มสวาตีที่ 3 กษัตริย์ผู้ถูกครหาและจุดจบที่ปลายทาง

สมเด็จพระราชาธิบดีมสวาตีที่ 3 (Mswati III) แห่งสวาซิแลนด์ กษัตริย์ผู้ถูกขนานนามว่า "บ้าอำนาจที่สุดในแอฟริกา" เรื่องราวชีวิตที่เต็มไปด้วยความฟุ้งเฟ้อ การละเมิดกฎหมาย และพฤติกรรมที่สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน จนนำไปสู่จุดจบอย่างไร้ความจงรักภักดี

การขึ้นครองราชย์และคำมั่นสัญญาที่ล้มเหลว

มสวาตีที่ 3 เป็นโอรสลำดับที่ 67 ของกษัตริย์โซบูชาที่ 2 แห่งสวาซิแลนด์ การคัดเลือกผู้สืบทอดราชบัลลังก์ในสวาซิแลนด์นั้นซับซ้อน โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับโอรสองค์โตเสมอไป แต่ต้องผ่านการคัดเลือกจากสภาแห่งชาติ โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือพระมารดาต้องเป็นผู้มีคุณธรรม มสวาตีที่ 3 ได้รับการคัดเลือกและขึ้นครองราชย์ในปี 1986 ด้วยวัยเพียง 18 ปี กลายเป็นกษัตริย์ที่อายุน้อยที่สุดในโลกขณะนั้น

ในช่วงแรก มสวาตีที่ 3 ได้รับความชื่นชมอย่างมากจากการฟื้นฟูรัฐสภา วางรากฐานประชาธิปไตย รับประกันเสรีภาพในการพูดและสื่อมวลชน และประกาศห้ามมีเพศสัมพันธ์กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เพื่อควบคุมโรคเอดส์ แต่คำมั่นสัญญาเหล่านั้นกลับไม่ยั่งยืน

กษัตริย์ผู้มักมากในกาม

หลังจากขึ้นครองราชย์ไม่นาน มสวาตีที่ 3 ก็เริ่มเผยพฤติกรรมที่ตรงข้ามกับสิ่งที่เคยประกาศไว้ พระองค์เปลี่ยน เทศกาลอูมลังกา หรือ งานเต้นระบำต้นกก ซึ่งเดิมเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ให้กลายเป็นการประกวดคัดเลือกพระชายา โดยให้หญิงสาวนับแสนคนเต้นรำโดยไม่สวมเสื้อผ้า เพื่อให้พระองค์เลือกได้ตามอำเภอใจ ปัจจุบันพระองค์มีพระชายาถึง 14 พระองค์ และมีโอรสธิดากว่า 30 คน

นอกจากนี้ มสวาตีที่ 3 ยังละเมิดกฎหมายที่ตัวเองกำหนด โดยเคยอภิเษกสมรสกับนักเรียนสาวอายุเพียง 17 ปี ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายที่ห้ามมีเพศสัมพันธ์กับผู้เยาว์ ทำให้พระองค์ต้องถูกปรับด้วยการยึดวัว 1 ตัว นอกจากนี้ยังเคยสั่งลักพาตัวหญิงสาวที่ถูกใจ เพื่อนำมาเป็นพระชายาอีกด้วย แสดงให้เห็นถึงความบ้าอำนาจที่ไร้ขอบเขต

ความฟุ้งเฟ้อท่ามกลางความแร้นแค้น

สวาซิแลนด์เป็นประเทศยากจน ประชากรกว่า 60% อยู่ใต้เส้นความยากจน ประชาชนมีรายได้ไม่ถึง 10 บาทต่อวัน และมีอายุเฉลี่ยเพียง 35 ปี แต่ในทางกลับกัน มสวาตีที่ 3 กลับใช้ชีวิตอย่างหรูหราฟุ่มเฟือย พระองค์ซื้อรถหุ้มเกราะติดแอร์สุดหรูราคา 15 ล้านบาท โดยอ้างว่าขายวัว 1,750 ตัวจากวัวกว่าหนึ่งหมื่นตัวในราชสำนักเพื่อซื้อรถคันนี้ ซึ่งถือเป็นการขายอำนาจในมือถึง 18% เพื่อแลกกับรถเพียงคันเดียวเท่านั้น

นอกจากนี้ พระองค์ยังเคยซื้อเครื่องบินแอร์บัส 1 ลำ รถลัมโบกินี 19 คัน และ BMW อีก 120 คัน ทำให้พระองค์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในกษัตริย์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ตรงกันข้ามกับความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างสิ้นเชิง

จุดจบของความไม่พอใจ

พฤติกรรมของมสวาตีที่ 3 สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนอย่างรุนแรง ทั้งเรื่องการนอกใจของพระชายาคนที่ 12 ที่ถูกจับได้และถูกลงโทษประหารชีวิต ซึ่งยิ่งทำให้ชื่อเสียงของพระองค์ตกต่ำถึงขีดสุด นอกจากนี้ การวางตัวในเวทีนานาชาติที่ดูเหมือนตัวตลก ก็ยิ่งทำให้ความโกรธแค้นของประชาชนทวีความรุนแรงมากขึ้น

ท้ายที่สุด ชาวสวาซิแลนด์ได้รวมตัวประท้วงเรียกร้องการปฏิรูปประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมสวาตีที่ 3 ต้องหนีออกจากประเทศไปในที่สุด

เรื่องราวของมสวาตีที่ 3 สะท้อนให้เห็นว่า อำนาจที่ปราศจากความรับผิดชอบและความใส่ใจต่อประชาชน ย่อมนำไปสู่การสูญเสียความจงรักภักดี และนำพาผู้ปกครองไปสู่จุดจบที่ไร้เกียรติเสมอ