เมื่อเราตายไป...
ครั้นเมื่อเราหมดอายุขัยหรือเสียชีวิตไป เราก็จะไปอยู่ในอีกภพภูมินึงหรือเรียกว่า โลกแห่งวิญญาณ เมื่อตายไปแล้วก็จะมีเพียงดวงจิตเปล่าๆไปเท่านั่น เสื้อผ้าอาภรติดตัวไปสักชิ้นก็ไม่มี มีเพียงกรรมดีและกรรมชั่ว หรือเรียกสั้นๆว่า บุญ กับ บาป ท่านยมฑูลเป็นผู้นำพาดวงวิญญาณเรานั้นไปยังหน้าบัลลังก์ตัดสินว่าเราจะได้ไปอยู่ในภพภูมิใด ผู้ที่ทำหน้าที่ในการตัดสินบุญและบาปก็คือ "ท่านพญายมราช" อยู่ที่หน้าบัลลังก์จะมีจอฉายภาพ บันทึกกรรมของเรา ท่านพญายมราชจะถามเราว่า "ครั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ท่านเคยทำบุญอะไรเอาไว้บ้าง " ท่านจะถามอย่างนี้ 3 ครั้ง เพื่อให้เราได้ระลึกนึกถึงบุญกุศลที่เคยทำ ดวงวิญญาณที่เคยสร้างบุญกุศลก็จะนึกออกว่าตอนมีชีวิตอยู่ตนนั้นได้เคยสร้างบุญอะไรไว้บ้าง แน่นอนว่าจะโกหกไม่ได้เลย เพราะภาพจะปรากฏขึ้นที่หน้าบัลลังก์ ว่าเราเคยทำสิ่งนั้นๆจริงหรือไม่
ขณะที่้เราได้นึกถึงกุศลกรรมที่ได้เคยทำเสื้อผ้าอาภรต่างๆจะบังเกิดขึ้นตามกองบุญที่เราทำเราสร้าง จากนั้นท่านพญายมราชก็จะตัดสิน ว่าเรานั้นจะได้ไปอยู่ในภพภูมิใด ตามกำลังแห่งกองบุญที่สร้าง บางดวงวิญญาณตอนที่มีชีวิตอยู่ไม่เคยสร้างบุญ สร้างกุศลกรรมเลย มัวหลงแต่อยู่กับกิเลสต่างๆ เมื่อท่านพญายมราชได้ถามครบ 3 ครั้งแต่ยังนึกไม่ได้ ก็จะต้องถูกตัดสินให้ไปชดใช้กรรมที่ตนเองก่อ บ้างก็ตกไปสู่ขุมนรก ทนทุกข์ทรมาน บ้างก็เกิดเป็นเดรัจฉาน ชดใช้กรรม
บางดวงวิญญาณเคยทำบุญแต่มีบาปหนา ก็ทำให้นึกไม่ออกว่าตนนั้นเคยทำกรรมดีอะไรไว้บ้างก็ต้องไปชดใช้กรรมนั้นๆที่ตนเองกระทำเอาไว้....
และบางดวงวิญญาณในขณะที่มีชีวิตอยู่ สร้างแต่กรรมดี จิตใจเมตตา ทำบุญไม่เคยขาด ก็จะไม่ต้องมารับการตัดสิน จักได้ไปเสวยกองบุญที่ตนนั้นได้ทำทันที
ส่วนอีกดวงวิญญาณที่ไม่ต้องรอการตัดสิน คือตอนที่มีชีวิตอยู่สร้างแต่กรรมชั่ว ชอบทำร้ายเบียดเบียนชีวิตผู้อื่น ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ทำร้ายผู้ให้กำเนิดผู้มีคุณ ทำร้ายสงฆ์สาวก ความชั่วต่างๆวิญญาณพวกนี้พอตายไป ไม่ต้องรอตัดสิน ไปเป็นเปรตทันที
***นี้แหละครับที่หลายคนสงสัยว่าตายแล้วจะไปที่ไหน ทุกอย่างอยู่ที่เราเลือกทำเลือกเป็น ตอนนี้ยังมีโอกาสแก้ไข เพราะยังมีลมหายใจ แต่ถ้าตายไปแล้วหรือหมดลมหายใจไปแล้ว ไม่มีแล้วนะโอกาสที่จะได้ทำ...ทุกครั้งที่เราได้ทำบุญหรือทำความดี ขอให้ได้อธิษฐานว่า ขอให้ข้าพเจ้าได้จำบุญนี้ สิ่งที่ทำนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ขอให้จำได้ด้วยเทอญ...สาธุ
#ธรรมทาน
Cr.Bio Rachata