เปิดเหตุผลของคนไม่ยอมเป่า ?
จากเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับศิลปินชื่อดัง ติ๊ก ชิโร่ ที่ขับรถตู้หรูชนรถจักรยานยนต์ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย บริเวณสะพานข้ามถนนเทพรักษ์ เขตสายไหม นักร้องดังได้ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกิดเหตุ และมีการนำตัวไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่โรงพยาบาล หลายคนเกิดคำถามว่าทำไมไม่เป่าวัดแอลกอฮอล์ในที่เกิดเหตุทันที ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้อธิบายว่า ติ๊ก ชิโร่ มีอาการเจ็บหน้าอก ทำให้ไม่สามารถเป่าตรวจแอลกอฮอล์ได้ตามปกติ จึงต้องนำตัวไปตรวจโดยการเจาะเลือดที่โรงพยาบาลแทน
โดยการตรวจหาแอลกอฮอล์ในร่างกายโดยการเจาะเลือดนั้น จะใช้เวลาในการทราบผลประมาณ 3 วัน ซึ่งวิธีการนี้มักใช้ในกรณีที่ผู้ต้องหามีอาการบาดเจ็บหรือมีเหตุผลที่ไม่สามารถเป่าลมหายใจเพื่อตรวจวัดได้ในทันที การที่ ติ๊ก ชิโร่ ไม่ได้เป่าตรวจในที่เกิดเหตุนั้น ไม่ได้เกิดจากความตั้งใจที่จะหลบหนีการตรวจ แต่เป็นเพราะเหตุผลทางสุขภาพ นอกจากนี้ เขายังไม่มีพฤติการณ์หลบหนีหรือปฏิเสธความรับผิดชอบในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ในทางกฎหมาย ผู้ที่ปฏิเสธการเป่าวัดแอลกอฮอล์โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรจะถูกถือว่ามีความผิดตามมาตรา 142 ของกฎหมายจราจรทางบก ซึ่งจะต้องรับโทษตามที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นค่าปรับหรือการถูกฟ้องคดี อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีเหตุผลทางสุขภาพหรือความจำเป็นอื่นๆ ที่ทำให้ไม่สามารถเป่าได้ เจ้าหน้าที่สามารถใช้วิธีการตรวจทางการแพทย์เช่นการเจาะเลือดเพื่อตรวจหาแอลกอฮอล์ในร่างกายแทน
สำหรับกรณีของ ติ๊ก ชิโร่ เนื่องจากมีการเจาะเลือดเพื่อตรวจวัดแอลกอฮอล์ การตรวจสอบทางกฎหมายจะรอผลจากโรงพยาบาล ซึ่งจะใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการทางกฎหมายต่อไปตามกระบวนการ ทั้งนี้ การที่เขาไม่ได้เป่าที่เกิดเหตุนั้น ไม่ได้หมายความว่าเขาจะหลบเลี่ยงความรับผิด แต่เป็นไปตามขั้นตอนที่เหมาะสมตามสภาพการณ์ ซึ่งต้องรอผลที่ชัดเจนต่อไป.