คำขอโทษที่ไม่ต้องถามหาเหตุผล?
สวัสดีครับ ในกระทู้นี้นำบทความดีๆ มาแบ่งปันให้อ่านกันนะครับ
คำขอโทษที่ไม่ต้องถามหาเหตุผล?
.....
ลูกชาย : พ่อครับ ผมจะแต่งงานนะครับ
คุณพ่อ : แกต้องขอโทษพ่อก่อน!
ลูกชาย : ทำไมผมต้องขอโทษล่ะครับ?
คุณพ่อ : แกขอโทษก่อนเถอะน่า!
ลูกชาย : เพราะอะไร? ผมผิดอะไรครับพ่อ?
คุณพ่อ : แกขอโทษนะถูกแล้ว!
ลูกชาย : ผมทำอะไรผิดเหรอครับพ่อ?
คุณพ่อ : ขอโทษก่อน!
ลูกชาย : ทำไมครับ?
คุณพ่อ : ขอโทษพ่อก่อน!
ลูกชาย : พ่อบอกเหตุผลมาก่อนว่าเพราะอะไร?
คุณพ่อ : ขอโทษมาก่อน!
ลูกชาย : ผมอยากรู้ว่าผมทำผิดอะไรครับพ่อ?
คุณพ่อ : ขอโทษก่อน!
ลูกชาย : ก็ได้ครับ ผมขอโทษพ่อครับ!
คุณพ่อ : ตอนนี้แกแต่งงานได้แล้ว! นี่เป็นบททดสอบแรกก่อนที่แกจะแต่งงาน เมื่อไหร่ที่แกรู้จักขอโทษโดยที่ไม่ต้องรู้ถึงสาเหตุและเหตุผล แกมีคุณสมบัติในการแต่งงาน ชีวิตครอบครัวของแกจะยั่งยืน พลอยก็เหมือนกันนะลูก บทเรียนนี้พ่อไม่ได้สอนพี่ชายแกเพียงคนเดียว สักวันหนึ่งที่แกจะแต่งงานกับใคร จำบททดสอบที่พ่อให้พี่แกทำเมื่อสักครู่นี้ให้ดี แล้วคู่ชีวิตของลูกจะยั่งยืน
.....
“ขอโทษ”
คือทำกล่าวของคนที่ทำความผิด ความเข้าใจเช่นนี้ถูกต้องแล้วสำหรับคนทั่วไป
แต่สำหรับคู่ชีวิต มิตรสหายหรือครอบครัว บางครั้งก็ต้องพูดออกมาทั้งๆที่มันไม่มีที่มาและที่ไป ไม่มีเหตุและผลให้ถามหา เพราะต่อให้เถียงกันจนชนะด้วยเหตุผลของใครคนใดคนหนึ่ง ผลลัพธ์คือแพ้ราบคาบด้วยกันทั้งสองฝ่าย สิ่งนี้คือความต้องการของคนทั้งสองหรือไม่? คำตอบคือไม่! แต่ทำไมเวลาไม่เข้าใจกัน กลับไม่กล้าขอโทษอีกฝ่ายหนึ่งเล่า? คำตอบคือ เพราะทิฐิ
หากใครคนใดคนหนึ่งง้ออีกฝ่ายหนึ่งก่อน ขอโทษอีกฝ่ายหนึ่งก่อน เธอจงรู้ไว้ เขาอาจไม่ใช่ฝ่ายผิด! แต่เพราะเขารักอีกฝ่ายหนึ่งมากกว่าคำว่าฝ่ายใดเป็นผู้ผิด เขาเพียงแค่เป็นผู้ที่ยอมลดอัตตาของตัวเองลงก่อน
หากเขาผิด แล้วเขาขอโทษ นั่นแปลว่าเขารู้ผิดและอยากแก้ไข
หากเราผิด แล้วเขาขอโทษเราก่อน นั่นแปลว่าเขาถนอมความรู้สึกของเรา ยอมให้อภัยเราก่อน
เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งเอ่ยคำขอโทษ อีกฝ่ายหนึ่งต้องพร้อมให้อภัย ให้โดยไม่ติดใจ หากให้แต่ปากแต่ติดค้างอยู่ที่ใจ สักวันสะเก็ดจะกลายเป็นแผลร้าย ลุกลามจนเกินเยียวยา
เธอเอ๋ย จงจำไว้ อีกหนึ่งเคล็ดลับของการประคองชีวิตคู่ก็คือ คำขอโทษที่ไม่ต้องมีเหตุผล?
ทุกคนเป็นคนที่ดีกว่านี้ได้
ทุกคนเป็นคนที่แจ๋วกว่านี้ได้
และทุกคนประสบความสำเร็จได้
สรุป แน่นอนว่าบางครั้งการใช้ชีวิตคู่อาจจะไม่ได้ราบรื่นเสมอไป อาจจะมีเรื่องที่ไม่ลงรอยกันบ้าง คิดเห็นต่างกันบ้าง แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมขอโทษก่อน แสดงว่าพร้อมที่จะลดทิฐิของตนลง และพร้อมที่จะรักษาสถานภาพไว้ โดยที่ตัวเองยังไม่ได้ทำอะไรผิด รับรองว่าชีวิตคู่จะไปกันต่อได้ แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต่างมีทิฐิ ต้องการเอาชนะอีกฝ่าย ก็อาจจะทำให้ไปกันไม่รอด และไม่ใช่เพียงคู่รักอย่างเดียว ยังรวมถึงความสัมพันธ์อื่นๆ เช่น กับพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน หรือคนรู้จักเช่นกันนะครับ ลองนำมาปรับใช้กันดูนะครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ พบกันกระทู้หน้าครับ
อ้างอิงจาก: บทความทั่วไป
https://web.facebook.com/photo.php?fbid=901461906688569&id=286409091527190&set=a.286417594859673&locale=th_TH&_rdc=1&_rdr
ค้นพบแหล่งทองคำกว่า 500 ตัน มูลค่าสูงถึง 600,000 ล้านหยวน
เครื่องบินรบไทยรุ่นใหม่ T50TH ลงสนามจริงครั้งแรกผลงานประทับใจ
จีน ไฟเขียว ให้ไทย ถล่มรังแก๊งสแกมเมอร์
นักมวยรองแชมป์โอลิมปิก แซะเจ้าภาพไทย หลังตกรอบรองฯ ซีเกมส์ 33
ช็อกวงการมวย! “ตะวันฉาย” ขาหักหลังพ่าย TKO ยกแรก
สถานีรถไฟเกือบเจ๊ง แต่รอดเพราะแมวตัวเดียว ตำนาน ทามะนายสถานีขนฟูแห่งญี่ปุ่น
มาตรการคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซียแบบ “มหาศาล” ของทรัมป์ จะเขย่ามอสโกแค่ไหนและคำตัดสินใจของจีนกับอินเดียคือหมากชี้ขาด
สงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์
ไทย ชวดเหรียญทอง ปันจักสีลัต ทั้งที่กำลังจะขึ้นรับเหรียญ
เมื่อวิทยาศาสตร์อธิบายวินาที "กระดูกร้าวถึงหัก" บนสังเวียนของตะวันฉาย
4 พันธุ์ไม้ "นักดูดฝุ่น" ฟอกอากาศขั้นเทพที่ควรมีติดบ้าน
ทึ่งทั่วโลก : หุบเขาเทวดาวั้งเซียนกู่" หมู่บ้านที่สร้างอยู่ริมหน้าผา สถานที่ท่องเที่ยวแสนน่าทึ่งของประเทศจีน
IO เขมรปั่นหนัก! ใช้ AI สร้างพาสปอร์ตปลอม อ้าง “บัวขาว” เป็นคนกัมพูชา ไม่ใช่คนไทย
โรงแรมในเกียวโตลดราคาเหลือ 3,000 เยนต่อคืน หลังไม่มีนักท่องเที่ยวจีน
สงครามยาเสพติดเวอร์ชันทรัมป์





