“ดัชนีมาม่า” เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจได้อย่างไร
โพสท์โดย ลูกสาวอบต
ภาวะวิกฤตราคาน้ำมันที่ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงอดีตที่ผ่านมาได้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก โดยผู้บริโภคส่วนใหญ่ต้องแบกรับภาระของราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ถึงแม้ว่าในขณะนี้ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลงแล้วก็ตาม อัตราเงินเฟ้อกลับไม่ได้ดูเหมือนว่าลดลงตามมา สาเหตุเนื่องมาจากปัจจัยการกระตุ้นทางด้านอุปสงค์รวมผ่านทางนโยบายต่างๆของภาครัฐ ภาวการณ์นี้ได้ส่งผลให้ผู้บริโภคจำเป็นที่จะต้อง “รัดเข็มขัด” และเลือกบริโภคสินค้าที่มีราคาถูกทดแทน โดยเฉพาะรสนิยมในการบริโภคอาหารซึ่งเปรียบเสมือนกับตัวชี้วัดโดยตรงทางด้านการกินอยู่ของประชาชนในประเทศ
เมื่อว่าด้วยเรื่องการบริโภคอาหาร รสนิยมของคนไทย (รวมถึงคนเอเชียตะวันออก) ที่ชอบบริโภคอาหาร “ประเภทเส้น” เพราะสะดวกต่อการเตรียม และมีรสชาติที่หลากหลาย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจึงเป็นอาหารที่มีบทบาทต่อการบริโภคของคนไทยเราเป็นอย่างมาก (จนถึงขั้นเคยมีการแข่งขันแฟนพันธ์แท้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาแล้ว) ด้วยเหตุนี้ “ยอดขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ได้ถูกใช้เป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่สะท้อนถึงภาวการณ์เศรษฐกิจของประเทศ (เฉกเช่นเดียวกับประเทศในแถบตะวันตกที่ใช้ปริมาณการบริโภคมันฝรั่งที่ใช้ทำ French Fries เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆด้วยเช่นกัน) โดยที่ “การบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้นในระยะสั้นสามารถสะท้อนถึงภาวการณ์ของเศรษฐกิจที่กำลังหดตัว”
จากผลการวิจัยทางด้านการตลาดของ บริษัทนาโนเสิร์ช พบว่า ในเดือนสิงหาคม 2548 ที่ผ่านมานั้น พฤติกรรมของผู้บริโภคต่อการเลือกซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเปรียบเทียบกับช่วงเดือนก่อนหน้านี้พบว่าผู้บริโภคมีพฤติการการซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นร้อยละ 56 โดยเฉพาะผู้บริโภคในเขตกรุงเทพและปริมณฑลที่ได้ระบุว่าสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน (ซึ่งสูงถึง 70 เหรียญต่อบาร์เรลในช่วงระยะเวลานั้น) ผู้บริโภคระบุว่าราคาน้ำมันได้ส่งผลพฤติกรรมการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของตนถึงร้อยละ 39 นอกจากนี้ จากการสำรวจทางการตลาดยังพบว่าร้อยละ 73.7 ของคนในกลุ่มนี้ได้ตัดสินใจในการซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว
ทฤษฎีผู้บริโภค (Consumer Theory) ของวิชาเศรษฐศาสตร์สามารถใช้ในการอธิบายพฤติกรรมดังกล่าวได้เป๋นอย่างดี โดยได้จัดหมวดให้บะหมี่กึ่งสำเร็จอยู่ในหมวดของ “สินค้าด้อย” (Inferior Goods) ซึ่งเป็นสินค้าที่มีราคาถูกและผู้บริโภคส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่บริโภคเมื่อตนมีรายได้ที่สูงขึ้น แต่เลือกที่จะบริโภคสินค้าประเภทอื่น (อย่างอาหารในที่ขายตามร้านค้าต่างๆ) ที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีกว่าและมีราคาสูงกว่า ในขณะเดียวกัน เมื่อรายได้ของผู้บริโภคโดยส่วนใหญ่ลดลง ผู้บริโภคจะเปลี่ยนพฤติกรรมมาเลือกบริโภคสินค้าด้อยที่มีราคาถูกกว่านี้ ถึงแม้ว่าจะมีคุณค่าทางอาหารต่ำกว่าก็ตาม ในกรณีของผลกระทบจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นได้ส่งผลให้สินค้าและบริการประเภทอื่นๆได้เริ่มทยอยปรับตัวสูงขึ้น ทฤษฎีผู้บริโภคได้อธิบายถึงผลกระทบ 2 ประการที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคคือ
• ผลกระบบจากรายได้ (Income Effect) โดยกล่าวว่าราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นจะลดอำนาจในการซื้อ (Purchasing Power) ของผู้บริโภคลง ทำให้ผู้บริโภคเลือกที่จะบริโภค “สินค้าทั่วไป” (Normal Goods) อย่างเข้าไปนั่งกินอาหารตามร้านอาหาร ลดลง และเลือกที่จะบริโภคสินค้าด้อยอย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น
• ผลกระทบจากการทดแทน (Substitution Effect) โดยว่าผู้บริโภคเลือกที่จะบริโภคสินค้าทดแทนที่มี “ราคาโดยเปรียบเทียบ” (Relative Price) ต่ำกว่าอีกสินค้าหนึ่ง ซึ่งในกรณีนี้ ราคาน้ำมันได้ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทต่างๆ รวมไปถึงอาหารสำเร็จรูป ในขณะที่ราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลับยังมีราคาต่ำโดยเปรียบเทียบ (ตกที่ต่ำสุดซองละประมาณ 5 บาทในขณะที่ราคาอาหารตามร้านจะมีราคาอยู่ที่ 30-40 บาท) ผลกระทบจากการทดแทนนี้ได้อธิบายว่าผู้บริโภคจะเลือกที่จะบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นทดแทนกับราคาสินค้าประเภทอื่นๆที่มีราคาแพงกว่า
สาเหตุหลักที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสามารถตั้งราคาขายที่ค่อนข้างต่ำและไม่จำเป็นที่ที่ผลิตจะต้องปรับราคาให้สูงขึ้นเหมือนกับสินค้าประเภทอื่นๆเนื่องมาจากกลยุทธ์ในการผลิตของผู้ผลิตที่เน้นทั้งทางด้าน 1) “การประหยักต่อขนาด” (Economies of Scale) ที่ผลิตในประมาณมากเพื่อให้ได้ต้นทุนต่อหน่วยที่ต่ำที่สุด และ 2) การพัฒนารสชาติใหม่ๆของผลิตภัณฑ์ (Product Differentiation) ที่ทำให้ผู้ผลิตสามารถจับกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น และสามารถที่จะปรับแผนการผลิตเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน (Cost-Effective) บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปได้ถูกผลิคออกมาด้วยรสชาติใหม่ๆและนวัตกรรมใหม่ๆอยู่เสมอ พร้อมไปกับการมีการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ การลงทุนขยายโรงงานเพิ่ม ซื้อเครื่องจักรใหม่ และมีการทำวิจัยทางการตลาดเพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผู้หนึ่งที่สามารถเข้าใจสภาวะการณ์ทางการตลาดได้ดี และสามารถปรับตัวเพื่อให้ตนเองเป็นผู้ได้เปรียบ
จากการวิเคราะห์ข้างต้นจะเห็นได้ว่า ผลกระทบทั้งสองประการได้ได้อธิบายว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากวิกฤตการน้ำมันได้ส่งผลต่อการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหากแต่เป็นเพียงการวิเคราะห์ในระยะสั้น การบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสามารถใช้ในการเป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ “อย่างไม่เป็นทางการ” ที่ดีได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ “ดัชนีชี้วัดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” (หรือที่หลายคนเรียกว่า “ดัชนีมาม่า (Mama Index)” ซึ่งเป็นยี่ห้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดและมีชื่อที่ติดหูผู้บริโภคมากที่สุด) ไม่สามารถถูกใช้เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่เหมาะสมอย่างเป็นทางการได้ โดยเฉพาะเมื่อต้องพิจารณาเศรษฐกิจในระยะยาว เนื่องจาก ประการแรกที่ผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจเลือกที่จะมีรสนิยมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปขึ้นอยู่กับรสนิยมการบริโภคของแต่ละคน เช่นบางคนอาจเลือกที่จะบริโภคโจ๊กสำเร็จรูปหรือขนมปังที่มีราคาถูกแทน ประการที่สอง ผู้บริโภคอาจจะไม่เปลี่ยนแปลงการบริโภค โดยอาจคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงอาจเป็นเพียงภาวการณ์ชั่วคราว ซึ่งส่งผลให้อาจจะไม่มีเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคเลยก็ได้ และ ประการที่สาม ยังมีสาเหตุอื่นๆอันส่งผลให้ผู้บริโภคจะเลือกซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากผลกระทบทางน้ำมัน เช่น การมีรสชาติใหม่ๆให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองอยู่เสมอ การเก็บรักษาไว้ได้นานของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอันเป็นคุณสมบัติเฉพาะในปัจจุบันที่มีโฆษณาชวนเชื่อที่ออกมาแข่งขันกันอย่างรุนแรง (Aggressive Advertisement) รวมไปถึงการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรในเขตเมืองที่มีแนวโน้มในการบริโภคบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นอยู่แล้ว เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าจะพิจารณาแค่เพียงในระยะสั้นแล้ว ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคงจะยินดีไม่น้อยในยุควิกฤตการราคาน้ำมันนี้ ซึ่งยังรวมไปถึงผู้ผลิตอาหารประเภทอื่นที่ใกล้เคียงกันอย่างเช่นขนมปัง ซึ่งล่าสุดเพิ่งมีผู้ผลิตขนมปังรายใหญ่รายหนึ่งได้ออกมาประกาศแล้วว่าตนจะใช้สภาวการณ์เงินเฟ้อดังกล่าวเป็นปัจจัยในการกระตุ้นยอดขายของตน
15th November 2005 โดย ศาสตราจารย์ ดร.พิริยะ ผลพิรุฬห์
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
16 VOTES (4/5 จาก 4 คน)
VOTED: zerotype, ซาอิ, tOmgAng at postjung
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
คลังเขมรเกลี้ยง ฮุนเซน ขอเงินเดือนเอกชน 5% อ้างช่วยชาติ
ปุ๋ยล็อตใหญ่ ไปชายแดนเกือบ 3,000 นาย
เจ้าของห้องเช่าถูกคู่สามีภรรยาฆ่าและยัดในกระเป๋าหลังทวงค่าเช่าที่ค้าง 4 เดือน แม่บ้านช่วยขวางทางหนีได้ทันเวลา
อดีตกัปตันเรือยอชต์สุดหรู ถูกจับฐานเชื่อมโยงกับแก๊งในเขมร
"บักบอย" อินฟลูฯ เขมรปากดี! พาดพิง "คนลาว"..กล่าวหาว่าเลียฝ่ายไทย
“คาล์ฟคิก” ท่าเตะเงียบที่ทำให้นักมวยไทยหลายคน ยางแตกกลางยก
เบอร์ประเทศไหนกันยาวขนาดนี้เดาได้เลยว่ามิจฉาชีพแน่ ๆHot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
คิม อูบิน และ ชิน มินอา แต่งงานวันนี้ บริจาคเงิน 300 ล้านวอน และ มี อี กวางซู เป็นพิธีกร
“คาล์ฟคิก” ท่าเตะเงียบที่ทำให้นักมวยไทยหลายคน ยางแตกกลางยก
เขมรจับ นกพิราบสายลับ อ้างติด GPS ชี้เป้าให้ F-16 แต่สุดท้ายเป็นแค่นกแข่งธรรมดา



