ความสัมพันธ์แบบ ยึดติด Codependent Relationship เมื่อฝ่ายหนึ่งให้ความสำคัญกับความต้องการของอีกฝ่ายมากเกินไปจนละเลยตัวเอง
ความสัมพันธ์แบบ Codependent Relationship หรือ ยึดติดกันและกัน เป็นความสัมพันธ์ที่รู้จักอย่างแพร่หลายในปี ค.ศ.1950 โดยใช้กับความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งมี toxic shame ซึ่งมักมีพื้นฐานมาจากปมในวัยเด็ก ประสบการณ์ที่ทำให้สูญเสียความรู้สึกในตัวตน อาการเสพติดบางอย่าง หรือ ความผิดปกติทางอารมณ์ ที่อีกฝ่ายหนึ่งมีลักษณะเป็นผู้ให้มากเกินไป จึงพยายามจะช่วยเหลือคนคนนั้น เช่น อาจจะช่วยปกปิด หรือ คอยตามใจ ปล่อยให้เขามีพฤติกรรมดังกล่าวต่อไป
เบื้องต้นมันอาจจะฟังดูโรแมนติกกับการที่ฝ่ายหนึ่งยอมทุ่มเทหลายอย่างให้กับคนรัก ไม่ว่าจะเป็นแฟน ครอบครัว เจ้านาย เพื่อนสนิท แต่ตามจริงมันเป็นเรื่องของ ‘อำนาจ’ ที่ไม่เท่าเทียมกันที่ซ่อนอยู่ในความสัมพันธ์ นั่นคือ รูปแบบความสัมพันธ์ที่ไม่สมดุล โดยคนหนึ่งจะให้ความสำคัญกับความต้องการของอีกฝ่ายมากเกินไป จนลืมความต้องการของตัวเอง นำไปสู่พฤติกรรมที่ยึดติดกันจนขาดความเป็นตัวของตัวเอง
งานวิจัยล่าสุดจาก International Journal of Mental Health and Addiction (2024) โดย Bacon และ คณะ ได้อธิบายว่า ประสบการณ์ที่แบ่งปันของ Codependency ประกอบด้วย 3 ประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกัน การขาดความรู้สึกในตัวตนที่ชัดเจน รูปแบบที่ยั่งยืนของความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่รุนแรง และ การเป็นอยู่ที่มีปัญหา
ลักษณะสำคัญของความสัมพันธ์แบบ Codependent Relationship
1.การยอมสละตนเองอย่างมากเกินไป การให้ความสำคัญกับความต้องการของคู่ครองมากกว่าตัวเอง
2.การควบคุมและการช่วยเหลือแบบบีบบังคับ พยายาม “ช่วย” หรือ “แก้ไข” คู่ครองอย่างต่อเนื่อง
3.การขาดอัตลักษณ์ของตัวเอง ความรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าเมื่อได้ช่วยเหลือคนอื่นเท่านั้น
4.ความกลัวการถูกทอดทิ้ง ยินดีทนทุกข์เพื่อไม่ให้ความสัมพันธ์สิ้นสุด
สัญญาณหลักของของความสัมพันธ์แบบ Codependent Relationship คือ การที่ยกระดับความต้องการของคนอื่นเหนือตนเองอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งอาจแสดงออกเป็นการเสียสละตนเอง การแสวงหาการยอมรับจากคนอื่น หรือ การยอมรับความผิดเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
จากการวิจัยของ Healthline (2024) ระบุสัญญาณสำคัญดังนี้
สัญญาณในตัวบุคคล
1.การยกระดับความต้องการของคนอื่นเหนือตนเองอย่างสม่ำเสมอ
2.การแสวงหาการยอมรับจากคนอื่น
3.การยอมรับความผิดเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
4.ความรู้สึกผิดเมื่อคิดถึงตัวเอง
5.การควบคุมพฤติกรรมของคนอื่น
สัญญาณในความสัมพันธ์
1.ความไม่สมดุลในการให้และรับ
2.การขาดขอบเขตส่วนตัวที่ชัดเจน
3.การหลีกเลี่ยงความขัดแย้งแม้ว่าจะเป็นการปกป้องตนเอง
4.การรู้สึกไม่สมบูรณ์เมื่ออยู่คนเดียว
แม้ความสัมพันธ์แบบนี้จะดูราบรื่นดี ไม่มีปัญหา ไม่มีการทะเลาะ ไม่มีความขัดแย้งใด ๆ เพียงแค่คนหนึ่งให้ไป อีกคนหนึ่งก็รอรับ แต่ความจริงแล้วมันไม่ได้ส่งผลดีต่อใครในความสัมพันธ์เลยสักคน ที่แย่ไปกว่านั้น มันทำให้ความสัมพันธ์กลายเป็น danger zone อาจมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตกอยู่ในอันตรายโดยไม่รู้ตัว คนประเภท Codependent Relationship มักจะมีความสับสนใจเรื่องคุณค่าของตัวเอง คิดว่าตัวเองจะต้องอยู่เพื่อดูแล เพื่อเอาใจคนอื่นเท่านั้น ไม่สามารถทำตามใจตัวเองมากนัก อาจจะด้วยความกลัวว่าจะถูกโกรธ ถูกเกลียด ถูกปฏิเสธ ถูกบอกเลิก แล้วต้องกลับมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวลำพัง จนทำให้บางครั้งคนประเภทนี้ยอมลดความต้องการ หรือ มาตรฐานอะไรหลายอย่างที่ตัวเองตั้งเอาไว้
การพัฒนาความสัมพันธ์จาก Codependent Relationship ให้เป็นความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อสุขภาพจิตที่ดี
1.การสร้างขอบเขตที่ชัดเจน เรียนรู้ที่จะพูด “ไม่” โดยไม่รู้สึกผิด เช่น ขอโทษ ช่วงนี้ฉันไม่ว่าง ฉันต้องคิดดูก่อน นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันสามารถช่วยได้ แยกแยะความต้องการของตนเองและอีกฝ่าย ออกจากกันเพื่อหาสมดุล สิ่งใดที่ทำได้ และ ทำไม่ได้ จะได้ทำตามความต้องการของทั้ง 2 ฝ่าย อย่างไร้ความขัดแย้ง ให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปด้วยกันได้
2.การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ แสดงความรู้สึกและความต้องการอย่างตรงไปตรงมา ฟังความต้องการของอีกฝ่ายโดยไม่พยายามแก้ไขทุกปัญหา เพียงเคารพความแตกต่าง และ ความเป็นอิสระของกันและกัน
3.การพัฒนาความเป็นอิสระทางอารมณ์ หาความสุขจากกิจกรรมที่ทำเพียงลำพัง และ ทำกับอีกฝ่ายได้ ด้วยการรู้จักแบ่งเวลาให้กับความสุขของตัวเองที่จะรู้จักผ่อน คลาย ให้เวลาตัวเองได้ทำในสิ่งที่ชอบคนเดียว ควบคู่ไปกับ หาเวลาว่างอีกช่วงหนึ่งใช้ทำกิจกรรมกับอีกฝ่าย เพื่อรักษาความสัมพันธ์ให้แนบแน่น
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
“พนักงานไดกิ้นกลับใจ ขอรับโบนัสตามเดิม” เป็นข่าวปลอม
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
เขมรพังเรื่อยๆ ไทยปิดด่าน ทำเอาชาวเขมรโมโห เผานาทิ้ง เนื่องจากขายข้าวไม่ได้
เกิดอะไรขึ้นกับดีไซน์ไทย? เทียบป้ายกีฬา ‘2541 vs 2568’ ทำไมของใหม่กลับเชยกว่าเดิม
เมนูอีสานแซ่บๆ: แจ่วปลาร้าพริกสด
เขมรขวัญผวา ทัพไทยเหนือชั้น เปิดตัวอาวุธใหม่จากอิสราเอล พร้อม Gripen E/F สุดโหด!
(เบื้องหลังกล้อง!) 3 'เหตุผลลับ' ที่คนดูมีความสุขที่สุดในโซเชียลฯ 'กำลังต้องการ' การยอมรับมากที่สุด! — สุขจริงหรือแค่ 'สร้างภาพ' กันแน่? 💔
เผยคำทำนาย "บาบา วานก้า" ปลายปี 2025..มนุษย์ต่างดาวอาจโผล่กลางงานฟุตบอลโลก
WOOF แก่แบบมีคุณภาพ เทรนด์การเงินใหม่ของคนวัยเกษียณ พึ่งตัวเอง มีเงินใช้ ไม่เป็นภาระลูกหลาน
แฮ็กสมอง อารมณ์ดีใน 10 วินาที เปลี่ยนอารมณ์ลบให้ดีขึ้นภายใน 10 วินาที








