อาการท้องเสียสลับกับท้องผูก อาจเกิดจาก “ลำไส้แปรปรวน !!”
ลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome) เป็นอาการที่เกิดขึ้นจากการทำงานของลำไส้ส่วนปลายที่ผิดปกติ ทำให้มีการบีบรัดตัวมาก และ ไวต่อสิ่งกระตุ้น ส่งผลให้มีอาการปวดเกร็ง แน่นอึดอัดท้อง การขับถ่ายผิดปกติ
ลำไส้แปรปรวนจะมีอาการที่สามารถบ่งชี้ได้ คือ การขับถ่ายที่ผิดปกติ ปวดท้องเรื้อรังแบบเป็น ๆ หาย ๆ โดยจะไม่มีอาการอื่นร่วมด้วย ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ 3 กลุ่มอาการ เช่น กลุ่มอาการท้องผูก กลุ่มอาการท้องเสีย และ กลุ่มอาการท้องเสียสลับกับท้องผูก
ลำไส้แปรปรวน เกิดจากสาเหตุใด
- พันธุกรรม หรือ ความเครียด ที่ประสบพบเจอในแต่ละวัน
- จุลินทรีย์ในทางเดินอาหารเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ผู้ป่วยเป็นลำไส้แปรปรวน
- ระบบการย่อยอาหารผิดปกติ
- การติดเชื้อทางเดินอาหาร
อาการของ ลำไส้แปรปรวน
- ปวดท้องอย่างน้อย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ในช่วง 3 เดือน
- ท้องผูก หรือ ท้องเสีย
- ท้องอืด แน่นท้อง มีลมในท้อง
- ปวดเกร็งบริเวณท้องน้อย หรือ ใต้สะดือ
- อาการปวดท้องสัมพันธ์กับการขับถ่าย
- คลำเจอก้อนภายในท้อง
- โลหิตจาง
- ถ่ายเป็นเลือด
- มีไข้ น้ำหนักลดลง
- คลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง
ลำไส้แปรปรวน มีวิธีการรักษาอย่างไร
- แพทย์จะให้ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงอาหาร ที่มีองค์ประกอบเป็นคาร์โบไฮเดรต
- ให้ผู้ป่วยปรับพฤติกรรม โดยแพทย์จะค้นหาวิธีที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นที่ทำให้ผู้ป่วยอาการกำเริบ
- รักษาโดยให้ยาตามอาการ เช่น ยาแก้ปวดท้อง ยาระบาย ยาต้านบีบเกร็ง ยาต้านอาการซึมเศร้า เป็นต้น
วิธีป้องกันลำไส้แปรปรวน
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร เพิ่มอาหารที่มีกากใย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน
- ลดความเครียด คลายความกังวล รู้จักจัดการกับความเครียด
- ไม่กลั้นอุจจาระ
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
ลำไส้แปรปรวน อาจส่งผลกระทบให้ใช้ชีวิตได้อย่างยากลำบากในแต่ละวัน ดังนั้น เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับกินอาหาร ลดความเครียด หันมาใส่ใจสุขภาพให้มากขึ้น จะได้ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอาการนี้ แต่ หากพบว่าตัวเองเข้าข่ายอาการของโรคลำไส้แปรปรวน ให้เข้าพบแพทย์ทันที เพื่อวินิจฉัยอาการ ดำเนินการรักษาต่อไป