วิธีเก็บหัวหอมแดง และกระเทียมไม่ให้ราขึ้น
หัวหอมแดงและกระเทียม เป็นเครื่องเทศสำคัญที่ขาดไม่ได้ในครัวไทย ให้รสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ช่วยยกระดับอาหารไทยหลากหลายเมนู แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือการเกิดเชื้อราเมื่อเก็บไว้นาน โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย บทความนี้จะนำเสนอวิธีเก็บเครื่องเทศประเภทหัวหอมแดงและกระเทียมอย่างถูกวิธี พร้อมทั้งให้เกล็ดความรู้เกี่ยวกับอันตรายจากการบริโภคหัวหอมและกระเทียมที่มีเชื้อรา เพื่อให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจากเครื่องเทศคู่ครัวไทยอย่างปลอดภัย
อันตรายจากการรับประทานหอมและกระเทียมที่มีเชื้อรา
การรับประทานหัวหอมแดงและกระเทียมที่มีเชื้อราสามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้อย่างที่หลายคนอาจไม่คาดคิด การศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (2566) พบว่าเชื้อราที่เจริญเติบโตบนหัวหอมแดงและกระเทียมสามารถผลิตสารพิษชนิด "ไมโคทอกซิน" ซึ่งเป็นสารพิษที่ทนความร้อนได้ดี แม้ผ่านการปรุงอาหารที่อุณหภูมิสูงแล้วก็ตาม
จากรายงานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (2567) ระบุว่าอาการเบื้องต้นของการได้รับพิษจากไมโคทอกซินในหัวหอมและกระเทียมที่มีเชื้อรา ได้แก่:
- อาการคลื่นไส้ อาเจียน
- ปวดท้องเฉียบพลัน
- ท้องเสีย
- ปวดศีรษะ
- อาการแพ้ เช่น ผื่นคัน หรือหายใจลำบาก
ในกรณีที่ได้รับสารพิษปริมาณมากหรือติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อตับและไต ตามการศึกษาของศูนย์พิษวิทยา โรงพยาบาลรามาธิบดี (2565) ที่พบว่าสารอัลคาลอยด์จากเชื้อราบางชนิดสามารถสะสมในร่างกายและส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะสำคัญได้
มีรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (2567) แนะนำว่า หากสังเกตพบความผิดปกติของหัวหอมแดงและกระเทียม เช่น มีจุดสีดำ เขียว หรือขาวฟู มีกลิ่นผิดปกติ หรือมีลักษณะเหี่ยวย่นผิดธรรมชาติ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคโดยเด็ดขาด และไม่ควรตัดเฉพาะส่วนที่เสียทิ้งแล้วนำส่วนที่เหลือมาใช้ เนื่องจากสารพิษอาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าแล้ว
มะเร็งจากการรับประทานหอมและกระเทียมที่มีเชื้อราในประเทศไทย
ความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งจากการบริโภคหัวหอมและกระเทียมที่มีเชื้อราเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในวงการวิทยาศาสตร์การแพทย์ในประเทศไทยมากขึ้น การศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2566) พบความสัมพันธ์ระหว่างการได้รับสารอะฟลาทอกซิน (Aflatoxin) จากเชื้อราในอาหารกับการเกิดมะเร็งตับในคนไทย
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประเสริฐ เอื้อวรากุล จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้เผยแพร่ผลการวิจัยในวารสาร Thai Journal of Gastroenterology (2566) ว่า "เชื้อรา Aspergillus flavus ที่พบได้บ่อยในหัวหอมและกระเทียมที่เก็บรักษาไม่ถูกวิธี สามารถผลิตสารอะฟลาทอกซินที่เป็นสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งตับ ซึ่งมีอัตราการเกิดสูงเป็นอันดับ 1 ของมะเร็งในผู้ชายไทย"
สถิติจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ (2567) ระบุว่าประเทศไทยมีอัตราการเกิดมะเร็งตับสูงถึง 31.2 รายต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 3 เท่า โดยปัจจัยเสี่ยงสำคัญนอกจากไวรัสตับอักเสบและการดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ยังรวมถึงการได้รับสารก่อมะเร็งจากอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อรา
งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (2565) ได้ตรวจสอบตัวอย่างหัวหอมแดงและกระเทียมจากตลาดสด 15 แห่งทั่วประเทศไทย พบการปนเปื้อนของเชื้อรา Aspergillus และ Penicillium ซึ่งสามารถผลิตสารพิษไมโคทอกซินได้ถึง 37% ของตัวอย่างทั้งหมด โดยระดับการปนเปื้อนมีความแตกต่างกันตามฤดูกาลและวิธีการเก็บรักษา
ดร.อรุณี สมมิตร จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (2567) แนะนำว่า "การป้องกันความเสี่ยงจากสารก่อมะเร็งในเครื่องเทศที่มีเชื้อราเริ่มต้นได้จากการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่สด สะอาด ไม่มีร่องรอยการเสื่อมสภาพ และเก็บรักษาอย่างถูกวิธี"
วิธีการเก็บหอมและกระเทียมไม่ให้ราขึ้น
การเก็บรักษาหัวหอมแดงและกระเทียมอย่างถูกวิธีเป็นกุญแจสำคัญในการป้องกันการเกิดเชื้อรา งานวิจัยจากคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (2566) ได้แนะนำวิธีการเก็บรักษาที่มีประสิทธิภาพ ดังนี้:
1. การเตรียมก่อนเก็บรักษา
- ตรวจสอบคุณภาพ: เลือกหัวหอมและกระเทียมที่แห้งสนิท เปลือกไม่มีรอยช้ำหรือความชื้น
- ทำความสะอาด: เช็ดฝุ่นและสิ่งสกปรกออกเบาๆ โดยไม่ให้เปลือกหลุดลอก
- ตัดแต่ง: ตัดรากและส่วนยอดออกเล็กน้อย แต่ระวังไม่ให้เกิดบาดแผลบนหัว
การทดลองจากมหาวิทยาลัยมหิดล (2565) พบว่า การรักษาเปลือกนอกของหัวหอมและกระเทียมไว้จะช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้นถึง 60% เมื่อเทียบกับการปอกเปลือกออก
บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ ทำไมทอร์นาโดเกิดแค่ในแถบอเมริกาเท่านั้น?
✪ เลือดเทียม นวัตกรรมการถ่ายเลือดสังเคราะห์ในมนุษย์
2. วิธีการเก็บแบบแห้ง
- ใช้ตะกร้าโปร่ง: บรรจุในภาชนะที่อากาศถ่ายเทได้ดี เช่น ตะกร้าหวาย ตะแกรงลวด หรือถุงตาข่าย
- แขวนเป็นพวง: มัดเป็นพวงและแขวนในที่แห้ง มีอากาศถ่ายเท
- ใช้ถุงกระดาษ: บรรจุในถุงกระดาษที่เจาะรูเล็กๆ เพื่อระบายความชื้น
การศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น (2567) พบว่า การเก็บในตะกร้าโปร่งที่มีการระบายอากาศดีสามารถลดอัตราการเกิดเชื้อราได้ถึง 82% เมื่อเทียบกับการเก็บในถุงพลาสติกปิดสนิท
3. การใช้สมุนไพรธรรมชาติช่วยป้องกันเชื้อรา
งานวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล (2566) พบว่าสมุนไพรบางชนิดมีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา เช่น:
- ใบการบูร: วางใบการบูรแห้ง 2-3 ใบในภาชนะที่เก็บหัวหอมและกระเทียม
- พริกแห้ง: ใส่พริกขี้หนูแห้ง 4-5 เม็ดในภาชนะเก็บ
- ใบเตย: วางใบเตยแห้ง 1-2 ใบในภาชนะ
การทดลองพบว่า การใช้ใบการบูรร่วมกับการเก็บในที่แห้งสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้นานถึง 4-6 เดือนโดยไม่พบการเกิดเชื้อรา
4. การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) (2567) ได้พัฒนาบรรจุภัณฑ์พิเศษที่มีคุณสมบัติดูดซับความชื้นและต้านเชื้อรา โดยใช้นาโนเทคโนโลยีผสมสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งสามารถยืดอายุการเก็บรักษาหัวหอมและกระเทียมได้นานถึง 8 เดือนในสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย
หอมและกระเทียม เก็บที่อุณหภูมิห้องหรือตู้เย็นดี?
คำถามที่พบบ่อยคือควรเก็บหัวหอมแดงและกระเทียมไว้ที่อุณหภูมิห้องหรือในตู้เย็น จากการศึกษาของสถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร (2566) ได้ข้อสรุปที่น่าสนใจดังนี้:
การเก็บที่อุณหภูมิห้อง:
- ข้อดี: หัวหอมและกระเทียมเป็นพืชที่เจริญเติบโตในสภาพอากาศแห้ง จึงสามารถเก็บได้ดีที่อุณหภูมิห้อง 25-30°C หากมีการระบายอากาศที่ดี
- ระยะเวลา: สามารถเก็บได้นาน 1-3 เดือน ขึ้นอยู่กับความชื้นในอากาศ
- เงื่อนไข: ต้องเป็นที่แห้ง อากาศถ่ายเทดี และไม่โดนแสงแดดโดยตรง
การทดลองจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ (2565) พบว่า หัวหอมและกระเทียมที่เก็บที่อุณหภูมิห้องในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะรักษากลิ่นและรสชาติได้ดีกว่าการเก็บในตู้เย็น
การเก็บในตู้เย็น:
- ข้อดี: ช่วยชะลอการงอกและการเหี่ยวเฉาในสภาพอากาศร้อนจัด
- ระยะเวลา: สามารถยืดอายุได้ถึง 3-6 เดือน
- ข้อควรระวัง: ความชื้นในตู้เย็นอาจกระตุ้นการเกิดเชื้อราได้ถ้าเก็บไม่ถูกวิธี
การศึกษาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (2567) แนะนำว่า หากต้องการเก็บในตู้เย็น ควรใช้กระดาษซับความชื้นห่อหุ้มก่อนใส่ในถุงกระดาษที่เจาะรู และเก็บในช่องผักของตู้เย็นซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ 10-15°C และความชื้นต่ำกว่าส่วนอื่น
ผลการทดลองเปรียบเทียบ:
งานวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (2566) ได้ทำการทดลองเปรียบเทียบวิธีการเก็บรักษากระเทียมและหัวหอมแดงในสภาวะต่างๆ เป็นเวลา 3 เดือน พบว่า:
- การเก็บในตะกร้าโปร่งที่อุณหภูมิห้อง (25-30°C) ในที่แห้ง: พบการเกิดเชื้อรา 8%
- การเก็บในถุงกระดาษที่อุณหภูมิห้อง: พบการเกิดเชื้อรา 15%
- การเก็บในถุงผ้าที่อุณหภูมิห้อง: พบการเกิดเชื้อรา 12%
- การเก็บในถุงกระดาษในตู้เย็นช่องผัก (10-15°C): พบการเกิดเชื้อรา 5%
- การเก็บในถุงพลาสติกเจาะรูในตู้เย็นช่องผัก: พบการเกิดเชื้อรา 20%
สรุป: การเก็บที่อุณหภูมิห้องเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีอากาศแห้ง มีการระบายอากาศดี โดยควรใช้ตะกร้าโปร่ง ส่วนการเก็บในตู้เย็นเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้นสูง โดยควรห่อด้วยกระดาษและใส่ในถุงกระดาษเจาะรู เก็บในช่องผักของตู้เย็น
สรุปบทความ วิธีเก็บหัวหอมแดง และกระเทียมไม่ให้ราขึ้น
การเก็บรักษาหัวหอมแดงและกระเทียมอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องเทศสำคัญในครัวไทย แต่ยังเป็นการป้องกันอันตรายจากสารพิษที่เกิดจากเชื้อราซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว จากการทบทวนงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ สามารถสรุปแนวทางการเก็บรักษาที่เหมาะสมได้ดังนี้:
- เลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพดี: ไม่มีร่องรอยช้ำ เปลือกแห้งสนิท ไม่มีความชื้นหรือกลิ่นผิดปกติ
- เก็บในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม: บรรจุในภาชนะที่อากาศถ่ายเทได้ดี เช่น ตะกร้าหวาย ถุงกระดาษเจาะรู หรือถุงตาข่าย เก็บในที่แห้ง อากาศถ่ายเทดี และไม่โดนแสงแดดโดยตรง
- พิจารณาตามสภาพภูมิอากาศ: ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้นสูง การเก็บในช่องผักของตู้เย็นโดยห่อด้วยกระดาษซับความชื้นและใส่ในถุงกระดาษเจาะรู อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
- ใช้สมุนไพรธรรมชาติช่วยป้องกันเชื้อรา: การใช้ใบการบูร พริกแห้ง หรือใบเตยแห้ง ร่วมกับการเก็บในที่แห้งสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราได้
- ตรวจสอบสม่ำเสมอ: หมั่นตรวจสอบหัวหอมและกระเทียมที่เก็บไว้อย่างสม่ำเสมอ และแยกหัวที่มีรอยช้ำหรือเริ่มเน่าออกทันที เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อรา
- ทิ้งทันทีเมื่อพบเชื้อรา: หากพบหัวหอมหรือกระเทียมมีเชื้อรา แม้เพียงเล็กน้อย ให้ทิ้งทั้งหัวทันที ไม่ควรตัดเฉพาะส่วนที่เสียทิ้ง
การเก็บรักษาหัวหอมแดงและกระเทียมอย่างถูกวิธีไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดความสูญเสียเท่านั้น แต่ยังเป็นการปกป้องสุขภาพของทั้งตัวคุณและครอบครัวจากอันตรายของสารพิษจากเชื้อราที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพร้ายแรงในระยะยาวได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีเก็บหัวหอมแดง และกระเทียมไม่ให้ราขึ้น (FAQ)
1. หอมและกระเทียมที่เริ่มงอกรากยังรับประทานได้หรือไม่?
ตอบ: หอมและกระเทียมที่เริ่มงอกรากยังรับประทานได้อย่างปลอดภัย ตามการศึกษาของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2566) พบว่าการงอกของรากไม่ได้บ่งชี้ถึงการปนเปื้อนของเชื้อรา แต่อาจมีรสชาติที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยหัวหอมอาจมีรสขมขึ้น ส่วนกระเทียมอาจมีกลิ่นแรงขึ้น อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบว่าไม่มีเชื้อราก่อนนำมาบริโภค
2. การเก็บหอมและกระเทียมในตู้แช่แข็งได้หรือไม่?
ตอบ: สามารถเก็บในตู้แช่แข็งได้ แต่ควรแปรรูปก่อน จากการศึกษาของสถาบันอาหาร (2567) แนะนำให้ปอกเปลือก สับหรือบดให้ละเอียด จากนั้นแบ่งใส่ถุงซิปล็อคขนาดเล็กหรือถาดน้ำแข็ง เก็บได้นานถึง 6-8 เดือน โดยไม่สูญเสียคุณค่าทางโภชนาการและรสชาติมากนัก แต่เนื้อสัมผัสจะเปลี่ยนไปเมื่อละลาย จึงเหมาะสำหรับการประกอบอาหารที่ผ่านความร้อน
3. ควรล้างหอมและกระเทียมก่อนเก็บหรือไม่?
ตอบ: ไม่ควรล้างก่อนเก็บ การทดลองจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (2566) พบว่าความชื้นจากการล้างจะเร่งการเกิดเชื้อรา ควรเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าแห้งเบาๆ เพื่อกำจัดฝุ่นและสิ่งสกปรก และล้างเฉพาะตอนที่จะนำมาปรุงอาหารเท่านั้น
4. หากพบหอมหรือกระเทียมเป็นราเพียงบางส่วน สามารถตัดส่วนที่เป็นราทิ้งแล้วใช้ส่วนที่เหลือได้หรือไม่?
ตอบ: ไม่ควรอย่างยิ่ง จากการศึกษาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (2566) พบว่าสารพิษจากเชื้อราสามารถแพร่กระจายไปทั่วทั้งหัว แม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อพบหอมหรือกระเทียมเป็นราแม้เพียงเล็กน้อย ควรทิ้งทั้งหัวเพื่อความปลอดภัย
5. การใช้น้ำส้มสายชูล้างหอมและกระเทียมช่วยป้องกันเชื้อราได้จริงหรือไม่?
ตอบ: มีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหิดล (2567) พบว่าการแช่หัวหอมและกระเทียมในน้ำส้มสายชู 5% นาน 10 นาที ก่อนนำไปตากให้แห้งสนิท สามารถลดการปนเปื้อนของเชื้อราเริ่มต้นได้ถึง 67% แต่วิธีนี้เหมาะกับการเตรียมเพื่อบริโภคในระยะสั้น 1-2 สัปดาห์ ไม่เหมาะกับการเก็บระยะยาวเนื่องจากความชื้นอาจยังตกค้างอยู่
6. หอมและกระเทียมที่ปลูกเองที่บ้านจะเก็บได้นานกว่าที่ซื้อจากตลาดหรือไม่?
ตอบ: ใช่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีการเตรียมการเก็บเกี่ยวอย่างเหมาะสม การศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ (2566) พบว่าหอมและกระเทียมที่ปลูกเองและผ่านการตากแห้งที่เหมาะสมหลังเก็บเกี่ยว (7-10 วันในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทดี) สามารถเก็บได้นานกว่าที่ซื้อจากตลาดถึง 30-45% เนื่องจากผ่านขั้นตอนการบ่มและตากแห้งที่เหมาะสม ไม่ถูกกระทบกระเทือนจากการขนส่ง และไม่มีการใช้สารเคมีเร่งการเจริญเติบโต
7. มีวิธีดูอย่างไรว่าหอมและกระเทียมมีเชื้อราแล้วหรือยัง?
ตอบ: สามารถสังเกตได้จากลักษณะภายนอกและกลิ่น ตามคำแนะนำจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (2567) ดังนี้:
- การมองเห็น: มีจุดสีดำ เขียว ขาว หรือฟ้าตามเปลือกหรือบริเวณรอยแตก
- การสัมผัส: เนื้อนิ่มผิดปกติ มีความชื้น หรือเละ
- กลิ่น: มีกลิ่นอับชื้น กลิ่นหมักหรือกลิ่นแอลกอฮอล์
- ลักษณะการงอก: งอกผิดปกติ มีสีเขียวอมเหลืองหรือน้ำตาล แทนที่จะเป็นสีเขียวสด
8. หอมและกระเทียมผงสำเร็จรูปมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อราหรือไม่?
ตอบ: มีความเสี่ยงต่ำกว่าแบบสด จากการศึกษาของคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (2566) พบว่าผลิตภัณฑ์หอมและกระเทียมผงที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีการอบแห้งแบบพ่นฝอย (Spray Drying) จะมีปริมาณความชื้นต่ำมาก (น้อยกว่า 5%) ทำให้เชื้อราไม่สามารถเจริญเติบโตได้ อย่างไรก็ตาม ควรเก็บในภาชนะปิดสนิท ในที่แห้ง และไม่ควรใช้อุปกรณ์ที่เปียกหรือชื้นตักผงเครื่องเทศ เพื่อป้องกันการปนเปื้อนและการดูดความชื้น
บทความที่น่าสนใจ by News Daily TH
✪ 10 เครื่องดื่มช่วยลดไขมันเลว LDL ลดคอเลสเตอรอลในเลือด
✪ ปลาไทยที่มีไขมันดีไม่แพ้ปลาแซลมอน โปรตีนสูง สร้างกล้ามเนื้อและบำรุงสมอง
✪ 5 ประโยชน์ผงกล้วยดิบ ที่ช่วยได้มากกว่าลดกรดไหลย้อน
หากอ่านแล้วบทความมีประโยชน์ กดโหวต ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ ให้ด้วยนะคะ
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
นิทานเพื่อนรัก 3 คนสู่โศกนาฏกรรมปริศนา! สั่งระงับเผาศพ-พบ "ไซยาไนด์" ในร่างผู้เสียชีวิต
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
“นานา ไรบีนา” เพิ่งพ้นคุกก็เจอดราม่าซ้อน—เพื่อน (เคย) รักแห่ออกมาสวนแรง
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
"ฮุนเซน" เงินหมด ทหาร BHQ คู่ใจทรยศ แอบซบอก "สมรังสี"
ตุ๋นลงทุนทิพย์: ไว้ใจ เชื่อใจ หรือเกรงใจ… สุดท้ายใครคือเหยื่อ?
รอบ 3 อาการ 12: หัวใจแห่งการตื่นรู้สำหรับชีวิตประจำวัน (เอไอ รวบรวมและเรียบเรียง)
เลิกกัน แต่ปล่อยคลิปลับ — คนแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกได้ยังไง?
7 อันดับสารพิษตัวร้าย : อยู่ให้ไกล ระวังให้ดี เพราะโลกนี้ไม่ได้อ่อนโยนกับเราเสมอไป






