หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Team Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน ราคาทองคำ กินอะไรดี
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

วิธีเก็บหัวหอมแดง และกระเทียมไม่ให้ราขึ้น

เนื้อหาโดย บทความ ชุมชน

หัวหอมแดงและกระเทียม เป็นเครื่องเทศสำคัญที่ขาดไม่ได้ในครัวไทย ให้รสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ช่วยยกระดับอาหารไทยหลากหลายเมนู แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือการเกิดเชื้อราเมื่อเก็บไว้นาน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย บทความนี้จะนำเสนอวิธีเก็บเครื่องเทศประเภทหัวหอมแดงและกระเทียมอย่างถูกวิธี พร้อมทั้งให้เกล็ดความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการบริโภคหัวหอมและกระเทียมที่มีเชื้อรา เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากเครื่องเทศคู่ครัวไทยอย่างปลอดภัย

อันตรายจากการรับประทานหอมและกระเทียมที่มีเชื้อรา

การรับประทานหัวหอมแดงและกระเทียมที่มีเชื้อราสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้อย่างที่หลายคนอาจไม่คาดคิด การศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (2566) พบว่าเชื้อราที่เจริญเติบโตบนหัวหอมแดงและกระเทียมสามารถผลิตสารพิษชนิด "ไมโคทอกซิน" ซึ่งเป็นสารพิษที่ทนความร้อนได้ดี แม้ผ่านการปรุงอาหารที่อุณหภูมิสูงแล้วก็ตาม

จากรายงานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (2567) ระบุว่าอาการเบื้องต้นของการได้รับพิษจากไมโคทอกซินในหัวหอมและกระเทียมที่มีเชื้อรา ได้แก่:

  1. อาการคลื่นไส้ อาเจียน
  2. ปวดท้องเฉียบพลัน
  3. ท้องเสีย
  4. ปวดศีรษะ
  5. อาการแพ้ เช่น ผื่นคัน หรือหายใจลำบาก

ในกรณีที่ได้รับสารพิษปริมาณมากหรือติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อตับและไต ตามการศึกษาของศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี (2565) ที่พบว่าสารอัลคาลอยด์จากเชื้อราบางชนิดสามารถสะสมในร่างกายและส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะสำคัญได้

มีรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (2567) แนะนำว่า หากสังเกตพบความผิดปกติของหัวหอมแดงและกระเทียม เช่น มีจุดสีดำ เขียว หรือขาวฟู มีกลิ่นผิดปกติ หรือมีลักษณะเหี่ยวย่นผิดธรรมชาติ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคโดยเด็ดขาด และไม่ควรตัดเฉพาะส่วนที่เสียทิ้งแล้วนำส่วนที่เหลือมาใช้ เนื่องจากสารพิษอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแล้ว

มะเร็งจากการรับประทานหอมและกระเทียมที่มีเชื้อราในประเทศไทย

ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งจากการบริโภคหัวหอมและกระเทียมที่มีเชื้อราเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์ในประเทศไทยมากขึ้น การศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2566) พบความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับสารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) จากเชื้อราในอาหารกับการเกิดมะเร็งตับในคนไทย

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประเสริฐ เอื้อวรากุล จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้เผยแพร่ผลการวิจัยในวารสาร Thai Journal of Gastroenterology (2566) ว่า "เชื้อรา Aspergillus flavus ที่พบได้บ่อยในหัวหอมและกระเทียมที่เก็บรักษาไม่ถูกวิธี สามารถผลิตสารอะฟลาทอกซินที่เป็นสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ ซึ่งมีอัตราการเกิดสูงเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งในผู้ชายไทย"

สถิติจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (2567) ระบุว่าประเทศไทยมีอัตราการเกิดมะเร็งตับสูงถึง 31.2 รายต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 3 เท่า โดยปัจจัยเสี่ยงสำคัญนอกจากไวรัสตับอักเสบและการดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ยังรวมถึงการได้รับสารก่อมะเร็งจากอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อรา

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (2565) ได้ตรวจสอบตัวอย่างหัวหอมแดงและกระเทียมจากตลาดสด 15 แห่งทั่วประเทศไทย พบการปนเปื้อนของเชื้อรา Aspergillus และ Penicillium ซึ่งสามารถผลิตสารพิษไมโคทอกซินได้ถึง 37% ของตัวอย่างทั้งหมด โดยระดับการปนเปื้อนมีความแตกต่างกันตามฤดูกาลและวิธีการเก็บรักษา

ดร.อรุณี สมมิตร จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (2567) แนะนำว่า "การป้องกันความเสี่ยงจากสารก่อมะเร็งในเครื่องเทศที่มีเชื้อราเริ่มต้นได้จากการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่สด สะอาด ไม่มีร่องรอยการเสื่อมสภาพ และเก็บรักษาอย่างถูกวิธี"

วิธีการเก็บหอมและกระเทียมไม่ให้ราขึ้น

การเก็บรักษาหัวหอมแดงและกระเทียมอย่างถูกวิธีเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันการเกิดเชื้อรา งานวิจัยจากคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (2566) ได้แนะนำวิธีการเก็บรักษาที่มีประสิทธิภาพ ดังนี้:

1. การเตรียมก่อนเก็บรักษา

การทดลองจากมหาวิทยาลัยมหิดล (2565) พบว่า การรักษาเปลือกนอกของหัวหอมและกระเทียมไว้จะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับการปอกเปลือกออก


บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ ทำไมทอร์นาโดเกิดแค่ในแถบอเมริกาเท่านั้น?

✪ เลือดเทียม นวัตกรรมการถ่ายเลือดสังเคราะห์ในมนุษย์


2. วิธีการเก็บแบบแห้ง

การศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น (2567) พบว่า การเก็บในตะกร้าโปร่งที่มีการระบายอากาศดีสามารถลดอัตราการเกิดเชื้อราได้ถึง 82% เมื่อเทียบกับการเก็บในถุงพลาสติกปิดสนิท

3. การใช้สมุนไพรธรรมชาติช่วยป้องกันเชื้อรา

งานวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (2566) พบว่าสมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา เช่น:

การทดลองพบว่า การใช้ใบการบูรร่วมกับการเก็บในที่แห้งสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้นานถึง 4-6 เดือนโดยไม่พบการเกิดเชื้อรา

4. การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่

นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) (2567) ได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์พิเศษที่มีคุณสมบัติดูดซับความชื้นและต้านเชื้อรา โดยใช้นาโนเทคโนโลยีผสมสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งสามารถยืดอายุการเก็บรักษาหัวหอมและกระเทียมได้นานถึง 8 เดือนในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย

หอมและกระเทียม เก็บที่อุณหภูมิห้องหรือตู้เย็นดี?

คำถามที่พบบ่อยคือควรเก็บหัวหอมแดงและกระเทียมไว้ที่อุณหภูมิห้องหรือในตู้เย็น จากการศึกษาของสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร (2566) ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจดังนี้:

การเก็บที่อุณหภูมิห้อง:

การทดลองจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ (2565) พบว่า หัวหอมและกระเทียมที่เก็บที่อุณหภูมิห้องในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะรักษากลิ่นและรสชาติได้ดีกว่าการเก็บในตู้เย็น

การเก็บในตู้เย็น:

การศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (2567) แนะนำว่า หากต้องการเก็บในตู้เย็น ควรใช้กระดาษซับความชื้นห่อหุ้มก่อนใส่ในถุงกระดาษที่เจาะรู และเก็บในช่องผักของตู้เย็นซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ 10-15°C และความชื้นต่ำกว่าส่วนอื่น

ผลการทดลองเปรียบเทียบ:

งานวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (2566) ได้ทำการทดลองเปรียบเทียบวิธีการเก็บรักษากระเทียมและหัวหอมแดงในสภาวะต่างๆ เป็นเวลา 3 เดือน พบว่า:

สรุป: การเก็บที่อุณหภูมิห้องเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีอากาศแห้ง มีการระบายอากาศดี โดยควรใช้ตะกร้าโปร่ง ส่วนการเก็บในตู้เย็นเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้นสูง โดยควรห่อด้วยกระดาษและใส่ในถุงกระดาษเจาะรู เก็บในช่องผักของตู้เย็น

สรุปบทความ วิธีเก็บหัวหอมแดง และกระเทียมไม่ให้ราขึ้น

การเก็บรักษาหัวหอมแดงและกระเทียมอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องเทศสำคัญในครัวไทย แต่ยังเป็นการป้องกันอันตรายจากสารพิษที่เกิดจากเชื้อราซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว จากการทบทวนงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ สามารถสรุปแนวทางการเก็บรักษาที่เหมาะสมได้ดังนี้:

  1. เลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพดี: ไม่มีร่องรอยช้ำ เปลือกแห้งสนิท ไม่มีความชื้นหรือกลิ่นผิดปกติ
  2. เก็บในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม: บรรจุในภาชนะที่อากาศถ่ายเทได้ดี เช่น ตะกร้าหวาย ถุงกระดาษเจาะรู หรือถุงตาข่าย เก็บในที่แห้ง อากาศถ่ายเทดี และไม่โดนแสงแดดโดยตรง
  3. พิจารณาตามสภาพภูมิอากาศ: ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้นสูง การเก็บในช่องผักของตู้เย็นโดยห่อด้วยกระดาษซับความชื้นและใส่ในถุงกระดาษเจาะรู อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
  4. ใช้สมุนไพรธรรมชาติช่วยป้องกันเชื้อรา: การใช้ใบการบูร พริกแห้ง หรือใบเตยแห้ง ร่วมกับการเก็บในที่แห้งสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้
  5. ตรวจสอบสม่ำเสมอ: หมั่นตรวจสอบหัวหอมและกระเทียมที่เก็บไว้อย่างสม่ำเสมอ และแยกหัวที่มีรอยช้ำหรือเริ่มเน่าออกทันที เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อรา
  6. ทิ้งทันทีเมื่อพบเชื้อรา: หากพบหัวหอมหรือกระเทียมมีเชื้อรา แม้เพียงเล็กน้อย ให้ทิ้งทั้งหัวทันที ไม่ควรตัดเฉพาะส่วนที่เสียทิ้ง

การเก็บรักษาหัวหอมแดงและกระเทียมอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดความสูญเสียเท่านั้น แต่ยังเป็นการปกป้องสุขภาพของทั้งตัวคุณและครอบครัวจากอันตรายของสารพิษจากเชื้อราที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงในระยะยาวได้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีเก็บหัวหอมแดง และกระเทียมไม่ให้ราขึ้น (FAQ)

1. หอมและกระเทียมที่เริ่มงอกรากยังรับประทานได้หรือไม่?

ตอบ: หอมและกระเทียมที่เริ่มงอกรากยังรับประทานได้อย่างปลอดภัย ตามการศึกษาของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2566) พบว่าการงอกของรากไม่ได้บ่งชี้ถึงการปนเปื้อนของเชื้อรา แต่อาจมีรสชาติที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยหัวหอมอาจมีรสขมขึ้น ส่วนกระเทียมอาจมีกลิ่นแรงขึ้น อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบว่าไม่มีเชื้อราก่อนนำมาบริโภค

2. การเก็บหอมและกระเทียมในตู้แช่แข็งได้หรือไม่?

ตอบ: สามารถเก็บในตู้แช่แข็งได้ แต่ควรแปรรูปก่อน จากการศึกษาของสถาบันอาหาร (2567) แนะนำให้ปอกเปลือก สับหรือบดให้ละเอียด จากนั้นแบ่งใส่ถุงซิปล็อคขนาดเล็กหรือถาดน้ำแข็ง เก็บได้นานถึง 6-8 เดือน โดยไม่สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติมากนัก แต่เนื้อสัมผัสจะเปลี่ยนไปเมื่อละลาย จึงเหมาะสำหรับการประกอบอาหารที่ผ่านความร้อน

3. ควรล้างหอมและกระเทียมก่อนเก็บหรือไม่?

ตอบ: ไม่ควรล้างก่อนเก็บ การทดลองจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (2566) พบว่าความชื้นจากการล้างจะเร่งการเกิดเชื้อรา ควรเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งเบาๆ เพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรก และล้างเฉพาะตอนที่จะนำมาปรุงอาหารเท่านั้น

4. หากพบหอมหรือกระเทียมเป็นราเพียงบางส่วน สามารถตัดส่วนที่เป็นราทิ้งแล้วใช้ส่วนที่เหลือได้หรือไม่?

ตอบ: ไม่ควรอย่างยิ่ง จากการศึกษาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (2566) พบว่าสารพิษจากเชื้อราสามารถแพร่กระจายไปทั่วทั้งหัว แม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อพบหอมหรือกระเทียมเป็นราแม้เพียงเล็กน้อย ควรทิ้งทั้งหัวเพื่อความปลอดภัย

5. การใช้น้ำส้มสายชูล้างหอมและกระเทียมช่วยป้องกันเชื้อราได้จริงหรือไม่?

ตอบ: มีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดล (2567) พบว่าการแช่หัวหอมและกระเทียมในน้ำส้มสายชู 5% นาน 10 นาที ก่อนนำไปตากให้แห้งสนิท สามารถลดการปนเปื้อนของเชื้อราเริ่มต้นได้ถึง 67% แต่วิธีนี้เหมาะกับการเตรียมเพื่อบริโภคในระยะสั้น 1-2 สัปดาห์ ไม่เหมาะกับการเก็บระยะยาวเนื่องจากความชื้นอาจยังตกค้างอยู่

6. หอมและกระเทียมที่ปลูกเองที่บ้านจะเก็บได้นานกว่าที่ซื้อจากตลาดหรือไม่?

ตอบ: ใช่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเตรียมการเก็บเกี่ยวอย่างเหมาะสม การศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ (2566) พบว่าหอมและกระเทียมที่ปลูกเองและผ่านการตากแห้งที่เหมาะสมหลังเก็บเกี่ยว (7-10 วันในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทดี) สามารถเก็บได้นานกว่าที่ซื้อจากตลาดถึง 30-45% เนื่องจากผ่านขั้นตอนการบ่มและตากแห้งที่เหมาะสม ไม่ถูกกระทบกระเทือนจากการขนส่ง และไม่มีการใช้สารเคมีเร่งการเจริญเติบโต

7. มีวิธีดูอย่างไรว่าหอมและกระเทียมมีเชื้อราแล้วหรือยัง?

ตอบ: สามารถสังเกตได้จากลักษณะภายนอกและกลิ่น ตามคำแนะนำจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (2567) ดังนี้:

8. หอมและกระเทียมผงสำเร็จรูปมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อราหรือไม่?

ตอบ: มีความเสี่ยงต่ำกว่าแบบสด จากการศึกษาของคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (2566) พบว่าผลิตภัณฑ์หอมและกระเทียมผงที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีการอบแห้งแบบพ่นฝอย (Spray Drying) จะมีปริมาณความชื้นต่ำมาก (น้อยกว่า 5%) ทำให้เชื้อราไม่สามารถเจริญเติบโตได้ อย่างไรก็ตาม ควรเก็บในภาชนะปิดสนิท ในที่แห้ง และไม่ควรใช้อุปกรณ์ที่เปียกหรือชื้นตักผงเครื่องเทศ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและการดูดความชื้น


บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH

✪ 10 เครื่องดื่มช่วยลดไขมันเลว LDL ลดคอเลสเตอรอลในเลือด

✪ ปลาไทยที่มีไขมันดีไม่แพ้ปลาแซลมอน โปรตีนสูง สร้างกล้ามเนื้อและบำรุงสมอง

✪ 5 ประโยชน์ผงกล้วยดิบ ที่ช่วยได้มากกว่าลดกรดไหลย้อน

หากอ่านแล้วบทความมีประโยชน์ กดโหวต ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ให้ด้วยนะคะ

เนื้อหาโดย: News Daily TH
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
บทความ ชุมชน's profile


โพสท์โดย: บทความ ชุมชน
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ปิดตำนานรถ EV ราคาถูก ทิ้งลูกค้า, ดีลเลอร์ หอบเงินจากภาครัฐฯ กลับจีนหน้าตาเฉยเขมรขอถก JBC ด่วน ยันไม่รับเส้นเขตแดน จากการใช้กำลังของไทยรายละเอียดเงื่อนไข 5 ประการ ที่กัมพูชาและไทยเห็นพ้องร่วมกัน ในการประชุมที่ประเทศจีนคุก 2 ปี "แอน จักรวาล" ไม่รอลงอาญานักร้องหญิงชื่อดัง ที่เกือบได้แต่งงานกับผู้ก่อตั้งวง BTSเปิดภาพชีวิตสุดทรหดของ "ทหารม้าไทย" หลับในรถถัง 20 วัน กลางสมรภูมิรบแนวหน้าที่ดุเดือดเจ้าของบริษัทขายกิจการ แจกโบนัสพนักงานคนละ 443,000 ดอลลาร์เด็กชายวัย 5 ขวบเสียชีวิต หลังจากแขนติดอยู่ในทางเลื่อนรู้มั๊ยว่าใครใหญ่! เข้าห้องน้ำชายวัดใจ..เดี๋ยวก็ได้รู้เองนายกเขมรยัน "การหยุดยิงไม่ได้หมายถึงการยอมแพ้"“ฆๅตกรเด็กวัด ลากศwใส่กระเป๋าเผากลางดึก ลบชีวิตปลิดชีพกะlทยคอหวยขอโชค วิหารร้างอายุกว่า 100 ปี ไม่ผิดหวังได้ “เลขเด็ด” ลุ้นโชครับปีใหม่
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นายกเขมรยัน "การหยุดยิงไม่ได้หมายถึงการยอมแพ้"ช็อกการเมือง! ทลายเครือข่ายฟอกเงิน พบผู้สมัคร สส. มีเอี่ยวที่เมือง Portofino ของอิตาลี หากใครจะติดเครื่องปรับอากาศ ต้องขออณุญาตจากเจ้าหน้าที่ มิฉะนั้นอาจถูกปรับสูงถึง 1.9 ล้านบาทเหตุน้ำท่วมใหญ่ในเมืองหาดใหญ่ เกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง?New Year Journey
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
ทึ่งทั่วโลก : "เดโกโทระ" รถสิบล้อแต่งศิลป์ งานศิลปะสไตล์ญี่ปุ่น อลังการงานสร้างเหมือนกันนะเนี่ยพืชพรรณไม้น่าสนใจ : จินโจโรยักษ์ "ซากดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิต" หนึ่งในพืชที่ดูแปลกตาและน่าทึ่งที่สุดในโลกทึ่งทั่วไทย : "วัดช้างรอบ" วัดเก่าแก่มีความสำคัญแห่ง จ.กําแพงเพชรเรื่องของผู้ชายที่ควรรู้เกี่ยวกับการช่วยตัวเองบ่อยๆ ว่าจะทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงหรือไม่
ตั้งกระทู้ใหม่