รอยสัก Ta Moko : ศิลปะบนใบหน้าที่สะท้อนจิตวิญญาณของชนเผ่าเมารี
รอยสักบนใบหน้าของชนเผ่าเมารี หรือที่เรียกว่า Ta moko เป็นมากกว่าศิลปะบนเรือนร่างทั่วไป แต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีความหมายลึกซึ้งในชีวิตของชาวเมารี Ta moko ไม่ได้เป็นเพียงการประดับร่างกาย แต่สะท้อนถึงสถานะทางสังคม ความกล้าหาญ และเอกลักษณ์ของแต่ละบุคคล
สำหรับเด็กหนุ่มในชนเผ่าเมารี Ta moko เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมสำคัญที่แสดงถึงการก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ การสลักลวดลายลงบนใบหน้าไม่เพียงแต่เป็นเครื่องบ่งบอกว่าเด็กหนุ่มเหล่านี้พร้อมจะรับหน้าที่ในฐานะผู้ใหญ่ แต่ยังสื่อถึงสายสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับบรรพบุรุษ และเป็นสัญลักษณ์แห่งการยอมรับในสังคม
ในอดีต ลวดลายของ Ta moko จะถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันโดย tohunga ta moko หรือช่างสักผู้เชี่ยวชาญ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ โดยแต่ละเส้นสายสะท้อนถึงสายตระกูล ความสำเร็จ หรือความเชื่อส่วนบุคคล
ในวัฒนธรรมเมารี Ta moko ไม่ได้มีไว้สำหรับผู้ชายเท่านั้น ผู้หญิงก็มีรอยสักที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง โดยเฉพาะบนบริเวณคาง (เรียกว่า kauae) ซึ่งแสดงถึงความงามและความมีเกียรติ ในขณะเดียวกันสำหรับผู้ชาย ลวดลายบนใบหน้ามักแสดงถึงสถานะทางสังคม ความกล้าหาญในสงคราม และศักดิ์ศรีของพวกเขา
นอกจากนี้ Ta moko ยังมีบทบาทในด้านความรักและความสัมพันธ์ การมีรอยสักที่โดดเด่นอาจช่วยดึงดูดความสนใจจากเพศตรงข้าม และยังบ่งบอกถึงความเป็นผู้นำหรือความสามารถในการดูแลครอบครัว
ชาวเมารีเป็นชนพื้นเมืองที่มีเชื้อสายโพลินีเซีย เดินทางมาถึงหมู่เกาะนิวซีแลนด์ราวปี ค.ศ. 800 ซึ่งเป็นดินแดนสุดท้ายและกว้างใหญ่ที่สุดที่ชาวโพลินีเซียเข้าครอบครอง ในช่วงแรก พวกเขาดำรงชีพด้วยการล่าสัตว์ เช่น นกโมอา ซึ่งปัจจุบันสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว เมื่อนกโมอาหมดไป ชาวเมารีเริ่มหันมาเพาะปลูกและทำกสิกรรม แต่ทรัพยากรที่ลดลงนำมาสู่สงครามระหว่างเผ่า
สงครามและการปกป้องดินแดนสร้างความแข็งแกร่งให้กับชนเผ่าเมารี ซึ่งในเวลาต่อมาพวกเขาได้ต่อสู้เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของตนเองจากการอพยพเข้ามาของชนผิวขาวในนิวซีแลนด์
แม้ในยุคปัจจุบัน Ta moko อาจไม่ถูกใช้ในลักษณะเดียวกับอดีต แต่ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งความภูมิใจในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของชาวเมารี การฟื้นฟู Ta moko ทำให้คนรุ่นใหม่กลับมาเรียนรู้และสืบสานจิตวิญญาณของบรรพบุรุษอีกครั้ง