ใกล้ตรุษจีนแล้วนำ เหนียน 1ในตำนานปีศาจที่ทำให้เกิดเทศกาลตรุษจีนมาให้อ่านกัน
ตรุษจีน หรือที่เรียกกันว่า "วันปีใหม่จีน" (Chinese New Year) เป็นหนึ่งในเทศกาลที่สำคัญที่สุดของชาวจีนทั่วโลก มีตำนานและความเชื่อที่เกี่ยวข้องหลากหลายเรื่องราว โดยเรื่องที่โด่งดังที่สุดเกี่ยวข้องกับ "ปีศาจเหนียน" (年兽) ดังนี้:
ตำนานปีศาจเหนียน (Nian Monster)
ในอดีตกาล มีปีศาจตนหนึ่งชื่อว่า "เหนียน" (年) ซึ่งมีรูปร่างใหญ่โตและดุร้าย อาศัยอยู่ในภูเขาหรือทะเลลึก ทุก ๆ ปีในช่วงฤดูหนาว เหนียนจะออกมาจากที่ซ่อนเพื่อโจมตีหมู่บ้าน กินคนและสัตว์เลี้ยง ทำให้ผู้คนหวาดกลัวและต้องหลบซ่อนตัวในวันขึ้นปีใหม่จีน
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านค้นพบว่า ปีศาจเหนียนกลัวสามสิ่ง ได้แก่
1. เสียงดัง - เช่น การจุดประทัดหรือการตีกลอง
2. สีแดง - ชาวบ้านเริ่มแขวนกระดาษสีแดงและประดับโคมแดง
3. แสงไฟ - การจุดไฟหรือประดับโคมไฟช่วยขับไล่ปีศาจ
เมื่อถึงปีใหม่ ชาวบ้านจะพร้อมใจกันแขวนผ้าและกระดาษสีแดงตามบ้าน จุดประทัด และจุดไฟเพื่อไล่เหนียนออกไป หลังจากนั้น เหนียนก็ไม่กล้ากลับมาทำร้ายอีกเลย และเทศกาลตรุษจีนก็กลายเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะนี้
---
ตำนานเกี่ยวกับเทพเจ้า
นอกจากนี้ ตรุษจีนยังเกี่ยวข้องกับความเชื่อเรื่อง เทพเจ้าเตาไฟ (Zao Shen / 灶神) ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่คอยดูแลบ้านเรือนของผู้คน ช่วงก่อนตรุษจีน ผู้คนจะทำพิธีเซ่นไหว้เทพเจ้าเตาไฟ และเชื่อว่าเทพเจ้าเตาไฟจะขึ้นสวรรค์เพื่อรายงานความดี-ความชั่วของแต่ละครอบครัวต่อเง็กเซียนฮ่องเต้ (จักรพรรดิแห่งสวรรค์)
---
ความหมายของตรุษจีน
ตรุษจีนถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นใหม่ การแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษ และการขจัดสิ่งไม่ดีในปีที่ผ่านมา โดยมีธรรมเนียมสำคัญ เช่น การทำความสะอาดบ้าน การไหว้เจ้า การแจกอั่งเปา และการรวมตัวของครอบครัวเพื่อเฉลิมฉลอง
ข้อสรุป
ตำนานตรุษจีนแฝงไปด้วยบทเรียนเกี่ยวกับความสามัคคี การปกป้องครอบครัว และการเชื่อมั่นในสิ่งดีงาม ทำให้เทศกาลนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเฉลิมฉลอง แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงวัฒนธรรมและประเพณีที่สำคัญของชาวจีนทั่วโลก.
ขยายความตำนานและรายละเอียดเหนียน
ตำนานปีศาจเหนียน (Nian Monster) เป็นเรื่องเล่าที่มีชื่อเสียงในวัฒนธรรมจีน โดยเป็นเรื่องราวที่แฝงไปด้วยความหมายและข้อคิด ซึ่งเกี่ยวข้องกับความกล้าหาญและการปกป้องครอบครัวจากอันตราย มาดูรายละเอียดของตำนานนี้กัน:
ต้นกำเนิดของปีศาจเหนียน
ในสมัยโบราณของจีน มีปีศาจที่เรียกว่า "เหนียน" (年) ซึ่งมีรูปร่างใหญ่โต หน้าตาดุร้าย และพละกำลังมหาศาล บางตำนานบรรยายว่าเหนียนมีเขายาวคม อาศัยอยู่ในภูเขาสูงหรือใต้ทะเลลึก และจะออกมาอาละวาดเพียงปีละครั้งในช่วงฤดูหนาว โดยเฉพาะในคืนก่อนวันปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติของจีน
ความน่ากลัวของเหนียน
เมื่อเหนียนออกมา มันจะทำลายหมู่บ้าน กินสัตว์เลี้ยง และล่าผู้คนเป็นอาหาร ผู้คนจึงหวาดกลัวและต้องหาที่หลบซ่อนตัวในวันนั้น บ้านเรือนเงียบงัน ไม่มีใครกล้าออกมาเดินตามถนน
การค้นพบจุดอ่อนของเหนียน
แม้เหนียนจะดูแข็งแกร่งและน่ากลัว แต่วันหนึ่ง ชาวบ้านได้ค้นพบว่าเหนียนมี จุดอ่อนสามประการ ดังนี้:
- เสียงดัง
ปีศาจเหนียนกลัวเสียงดังมาก เช่น เสียงประทัด เสียงกลอง หรือการตีโลหะ - สีแดง
สีแดงเป็นสิ่งที่เหนียนไม่สามารถทนได้ ชาวบ้านจึงแขวนผ้าสีแดง และติดกระดาษสีแดง (春联) ไว้ที่ประตูบ้าน - แสงไฟ
เหนียนกลัวแสงสว่าง ชาวบ้านจึงเริ่มจุดไฟ ประดับโคมไฟ หรือเผาฟืนในเวลากลางคืน
การเอาชนะเหนียน
มีตำนานเล่าถึงชายชรา (หรือเทพเจ้าแปลงกายมา) ที่มอบคำแนะนำให้ชาวบ้านใช้ เสียง สีแดง และแสงไฟ เพื่อป้องกันการโจมตีจากเหนียน
- ชาวบ้านรวมตัวกันจุดประทัด ตีกลอง และแขวนผ้าสีแดงตามบ้านเรือน
- บางคนจุดไฟและถือคบเพลิงเดินรอบหมู่บ้าน
เมื่อเหนียนมาถึงหมู่บ้าน มันถูกเสียงดัง สีแดง และแสงไฟขับไล่จนหนีไปไม่กลับมาอีกเลย นับแต่นั้นมา ทุกปีในวันขึ้นปีใหม่ ชาวจีนจะทำตามธรรมเนียมนี้เพื่อป้องกันความโชคร้ายและเริ่มต้นปีใหม่อย่างปลอดภัย
สัญลักษณ์ของเหนียนในวัฒนธรรมจีน
ปีศาจเหนียนไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนของอันตรายทางกายภาพ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของอุปสรรคหรือความทุกข์ยากในชีวิต การเอาชนะเหนียนจึงหมายถึงการขจัดสิ่งไม่ดีและเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่มีความสุขและปลอดภัย
ประเพณีที่สืบทอดมาจากตำนาน
- การจุดประทัด
เพื่อป้องกันปีศาจและนำโชคดี - การติดกระดาษสีแดง
บริเวณประตูบ้านเพื่อเสริมสิริมงคล - การประดับโคมไฟ
เพื่อขจัดความมืดมนและปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย - การเฉลิมฉลองอย่างครึกครื้น
การรวมตัวของครอบครัวในวันตรุษจีนสะท้อนถึงความรักและความสามัคคี
ข้อคิดจากตำนานปีศาจเหนียน
- ความกล้าหาญและความร่วมมือ: การที่ชาวบ้านร่วมมือกันป้องกันเหนียนเป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคี
- ความหวังและการเริ่มต้นใหม่: การขับไล่เหนียนเปรียบเสมือนการปลดปล่อยชีวิตจากสิ่งชั่วร้าย เพื่อเข้าสู่ปีใหม่ที่สดใส
- การใช้สติปัญญา: การค้นพบจุดอ่อนของเหนียนสอนให้เราพึ่งพาสติปัญญาในการเผชิญหน้ากับปัญหา
ตำนานนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนความเชื่อดั้งเดิมของชาวจีน แต่ยังเป็นพื้นฐานของประเพณีตรุษจีนที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน.











