ทำไมสเนปไม่มาร่วมส่งแฮร์รี่ ในเมื่อแฮร์รี่ก็รู้ความจริงทั้งหมดแล้ว
ตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือ “สเนปไม่ใช่คนที่แฮร์รี่อยากเจออีกครั้ง ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ณ ตอนนั้น” น่ะสิครับ
.
บางคนอาจบอกว่า “แฮร์รี่ได้รู้ความจริงแล้วนี่นา ว่าสเนปคอยช่วยเหลือเขามาตลอดถึงขั้นยอมสละชีวิตตัวเองเลยด้วย แล้วแฮร์รี่ก็เอาชื่อของสเนปไปตั้งให้กับลูกชายของเขาเอง แปลว่าเขายกโทษให้สเนปแล้วน่ะสิ”
.
อ่ะ เราต้องใจเย็นๆ ก่อน ค่อยๆ นึกภาพฉากการรบที่ฮอกวอตส์กันอีกครั้งนึง
.
จริงอยู่ที่ในบท “เรื่องเล่าของเจ้าชาย” มันคือการเฉลยปมใหญ่ของเรื่องราวในพอตเตอร์ทั้งหมด หลายคนซาบซึ้งไปกับความเสียสละและความรักอันยิ่งใหญ่ของสเนปที่มีต่อลิลี่ โดยลืมไปว่าบทนั้นยังมีความสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การเฉลยปมเรื่องเสี้ยววิญญาณของโวลเดอมอร์ที่อยู่ในตัวแฮร์รี่ด้วย และปมนี้เป็นปมที่จะเดินเรื่องไปสู่บทต่อๆ ไป คือแฮร์รี่ต้องเอาตัวเองไปให้โวลเดอมอร์ฆ่า
.
สถานการณ์ในตอนนั้น แฮร์รี่คิดอย่างเดียวว่า “ฉันกำลังจะตาย ฉันจะต้องตาย เพื่อยุติเรื่องพวกนี้”
.
เรื่องเล่าที่ว่าคนที่กำลังจะตาย ในเสี้ยวนาทีสุดท้ายเขาจะเห็นคนที่รักมากที่สุดมาปรากฏตัวน่าจะมีในฝั่งยุโรปด้วย เจ.เค.เลยเขียนตอนนี้ขึ้นมาให้แฮร์รี่ใช้หินชุบวิญญาณ เพื่อทำให้คนที่เขารักปรากฏตัวอีกครั้ง ซึ่งมีใครบ้างล่ะ พ่อ แม่ ซิเรียสและลูปินนั่นเอง
.
– แล้วสเนปล่ะไปไหน
.
เราอาจกำลังหลงสดุดีในความเสียสละของสเนปจากบทก่อนหน้านี้ โดยลืมคิดไปชั่วขณะว่าตลอดเรื่องราวก่อนหน้านี้ตั้งแต่ต้นจนจบ แฮร์รี่นั้นเกลียดสเนปมาก เพราะ ...
1) เขาเข้าใจมาตลอดเกือบปีว่าสเนปฆ่าดัมเบิลดอร์
2) การกระทำต่างๆ ของสเนปที่เขาทำกับแฮร์รี่ตลอดเวลากว่า 6 ปีที่ฮอกวอตส์
เมื่อรวมกับความรู้สึกของแฮร์รี่ในข้างต้นว่าจะต้องเดินไปพบกับความตาย เขาจึงไม่น่าจะมีใจมาคิดถึงหรือสดุดีในวีรกรรมของสเนปที่เพิ่งได้รู้ความจริงหมาดๆ ณ ตอนนั้น แน่นอน
.
อีกอย่างผมคิดว่า.. สเนปเองก็คงไม่มาปรากฏตัวให้แฮร์รี่เห็นด้วยเหมือนกัน – คิดภาพดู ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ผมว่ามันโครต awkward เหมือนกันนะ
.
.
พอเรื่องราวต่างๆ ได้จบลงนั่นเอง แฮร์รี่จึงได้มีเวลาค่อยๆ ตกตะกอนความคิดจากข้อมูลทุกอย่างที่เขาได้มาจากค่ำคืนการต่อสู้อันแสนยาวนาน
.
– เขาบอกเรื่องราวทั้งหมดให้มักกอนนากัล และขอให้มีภาพเหมือนของสเนปในห้องอาจารย์ใหญ่ ไปจนถึงการให้อภัยสเนปและสดุดีความกล้าหาญของเขา
.
“เขาเป็นคนที่กล้าหาญที่สุดเท่าที่พ่อเคยรู้จัก”
แฮร์รี่กล่าวกับลูกชายของเขา อัลบัส เซเวอร์รัส พอตเตอร์
อ้างอิงจาก: พอตเตอร์ไดอารี่