หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

โง่มานาน!! เหตุผลที่ไม่กินน้ำมันหมู ถ้าได้รู้ถึงคุณประโยชน์อันมากล้นต้องคิดใหม่

โพสท์โดย ลูกสาวอบต

 

 

น้ำมันหมู”ของดีรุ่นคุณตาคุณยาย  ที่ถูกใครๆหลงลืม หรือเข้าใจผิดมานาน  ตอนนี้กำลังกลับมาได้รับความสนใจ ของผู้บริโภคในการนำมาประกอบอาหารอีกครั้ง

จนทำให้ขณะนี้ “คนรุ่นใหม่”ที่ชอบทำอาหาร ก็หันมาเลือกใช้น้ำมันหมู มาใช้ประกอบอาหารแทนน้ำมันพืชกันมากขึ้น เพราะตอนนี้มีข้อมูลมากมายที่ออกมายืนยันว่า”น้ำมันหมู”ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายอย่างที่หลายคนเข้าใจกันผิดๆ

“น้ำมันหมู” เป็นน้ำมันที่ได้จากธรรมชาติแท้ๆ ที่มีกรดไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูง ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับคลอเลสเตอรอลดี (HDL) แถมทนต่อความร้อน จึงไม่เปลี่ยนเป็นไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นตัวร้ายก่อมะเร็งและโรคหัวใจ
แม้แต่สื่อต่างประเทศอย่าง”เดอะวอชิงตัน โพสต์”  ตีพิมพ์บทความ Lard may not be as bad for your health as the fat’s detractors say ระบุว่า น้ำมันหมูเป็นไขมันดี  และอย่างน้อยก็ไม่เลวร้ายเท่าไขมันทรานซ์ในมาการีนหรือน้ำมันพืช ซึ่งไขมันทรานซ์นี่แหละที่ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ  และ มะเร็ง  ซึ่งล่าสุดสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ ( เอฟดีเอ) ได้ประกาศห้ามใช้ไขมันทรานส์ เป็นส่วนผสมการผลิตอาหารเพื่อมนุษย์รับประทานแล้ว

ขณะที่ “Linda Prout” นักโภชนาการชาวสหรัฐอเมริกา เจ้าของเว็บไซต์ด้านสุขภาพ www.lindaprout.com ก็ได้เขียนบทความ Pork and Lard: How To Choose Healthy Versions  ระบุว่า“น้ำมันหมู นอกจากจะไม่ใช่สิ่งเลวร้ายแล้ว  ยังถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่จะมาใช้ปรุงอาหารแทนน้ำมันพืชและเนย เนื่องจากน้ำมันหมูมีstearic acid ซี่งเป็นกรดไขมันชนิดอิ่มตัว ที่ช่วยลดการดูดซึมคลอเลสเตอรอล และลดระดับคลอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) ที่ทำให้เลือดไม่เหนียวข้น

 

สำหรับหลายคนอาจยังกังขาว่า”น้ำมันหมู”ทำจากสัตว์จะดีกว่าน้ำมันที่ทำจากพืชได้อย่างไร
สามารถอธิบายเหตุผลง่ายๆได้ว่าเพราะ”น้ำมันหมู”  เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากธรรมชาติโดยตรง โดยใช้กระบวนการเจียวด้วยความร้อนเท่านั้น จึงปราศจากกระบวนการผลิตทางเคมี     ทั้งให้ความหอมสำหรับการปรุงอาหารได้ดีกว่า แตกต่างจากน้ำมันพืชผ่านกรรมวิธีทั้งกลั่น   ฟอกสี   และแต่งกลิ่น   และเมื่อนำมาปรุงอาหารจะเกิดการแตกตัวเป็นสารอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

จากข้อมูลยืนยันเรื่องความดีของ”น้ำมันหมู”  จึงทำให้กระแสตอบรับการนำ “น้ำมันหมู” มาประกอบอาหารกำลังกลับมาอย่างรวดเร็ว  เพราะในแง่ของความอร่อยสำหรับคนรุ่นตายายหรือรุ่นพ่อแม่ต่างรู้ดีว่า “น้ำมันหมู”มีความหอมเหมาะกับการปรุงอาหารในสไตล์คนไทยมากกว่าน้ำมันพืช

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ลูกสาวอบต's profile


โพสท์โดย: ลูกสาวอบต
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
56 VOTES (4/5 จาก 14 คน)
VOTED: makhamdong, zerotype, สำนึกดีมีมั้ย..สาส, โยเกิร์ตคึกคัก, ท่านแมวฮั่ว แม่ทัพฮั่วชวี่ปิ้ง, aRnoNAe, โก๊ะทอง, หวยเต็มคีย์
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
"แช่หรือไม่แช่? อ.เจษฎ์ชี้ชัด ซีอิ๊ว-ซอสหอยนางรม หลายบ้านทำผิด!"วิธีใช้รีโมทแอร์ในโหมดต่าง ๆ เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าเปิดตัวตำรวจสาว นางฟ้าผู้พิสูจน์หลักฐาน สวยและเก่ง ช่วยคลี่คลายคดีแอมไซยาไนด์เจนนี่ทำเซอร์ไพรส์ใหญ่! มอบบ้านพร้อมโฉนดให้ “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ฉลองอายุครบ 20 ปี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
'ไทเลอร์ ติณณภพ' ลูกชาย 'ธานินทร์' ดาวเด่นยุค 80 สู่พระเอกยุคใหม่"วิธีใช้รีโมทแอร์ในโหมดต่าง ๆ เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เกาหลีใต้ส่ายหน้า การท่องเที่ยวขาดดุลหนัก แม้ K-Culture จะปังไปทั่วโลกไทยแลนด์ปังสุด คว้าอันดับ 1 ประเทศน่าเที่ยวแห่งปี 2024 พร้อมเหตุผลที่ฝรั่งหลงรักวิชาลงทุน โดย ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร6 วิธีเติมพลังใจในวันศุกร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับวันหยุดสุดสัปดาห์
ตั้งกระทู้ใหม่