‘หัวใจ’ ไม่ชอบ ‘อารมณ์โกรธ’ อารมณ์โกรธส่งผลต่อหัวใจ แนะนำเทคนิคง่าย ๆ ช่วยจัดการกับความโกรธ
ความโกรธ คือ อารมณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อรู้สึกหงุดหงิด ไม่พอใจ เจ็บปวด ผิดหวัง เป็นอารมณ์ปกติที่ทุกคนสามารถรู้สึกได้ แต่หากไม่สามารถควบคุมความโกรธได้ ก็อาจนำไปสู่ปัญหาต่าง ๆ
ความโกรธส่งผลให้เกิดปัญหาอะไรบ้าง
1.ปัญหาสุขภาพ ความโกรธเรื้อรังส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบย่อยอาหาร
2.ปัญหาการทำงาน ความโกรธอาจทำให้ตัดสินใจผิดพลาด ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ทะเลาะกับเพื่อนร่วมงาน หรือแม้กระทั่งสูญเสียงาน
3.ปัญหาความสัมพันธ์ ความโกรธอาจทำให้ทะเลาะกับคนรอบข้าง เสียความสัมพันธ์กับครอบครัว เพื่อนฝูง และชีวิตคู่
4.ปัญหาคุณภาพชีวิต ความโกรธทำให้รู้สึกเครียด วิตกกังวล นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิ ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวม
อารมณ์โกรธส่งผลต่อหัวใจ
เมื่อรู้สึกโกรธ มีความเครียด ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมน 2 ชนิด คือ คอร์ติซอล ฮอร์โมนความเครียด ซึ่งหลั่งออกมาเมื่อมีเรื่องวิตกกังวล หรือ อยู่ในเหตุการณ์คับขัน อะดรีนาลีน ฮอร์โมนความโกรธ กระตุ้นให้ร่างกายตื่นตัวและเตรียมพร้อม ที่จะสู้หรือหนีเมื่อตกในสถานการณ์อันตราย
เมื่อฮอร์โมนทั้ง 2 ทำงาน จะส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น เลือดสูบฉีดมากขึ้น ผนังหลอดเลือดหดเกร็งขึ้น ทำให้เกิดความดันเลือดสูงขึ้น ในช่วงที่เกิดความเครียด จะส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก ถ้าหากเป็นโรคหัวใจหรือหลอดเลือดสมองอยู่แล้ว การที่เลือดสูบฉีดเร็วขึ้นแรงขึ้นจะส่งผลให้อาการของโรคกำเริบขึ้นมา
เทคนิคช่วยจัดการกับความโกรธ
1.หายใจเข้าลึกๆ และ ปล่อยวาง ความโกรธมักเกิดจากหัวใจเต้นเร็ว และ หายใจตื้น ๆ ลองใช้เวลาสักสองสามนาที เพื่อฝึกการหายใจเข้าลึก ๆ โฟกัสที่การสูดหายใจเข้าช้า ๆ หายใจออกจนหมด วิธีนี้สามารถช่วยให้ระบบประสาทสงบลง ควบคุมอารมณ์ตนเองได้อีกครั้ง
2.ปรับมุมมองและความคิดใหม่ บางครั้งการเปลี่ยนมุมมองเพียงเล็กน้อย สามารถลดทอนความโกรธได้ ลองถามตัวเองว่า "สถานการณ์นี้ คุ้มค่าที่จะโกรธไปตลอดหรือเปล่า?" การปรับมุมมองสถานการณ์ให้เป็นเรื่องเล็กน้อย หรือ เปลี่ยนมุมมองให้เป็นโอกาสในการเรียนรู้ สามารถลดความรุนแรงของความโกรธได้
3.แก้ที่ปัญหา เวลาเจออุปสรรคมักจะสับสน หงุดหงิด หรือ โกรธเกรี้ยว การพยายามหาทางแก้ปัญหา สิ่งที่สำคัญคือ ‘วิธีการที่เผชิญกับมัน’ หากผลลัพธ์ที่ได้ไม่เป็นดังหวังหรือล่าช้ากว่าที่ตั้งใจ อย่าโทษตัวเอง การที่ได้เผชิญกับปัญหาด้วยความมุ่งมั่นและพยายามที่จะฝ่าฟัน โอกาสที่จะยอมจำนนง่าย ๆ คงเกิดขึ้นยาก ความคิดแบบใช้อารมณ์จะลดน้อยลงด้วย
4.ระวังคำพูดและฟังอย่างตั้งใจ คนที่โกรธมักจะด่วนสรุปโดยขาดเหตุผล เวลาเกิดการโต้เถียง ควรหยุดคิดพิจารณาก่อนที่จะตอบโต้ออกไปด้วยการโพล่งคำพูดแรกที่เข้ามาในหัว ในขณะเดียวกัน ควรฟังคู่สนทนาอย่างตั้งใจ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงที่นำมาสู่อารมณ์โกรธ อาจจะขอเวลานอกเพื่อมาสงบสติอารมณ์ให้นิ่ง แล้วค่อยกลับเข้าไปเพื่ออธิบายด้วยเหตุผลในประเด็นที่เป็นสาเหตุของปัญหา หากดึงสติกลับมาและควบคุมตัวเองได้เร็ว โอกาสของความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นตามมาก็จะลดน้อยลง
5.เสียงหัวเราะคือ ยาที่ดีที่สุด แม้กระทั่งสำหรับความโกรธ ให้ลองใช้เวลาไปกับการดูคลิปวิดีโอตลก ๆ สักพักหนึ่ง หรือลองโทรหาเพื่อนที่ทำให้คุณหัวเราะได้เสมอ เสียงหัวเราะสามารถช่วยให้ผ่อนคลาย หยุดวงจรของความโกรธได้
6.พักสักนิดเพื่อปรับเปลี่ยนบรรยากาศ บางครั้งสถานที่ที่ต้องทำงาน หรือ ใช้ชีวิตอยู่เป็นประจำ ได้สร้าง ‘กับดักทางอารมณ์’ โดยจะรู้สึกหงุดหงิด หรือ หัวเสีย เพราะ รู้ว่ามันมีปัญหาที่ต้องคอยแก้ไข และ ความรับผิดชอบที่ แบกรับอยู่ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ ซึ่ง ‘กับดักทางอารมณ์’ นี้ จะทำให้เสียสุขภาพจิต ส่งผลกระทบกับคนรอบข้างด้วย หากไม่แก้ไข ลองให้เวลาหยุดพักกับตัวเองสักนิดหนึ่งในแต่ละวัน โดยเฉพาะเวลาที่รู้สึกเครียด



















