่หมั่นเติมเต็มซึ่งกันและกันก็พอแล้ว
เพราะโต๊ะกับเก้าอี้ที่ไม่เข้าชุดกัน เมื่อจับมาวางคู่กัน
ประโยชน์ใช้สอยมันก็ไม่ได้ลดน้อยลงไป
แค่ความสวยงามมัน(อาจจะ)ลดน้อยลงไปเท่านั้นเอง
แล้วบ้านของคุณเองล่ะอยากให้มีโต๊ะกับเก้าอี้แบบไหนเคยคิดเอาไว้บ้างหรือเปล่า..
.......
อับราฮัม ลินคอร์น เคยกล่าวไว้ว่า
"คนเราจะมีความสุขได้เสมอทุกเมื่อถ้าตั้งใจจะให้ตนเองมีความสุข"
ในความเป็นจริงเราไม่สามารถเลือกได้ดังใจเราทุกอย่าง
ถ้าคุณเป็นเก้าอี้
คุณไม่มีทางรู้ได้ในทั้งหมดทุกส่วนว่าโต๊ะของคุณเขาจะเป็นอย่างไร
คุณอาจไม่จำเป็นที่จะต้องชอบในทั้งหมดของโต๊ะของคุณ
และถ้าคุณเองเป็นโต๊ะ
คุณก็คงไม่มีทางที่จะพอใจในทุกส่วนที่เก้าอี้ของคุณมี
เพราะความสมบูรณ์แบบที่แท้จริง
ไม่มีอยู่บนโลกใบนี้....
ฉันเชื่ออย่างนั้น หากแต่
ศิลปะสุดยอดของการอยู่ร่วมกันคือ การให้อภัย
อะไรที่เค้าขาดไปบ้างเราก็หมั่นเติม
อะไรที่เค้าเกินไปบ้างเราก็เอามาเติมให้เราเอง
ถ้าเป็นแบบนี้เราจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างงดงามมากกว่าไหม