รีวิวหนัง 65 ผจญนรกล้านปี
พูดถึงหนังแอคชันผจญภัยแล้ว มีอยู่เรื่องหนึ่งที่เป็นภาพยนตร์แอคชันไซไฟที่มีพล็อตเรื่องนำเทคโนโลยีแห่งอนาคตมาปะทะกับโลกยุคไดโนเสาร์ นั่นคือ 65 ผจญนรกล้านปี
ผลงานล่าสุดจากมือเขียนบท A QUIET PLACE ดินแดนไร้เสียง ทั้งสองภาค ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงามทั้งรายได้และคำวิจารณ์ หนังมอบความระทึกขวัญอย่างมีชั้นเชิง และนั่นจะเป็นสิ่งที่ผู้เขียนบทอยากมอบให้ผู้ชม 65 ผจญนรกล้านปี ในฐานะผู้กำกับ
เรื่องย่อ
มิลล์ นักบินสำรวจอวกาศได้รับหน้าที่ไปทำภารกิจหนึ่ง โชคร้ายเจอกับอุกกาบาตชนตัวยาน ทำให้ต้องลงจอดในดาวดวงหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตจากยุคโบราณที่ดุร้ายมากมายหลายชนิด ระหว่างที่มิลล์พยายามหาทางหนีออกจากดาวดวงนี้ เขาได้พบกับโคอา เด็กผู้หญิงไร้เดียงสาที่พูดคนละภาษากับตน ทั้งสองจึงต้องช่วยกันหาทางออกไปจากที่นี่ ทางเดียวที่จะไปจากที่นี่ได้ คือต้องตามหาซากยานอีกส่วนหนึ่งให้พบ
นักแสดงนำ
- Adam Driver รับบทเป็น Mills
- Ariana Greenblatt รับบทเป็น Koa
ความยาว 93 นาที
เขียนบทและกำกับการแสดงโดย Scott Beck และ Bryan Woods
ความชื่นชอบและความประทับใจจากครีเอเตอร์
1.ความตื่นเต้น ความลุ้นระทึก เกิดขึ้นหลังจากดำเนินเข้าเรื่องไปแล้ว 15 นาที หลังจากนั้นการผจญภัยดิ้นรนเอาตัวรอดก็มาทีละขั้น ทีละตอน เนื้อเรื่องถือว่าไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย ดูเพลินเลยทีเดียว
2.ด้วยความยาว 92 นาที ถือว่ากระชับพอสมควร เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบดูหนังที่ยาวต่อเนื่องจนเกินไป ยิ่งโดยเฉพาะยุคปัจจุบันที่นิยมทำหนังที่มีความยาวมากกว่า 2 ชั่วโมงครึ่งเสียเป็นส่วนใหญ่
3.หนังมีความแปลกใหม่ในเรื่องของการจับเอาเทคโนโลยีล้ำยุคมาสู้กับสิ่งมีชีวิตจากยุคโบราณ เป็นการดิ้นรนเอาชีวิตรอดในแบบที่ไม่ค่อยมีหนังลักษณะนี้ออกมาให้เห็นบ่อยนัก แม้พล็อตเรื่องจะธรรมดา ไม่ได้มีอะไรหวือหวาต่างจากหนังผจญภัยเรื่องอื่นๆก็ตาม
4.หนังมี Jump Scare ให้คนดูตกใจสะดุ้งเป็นระยะ เหมาะสำหรับคนชอบหนังแนวระทึกขวัญ แม้จะไม่ได้มีชั้นเชิงอะไรมาก เพราะบางช่วงก็ทำให้คนดูหลุดโฟกัสจากความเบื่อหน่ายอยู่บ้าง แต่ก็กลับมาทำให้คนดูรู้สึกตัวกลับมาติดตามต่อได้อีกครั้ง
5.Adam Driver ยังคงมีชั้นเชิงในการแสดง ยิ่งต้องแสดงด้วยตัวคนเดียวเองแล้ว บอกเลยว่าท้าทาย ต้องแสดงอารมณ์กับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง เพราะใช้ CGI โดยรวมแล้วครีเอเตอร์ถือว่าเขาทำได้ดีเลยทีเดียว
ครีเอเตอร์ให้ภาพรวมถือว่าโอเคเลยทีเดียวสำหรับหนังเรื่องนี้ เราอาจจะเปรียบเทียบกับ A QUIET PLACE โดยตรงเลยก็คงจะไม่ได้ เพราะเนื้อหาและเนื้อเรื่องที่ต่างกันมาก แต่จุดร่วมที่มีเหมือนกันคือความระทึกขวัญ ความกลัว และการดิ้นรนเอาตัวรอดที่ชวนน่าติดตาม