สาววัย 29 กินผักนึ่ง 6 เดือน เพื่อลดน้ำหนัก กลับส่งผลให้มีไขมันพอกตับมากขึ้น
เรื่องราวของสาวชาวจีนวัย 29 ปี รายหนึ่ง เธอชื่อหลิว มาจากเมืองหนิงปัว ตัดสินใจกินผักนึ่งเป็นเวลา 6 เดือน หลังจากเธอได้รับการวินิจฉัยว่ามีไขมันพอกตับในระดับเล็กน้อยระหว่างการตรวจร่างกาย เธอคิดว่าควรจะลดน้ำหนักด้วย
หลิวเชื่อว่าการมีไข่มันพอกตับตอนแรกกที่ตรวจ อาจจะเกิดจากการกินเนื้อสัตว์มากเกินไป ดังนั้นเธอจึงเลิกทานเนื้อสัตว์และแทนที่โปรตีนในอาหารด้วย “ผักใบเขียวและธัญพืชนึ่ง”
หลิวมีส่วนสูงประมาณ 1.6 เมตร เริ่มแรกมีน้ำหนักประมาณ 58 กิโลกรัม หลังจากควบคุมอาหารเป็นเวลา 6 เดือน น้ำหนักเธอลดลง 5 กิโลกรัม แต่เมื่อเธอกลับมาตรวจสุขภาพอีกครั้ง แพทย์พบว่าภาวะไขมันพอกตับของเธอแย่ลง
ภาวะไขมันพอกตับของเธออยู่ในระดับ "ปานกลางถึงรุนแรง" เมื่อเทียบกับระดับ "เล็กน้อย" เมื่อ 6 เดือนก่อน เธอตกใจและงงกับผลการตรวจมาก กินอาหารมังสวิรัติมาเป็นเวลา 6 เดือน แต่กลับมีไขมันพอกตับอย่างรุนแรงได้อย่างไร
ดร.หยาง ไนปิน (ชื่อทับศัพท์จากภาษาจีน) ซึ่งเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลในเครือแห่งแรกของมหาวิทยาลัยหนิงปัว แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของนางสาวหลิวว่า หลายคนมีความคิดที่ไม่ถูกต้องว่าไขมันพอกตับส่งผลต่อผู้ป่วยโรคอ้วนเท่านั้น
ดร.หยางชี้แจงว่าสำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันพอกตับที่เกิดจากโรคอ้วน การลดน้ำหนักอย่าง “ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์” จะช่วยลดระดับไขมันในตับได้
อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าวิธีการลดน้ำหนักที่ “ไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์” อาจทำให้ภาวะไขมันพอกตับรุนแรงขึ้นได้ โดยเฉพาะผู้ที่ควบคุมอาหารมากเกินไปและขาดโปรตีนอย่างรุนแรง อย่างกรณีของหลิวที่แทบไม่ได้กินโปรตีนและไขมันเลยในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา
ดร.หยางอธิบายว่าตับต้องการโปรตีนเพื่อย่อยและเผาผลาญไขมัน หากไขมันไม่สามารถขนส่งออกจากตับได้ ไขมันจะเริ่มสะสมในอวัยวะ การลดน้ำหนักที่เน้นกินผักเป็นเรื่องดี แต่ก็ต้องกินโปรตีนให้เพียงพอ พร้อมกับกินไขมันดีด้วย