วิธีรับมือกับแรงกดดันในการทำงาน เมื่อต้องเผชิญสถานการณ์ที่ยากเกินต้าน
1.แรงกดดัน คือ สิ่งกระตุ้นในการทำงานเป็นอย่างดี ธรรมชาติของมนุษย์ คือ สิ่งมีชีวิตที่ต้องเอาตัวรอด เราจึงต้องการความท้าทายผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งทำให้เราเกิดการพัฒนาตัวเอง มากยิ่งขึ้น ไม่ควรมองแรงกดดันในทางลบจนเกินไป สิ่งที่ต้องทำ คือ เราควรจะเข้าใจสิ่งที่กดดันในการทำงาน มองว่ามันเป็นเรื่องปกติในการทำงานที่ต้องเจอกันทุกคน
2.เข้าใจงานที่ทำ และ รู้ตัวเสมอว่าต้องเผชิญกับอะไร ประเมินความท้าทายและความเสี่ยงที่เรารับได้ ขั้นตอนแรกเราควรจะรู้ก่อนว่างานที่เราจะต้องทำนั้นคืออะไร? มีจุดประสงค์อะไร? และมีขั้นตอนการดำเนินงานอะไรบ้าง? เมื่อเรารู้ขั้นตอนและเข้าใจวัตถุประสงค์ของงาน เราจะสามารถเตรียมตัว เตรียมใจ รับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต รวมถึงสามารถวางแผนรับมือได้ เมื่อความคิดเราโล่งโปร่งสบายแล้วย่อมสามารถคิดหาวิธีการแก้ไขปัญหาได้ดีกว่า ในขณะเดียวกันหากเราคิดหาวิธีในการแก้ไขปัญหาได้ เราจะพาตัวเองไปหาวิธีการจนสามารถแก้ไขแรงกดดันดังกล่าวได้
3.วางแผนล่วงหน้า และคอยถามตัวเอง หากเกิดกรณีอื่น ๆ ขึ้นจะทำอย่างไร การมีแผนสำรองไว้ในกรณีที่แผนหลักไม่เป็นอย่างใจหวัง หรือเกิดสิ่งไม่คาดคิด ถือเป็นความคิดที่ดี เพราะจะช่วยลดความเครียดจากความผิดพลาดได้
4.ใช้สติและจัดลำดับความสำคัญ สิ่งที่ต้องมีมากที่สุด คือ "สติ" เพราะการรับมือกับหลาย ๆ สิ่งพร้อมกัน อาจทำให้เราสติแตกและหัวหมุน เมื่อได้สติแล้ว ลองจัดลำดับความสำคัญในการทำงาน ว่างานอะไรที่ต้องทำก่อน-หลัง และค่อย ๆจัดการไปทีละงานให้เสร็จ
5.ควบคุมตัวเองให้ดี บางครั้งต้องรู้จักถอยหลังเพื่อคิดหาวิธีการแก้ปัญหาที่เจอ ตั้งคำถามให้ถูกเมื่อเจอปัญหา จะช่วยให้เข้าใจโอกาสในการแก้ไขได้ดียิ่งขึ้นเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน ยิ่งควบคุมตัวเองได้ดีเท่าไหร่ ก็จะยิ่งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้นเท่านั้น
6.หยุดรับบทเดอะแบก แชร์งานให้คนอื่นๆ บ้าง การที่เราแบกรับภาระงานนั้นไว้คนเดียว ด้วยความที่คิดว่าทำได้หรืออยากให้งานนั้นออกมาสมบูรณ์แบบ ทำให้ความกดดันจากงานตกมาอยู่ที่เราเพียงคนเดียว ซึ่งนั่นไม่ดีเท่าไหร่นัก หากเห็นว่าสามารถมอบหมายให้ผู้อื่นได้ หรือหากต้องการความช่วยเหลือ อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน
7.หัดปฏิเสธหรือพูดว่า "ไม่" ดูบ้าง การผลักภาระหรือโยนงานมาให้ทำ หากเป็นคนที่ปฏิเสธคนไม่เป็น ก็จะต้องจำยอมรับทำงานนั้นไปโดยปริยาย ดังนั้น ลองปฏิเสธดูก็ไม่เสียหาย เมื่อพิจารณาแล้วว่างานนั้นอยู่นอกเหนือจากหน้าที่ของเรา หรือเป็นงานที่เราไม่ได้รับมอบหมาย
8.แบ่งเวลาทำงาน และ เวลาพักผ่อน จัดการความเครียดในการทำงาน จัดการเรื่องต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ปรับเปลี่ยนการทำงานแบบ Work Life Balance ปรับสมดุลการทำงานและการพักผ่อนให้เหมาะสม เมื่อทำงานมากจนเกินไป จากความกดดันอาจเปลี่ยนเป็นความเครียดสะสม ซึ่งไม่ดีต่อสุขภาพของควรจัดสรรเวลาพักอย่างเหมาะสม หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด การออกไปสังสรรค์หรือพูดคุยกับเพื่อน ช่วยให้คลายเครียดได้เป็นอย่างดี
วิธีการในการบรรเทาความเครียดในการทำงาน จะช่วยให้สามารถรับมือกับแรงกดดันต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ ทำให้เราอยู่เหนืออุปสรรคทั้งหมด และก้าวต่อไปข้างหน้าได้ แม้ในวันที่เหนื่อยล้าก็ยังยิ้มออกได้



















