'ศาสตราจารย์ผู้แข็งแกร่ง' แต่อดีตเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม
เรารู้จักศาสตราจารย์มักกอนนากัลกันเป็นอย่างดี อาจารย์สอนวิชาแปลงร่างผู้เข้มงวดและตรงไปตรงมา ท่าทางที่ดูขึงขังและจริงจังทำให้ทั้งชั้นเรียนเงียบเสียงได้โดยที่เธอไม่ต้องตะเบ็งเสียงหรือออกแรงมากนัก สายเลือดนักสู้และความเป็นชาวกริฟฟินดอร์ของมิเนอร์ว่าประจักษ์ชัดในค่ำคืนแห่งการชี้ชะตาโลกเวทมนตร์อย่างการรบที่ฮอกวอตส์ ชื่อของเธอถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์เวทมนตร์ ทั้งเหรียญตราแห่งเมอร์ลินและได้รับเกียรติให้ขึ้นภาพในชุดการ์ดกบช็อกโกแลต
แต่เบื้องหน้าที่ดูแข็งแกร่งของเธอ ในอดีตเบื้องหลังกลับเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม จากความรักที่ไม่สมหวังและการตายของบุคคลใกล้ตัว
พ่อของมิเนอร์ว่าเป็นศาสนาจารย์ผู้ซื่อสัตย์และเถรตรง เขาพบรักกับแม่ของเธอโดยที่ไม่รู้ว่าเธอเป็นแม่มด แม่ของมิเนอร์ว่าพยายามปกปิดตัวตนอย่างเต็มที่เพราะด้วยความรักที่มีต่อสามี แต่แน่นอนว่า ความลับไม่มีในโลก เมื่อมิเนอร์ว่าเกิดมาพร้อมกับเวทมนตร์ที่ติดตัวเธอมาด้วย สุดท้ายพ่อของเธอก็รู้ความจริง แม้เขาจะไม่ได้ทิ้งภรรยากับลูกสาวไป แต่เมื่อรู้ว่าเขาต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ท่ามกลางการปกปิด ปิดบัง ซ่อนเร้นและโกหก สำหรับคนที่รักในความซื่อสัตย์และเถรตรง มันเป็นชีวิตที่น่าขมขื่นอยู่ไม่น้อย
มิเนอร์ว่ารู้สึกสงสารและเห็นใจพ่อมักเกิ้ลของเธอเป็นอย่างมาก นั่นทำให้เธอสนิทกับเขามากและซึมซับอุปนิสัยความเถรตรงและความซื่อสัตย์มาจากเขาเต็มๆ เธอไม่เคยลืมว่าการที่ต้องอยู่ภายใต้สภาวะแบบพ่อของเธอนั้นมันสร้างความอึดอัดมากเพียงใด ซึ่งมันได้กลายเป็นปมในใจ ทำให้เธอต้องปฏิเสธความรักจากมักเกิ้ลหนุ่มคนหนึ่ง แม้เธอเองก็รู้ตัวดีว่ามีใจให้เขาแบบถอนตัวไม่ขึ้น
ดูกัล แมคเกรเกอร์ ชายหนุ่มมักเกิ้ล ลูกชายเจ้าของสวนซึ่งอยู่ในละแวกบ้านเดียวกันกับเธอ พวกเขาพบกันครั้งแรกหลังจากมิเนอร์ว่าเพิ่งเรียนจบจากฮอกวอตส์มาหมาดๆ และกลับมาบ้านในช่วงปิดเทอมหน้าร้อนครั้งสุดท้ายก่อนเธอจะเข้าลอนดอนเพื่อเริ่มงานที่กระทรวงเวทมนตร์
แม้จะเป็นช่วงเวลาอันสั้นๆ ที่มิเนอร์ว่าได้พบกับชายหนุ่มรูปงามลูกเจ้าของไร่ แต่ดูกัลก็ไม่ใช่ชายหนุ่มมักเกิ้ลหน้าโง่ ทั้งสองมีส่วนที่คล้ายกันในแง่ของการมีอารมณ์ขันและชอบการโต้เถียงกันไปมาอย่างสูสี และความกระหายที่จะค้นหาความลึกลับในตัวตนของแต่ละฝ่าย กว่ามิเนอร์ว่าจะรู้ตัวดูกัลก็คุกเข่าขอเธอหมั้นในวันหนึ่ง
มิเนอร์ว่าตอบตกลงในทีแรก แต่เมื่อกลับไปบ้านเธอลองคิดไตร่ตรองดูใหม่ และเห็นภาพตนเองในอนาคต ถ้าเธอตอบรับนั่นหมายถึงว่าเธอจะต้องใช้ชีวิตครอบครัวอยู่แบบพ่อกับแม่ เพราะดูกัลก็ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วมิเนอร์ว่าเป็นแม่มด ถ้าเธอดึงดันจะแต่งงานกับเขา นอกจากจะเป็นจุดจบแห่งความทะเยอทะยานในหน้าที่การงานแล้ว เธอต้องคอยสอนลูกๆ ของเธอให้หัดพูดโกหกเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่เปิดเผยเรื่องการมีอยู่เวทมนตร์ และสภาพแบบนั้นมันต่างกับบ้านที่เธอเติบโตมาอย่างไร เธอรู้ดีว่ามันอึดอัดมากสำหรับคนเถรตรงและรักในความซื่อสัตย์แบบเธอ
เธอจึงตอบปฏิเสธเขาในวันรุ่งขึ้นและมุ่งหน้าสู่ลอนดอน แต่แน่นอนว่าเธอไม่ได้รู้สึกสบายใจอย่างที่เธอคาดคิด นอกจากหน้าที่การงานที่จะไม่สนุกเหมือนที่คิดแล้ว เธอไม่เคยสลัดความรู้สึกที่มีต่อดูกัลทิ้งไปได้เลย แม้จะลาออกจากกระทรวงในเวลาต่อมาแล้วกลับไปฮอกวอตส์เพื่อรับตำแหน่งอาจารย์สอนวิชาแปลงร่าง ดูกัลเองก็ไม่เคยยอมแพ้ที่จะพิชิตใจเธอ เขาเฝ้าส่งจดหมายถึงมิเนอร์ว่าอยู่หลายปี แต่เธอก็ไม่เคยเปิดอ่านนอกจากเก็บมันไว้ในหีบแล้วล็อกกุญแจเก็บไว้ใต้เตียง เธอกล่อมตัวเองว่าเป็นการดีกว่าที่จะให้มันอยู่ในนั้น
แม้เธอจะกล่อมตัวเองเพื่อจะลืมดูกัลไปให้ได้ในเร็วๆ วัน แต่เธอก็ต้องเผชิญหน้ากับความจริงในที่สุด เมื่อเธอทราบข่าวจากจดหมายของแม่ว่าดูกัลตัดสินใจแต่งงานกับหญิงสาวคนอื่นไปแล้วในที่สุด ข่าวการแต่งงานของเขาสร้างความสะเทือนใจให้กับเธออย่างมาก นั่นปลุกเธอกลับมาสู่ความจริงอีกครั้งว่าเธอยังคงรักดูกัลอยู่และไม่มีวันลืมเขาได้เลย
ช่วงที่มิเนอร์ว่ายังทำงานที่กระทรวง เธอเป็นที่ประทับใจของเจ้านายเก่า ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งของกระทรวงนามว่า เอลฟินสโตน เออร์ควอร์ต เขาตกหลุมรักเธอและพยายามขอเธอแต่งงานอยู่หลายครั้ง แต่มิเนอร์ว่ารู้ดีว่าเธอนั้นยังรักดูกัล แมคเกรเกอร์อยู่ แม้ว่าเขาจะแต่งงานไปแล้วก็ตาม เธอจึงปฏิเสธเอลฟินสโตนไปทุกครั้งที่เขาขอเธอ แต่เอลฟินสโตนก็ยังคงไม่หยุดรักเธอ
ช่วงสงครามโลกพ่อมดครั้งที่หนึ่ง มิเนอร์ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องสูญเสียบุคคลใกล้ตัวไปให้กับโวลเดอมอร์และกลุ่มผู้เสพความตาย เธอสูญเสียน้องชายคนสุดท้อง โรเบิร์ต มักกอนนากัล ไปหลังจากที่เขาเข้าต่อสู้กับพวกผู้เสพความตาย และอีกหนึ่งคนที่เป็นเหยื่อกิจกรรมการฆ่ามักเกิ้ลเพื่อความสนุกของพวกผู้เสพความตายคือ ดูกัล แมคเกรเกอร์ เขาถูกฆ่ายกครัวพร้อมกับภรรยาและลูกชาย ข่าวนี้สร้างความทุกข์ระทมให้กับมิเนอร์ว่าอย่างมหาศาล เธอกล่าวโทษตัวเองว่าหากเธอตอบรับคำขอแต่งงานของดูกัลแต่แรก เขาอาจจะไม่ต้องถูกฆ่าตายอย่างอนาถแบบนี้ก็เป็นได้
แม้การตายของดูกัลจะสร้างความสะเทือนใจอย่างมหาศาลให้กับเธอ แต่อีกมุมหนึ่งเธอก็รู้สึกเป็นอิสระจากเขาได้เสียที หลังจบสงครามครั้งที่หนึ่งได้ไม่นาน เอลฟินสโตนซึ่งตอนนี้ผมขาวโพลนแล้ว คุกเข่าเธอขอแต่งงานอีกครั้ง ระหว่างที่พวกเขากำลังเดินเล่นรอบทะเลสาบฮอกวอตส์ คราวนี้มิเนอร์ว่าตอบตกลง พวกเขาซื้อบ้านด้วยกันในฮอกมี้ดส์ แม้จะไม่มีลูกด้วยกัน แต่ก็มีหลานๆ ของมิเนอร์ว่า (ลูกของน้องชายเธอ) ผลัดเปลี่ยนกันแวะมาเยี่ยมเยียนไม่ขาดสาย
มิเนอร์ว่ามีความสุขกับชีวิตแต่งงาน จนกระทั่งเข้าสู่ปีที่สามของชีวิตคู่ อุบัติเหตุก็มาพราก เอลฟินสโตน เออร์ควอร์ต ไปจากเธอ (เขาถูกต้นเทนทาคูเลอะมีพิษกัดเข้าโดยไม่ทันตั้งตัว) มิเนอร์ว่าตกอยู่ในความทุกข์ระทมมากกว่าที่ใครๆ รอบตัวเธอจะคาดคิด หลังเสร็จงานศพของสามี เธอเก็บข้าวของในบ้านที่ฮอกมี้ดส์และตรงสู่ห้องนอนพื้นหินในปราสาทฮอกวอตส์ และใช้เป็นที่พักตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
เธอเป็นบุคคลที่กล้าหาญ เธอทุ่มเทพลังทั้งหมดเพื่องานและนักเรียนของเธอ แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น (รวมทั้งอัลบัส ดัมเบิลดอร์) ที่รู้มาตลอดว่าเธอทนทุกข์ทรมานมากขนาดไหน
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ ลองนำความทุกข์ระทมขมขื่นที่เจอ มาสร้างเป็นเกราะป้องกันใให้เรามีความแข็งแกร่งไม่ว่าจะเจอกับเรื่องใดดั่งเช่นศ.มักกอนนากัลกันนะครับ แล้วพบกันกระทู้หน้าครับ
อ้างอิงจาก: พอตเตอร์ไดอารี่