ถ้าไม่มีใจ..อย่าทำแบบนี้เลย
“ก็ไม่รู้มันคืออะไร ที่แล้วมามันคืออะไร ที่เข้ามาคอยมาทำดีและอยู่ใกล้ชิดกัน บอกได้ไหมมันคืออะไรที่ให้มา มันคืออะไร ทั้งสายตาที่เคยมองอย่างซึ้งใจตกลงแปลว่าไง” เพลง-“คืออะไร” มอส ปฏิภาณ ปฐวีกานต์
การที่คนสองคนคบกัน อาจเริ่มต้นจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจีบอีกฝ่ายก่อน หลังจากฝ่ายที่ถูกจีบเริ่มมีใจ จึงครบกระบวนการของความรัก แต่มีกรณีที่อีกฝ่ายทำทุกอย่างเหมือนคนจีบกันคบกัน จนคนทั่วบ้านทั่วเมืองเข้าใจว่าทั้งคู่ต้องเป็นแฟนกัน สุดท้ายกลับบอกว่าไม่มีอะไร ไม่ได้คิดอะไร ดังนั้นถ้าคุณเป็นฝ่ายที่กำลังทำพฤติกรรมเหล่านี้อยู่โดยที่ไม่ได้รู้สึกรักหรือรู้สึกชอบแล้วล่ะก็ กรุณาหยุดการกระทำเหล่านี้ด้วยครับ เพราะมันเป็นการทำร้ายอีกฝ่าย โดยที่คุณอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็เป็นได้ การกระทำใดบ้างที่สามารถทำให้อีกฝ่ายคิดว่าคุณมีใจให้นั้นมีดังต่อไปนี้เลยครับ
ให้ความหวังด้วยคำพูด
คำพูดที่สองแง่สองง่ามเกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศ เป็นคำพูดที่สามารถทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดและตีความไปได้ว่าคุณมีใจให้กับเค้า หรือคำพูดที่ส่อไปในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรัก เช่น รอใครซักคนมาเติมเต็ม รอเนื้อคู่ หาแฟนอยู่เหมือนกัน คำพูดในทำนองเชิญชวนให้อีกฝ่ายมาจีบ
แตะเนื้อต้องตัว
การถูกเนื้อถูกตัวอีกฝ่าย เป็นพฤติกรรมที่อีกฝ่ายสามารถสัมผัสและรับรู้ได้ถึงความจริงใจของคุณ คนคบกันเป็นเพื่อนหรือคนรู้จัก ควรรักษาระดับของการสัมผัสไม่ให้มากเกินไป การจับมือถือแขนถือเป็นพฤติกรรมที่เพื่อนไม่ค่อยทำกัน คนมองจากภายนอกคงเข้าใจว่าคุณทั้งสองคนเป็นแฟนกัน ที่สำคัญฝ่ายที่โดนสัมผัสจิตใจอาจเตลิดเปิดเปิงว่าคุณคิดอะไรกับเค้าเช่นกัน
โทรหาวันละหลายๆ รอบ
การโทรหากันระหว่างเพื่อนฝูง ถือว่าเป็นเรื่องปรกติ ในกรณีคุณเป็นเพศตรงข้ามที่เพิ่งรู้จักหรือรู้จักกันมานานแล้ว กลับโทรรายงานสารทุกข์สุกดิบ สามเวลาหลังอาหาร เป็นอะไรที่มากกว่าคำว่าเพื่อนจะทำกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ระหว่างคำว่าเพื่อนกับคำว่าแฟน รวมถึงเรื่องคำพูดคำจาที่สามารถทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดได้
คำที่เพื่อนไม่ใช้กัน
เป็นอีกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพูดจา แต่เน้นลงไปเฉพาะคำที่ใช้ คำพูดที่คนเป็นแฟนพูดกัน เช่นคำว่าคิดถึง คนเป็นเพื่อนกันไม่ได้เจอกันเป็นเวลานานสามารถใช้ได้เป็นเรื่องปรกติ แต่สำหรับคนเจอกันบ่อยๆ หรือคุยกันบ่อยๆ คำว่าคิดถึงบางครั้งดูจะมากเกินไปสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน
ใช้เวลาด้วยบ่อยๆ โดยไม่เคลียร์ความรู้สึกก่อน
การคบหากันมีทั้งแบบที่จีบอย่างเปิดเผย พูดจาตกลงกันเป็นเรื่องเป็นราว หรือว่าค่อยๆ ซึมซับไปเรื่อยๆ จนต่างฝ่ายหรือทั้งสองฝ่ายเข้าใจโดยไม่ต้องพูดกัน รู้สึกตัวอีกทีต่างคนต่างรู้ว่าคบกันแล้ว อย่างหลังเป็นแบบค่อนข้างเสี่ยงสำหรับคนที่คิดไปเองข้างเดียวว่าเป็นแฟนกันแล้ว ถ้าคุณไม่มีใจให้กับอีกฝ่ายตั้งแต่แรก ควรแสดงให้เห็นว่าที่ใช้เวลาร่วมกัน เป็นการกระทำที่บริสุทธิ์ใจ
แคร์เกินเหตุ
โดยไม่บอกอีกฝ่ายว่าเป็นอุปนิสัยส่วนตัวที่สนใจคนรอบข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเพื่อน คนได้รับการดูแลจะได้ไม่คิดมาก การแสดงความรู้สึกห่วงใยใส่ใจ เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์ที่เลียนแบบกันไม่ได้ ทำให้เป็นที่รักของคนรอบๆ ข้าง แต่ก็มีผลเสียที่สามารถทำให้คนใกล้ๆ ตัวเกิดความเข้าใจผิดได้ ถ้าคุณได้แสดงสิ่งเหล่านี้และเริ่มรู้สึกว่ามีใครกำลังเข้าใจผิดในตัวคุณอยู่ คุณควรจะออกตัวหรือทำให้อีกฝ่ายรู้ว่าคุณไม่ได้คิดอะไร
เรื่องของการทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดว่ามีใจให้นั้น มีอยู่สองประเภทคือ ประเภทไม่ได้ตั้งใจแต่แป็นพฤติกรรมหรือนิสัยส่วนตัวทำโดยที่ไม่คิดอะไร ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝง อีกประเภทคือ พวกคนเจ้าชู้ชอบเล่นกับความรู้สึกของคนอื่น เวลาทำให้อีกฝ่ายหลงชอบจะรู้สึกดี รู้สึกเก่งที่สามารถหลอกอีกฝ่ายได้ มีทั้งแบบเล่นๆ ไปวันๆ กับพวกจริงจังหวังผลประโยชน์ทั้งเรื่องของร่างกายหรือทรัพย์สินเงินทอง ไม่ว่าเป็นคนประเภทไหนก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ความรู้สึกของคนอื่นไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะในวันนึงถ้าคุณไปเจอคนที่คุณรักและจริงใจด้วย แต่กลับถูกหลอกเหมือนที่คุณเคยทำกับคนอื่นไว้ วันนั้นคงเป็นวันที่คุณคงเสียใจ สำหรับคนที่กำลังตกอยู่ในสถานการณ์เหล่านี้ เพื่อความสบายใจควรถามอีกฝ่ายให้แน่ใจกับพฤติกรรมของเค้า อย่าปล่อยให้เวลาล่วงเลย สุดท้ายอาจกลายเป็นคุณคิดไปเอง หรือเป็นคุณที่ต้องเสียเวลาให้กับคนไม่มีใจให้คุณ ควรใช้สติมากกว่าอารมณ์ พิจารณาถึงสิ่งที่เค้าทำ ทำเพราะอะไร ทำไปโดยไม่คิดอะไร ทำเพราะมีใจให้ ทำเพราะชอบ ทำเพราะรักคุณ หรือมีความนัยแอบแฝง สิ่งที่ควรระวังคือเวลาคนเรามีความรักแล้วมักจะเข้าข้างตัวเองกันทุกคนแหล่ะครับ