Bye Bye Bye ของ NSYNC กลับมาฮิตและติดชาร์ตอีกครั้ง เป็นผลพวงมาจาก Deadpool & Wolverine
ถือได้ว่าเป็นเพลงส่งหนังและหนังส่งเพลงด้วยกันทั้งคู่ เพราะนอกจากจะทำให้หนังโด่งดังขึ้น ยังทำให้เพลงกลับมาฮิตอีกครั้งหนึ่งด้วย เพราะเชื่อว่าใครได้ดูภาพยนตร์เรื่อง Deadpool & Wolverine ที่เพิ่งออกฉายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพลงในฉากหนึ่งที่คุณคงไม่สามารถสลัดออกไปจากความคิดได้จะต้องเป็นฉากเปิดเรื่องที่ตัวละคร Deadpool เต้นเพลงสุดไอคอนิกแห่งยุค 2000 อย่างเพลง Bye Bye Bye ของวง NSYNC อย่างแน่นอน
เพราะฉากนี้มีทั้งท่าเต้นสุดเท่ ทำนองและจังหวะเพลงก็ชวนโยก และเข้ากับบุคลิกสุดกวนของ Deadpool เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เพลงนี้กลับมาฮิตอีกครั้ง และกลับเข้า Top 15 ของ Spotify Global Charts ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย Bye Bye Bye นั้นเป็นซิงเกิลฮิตตลอดกาลของวงบอยแบนด์สัญชาติอเมริกัน NSYNC ที่ปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 17 มกราคม ปี 2000 จากอัลบั้มที่ 3 ของวงที่ชื่อว่า No Strings Attached ซึ่งเนื้อเพลงพูดถึงการจบความสัมพันธ์ของคู่รักที่จบกันไม่สวย
โดยมีท่อนร้องติดหูซึ่งร้องว่า Baby, Bye Bye Bye พร้อมด้วยท่าเต้นเฉพาะตัว เพลงนี้จึงประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากนับตั้งแต่ปล่อยออกมา โดยซิงเกิลเคยขึ้นอันดับ 4 บนชาร์ต US Billboard Hot 100 และเป็น Top 10 ในเกือบทุกประเทศที่มีการอัปเดตชาร์ตเพลง ทั้งยังเคยเข้าชิง Grammys สาขา Record of the Year แต่พ่ายแพ้ให้กับซิงเกิล Beautiful Day ของวง U2 อย่างไรก็ตาม ความนิยมของเพลง Bye Bye Bye ของ NSYNC กลับมาฮิตอีกครั้ง หลังจากกลายเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Deadpool & Wolverine เพราะเพลงนี้ทะยานขึ้นสู่ชาร์ตอันดับที่ 16 ของ Spotify Global Charts ด้วยยอดสตรีมที่เพิ่มขึ้นกว่า 3.34 ล้านสตรีม
ส่วนแผ่นเสียงของเพลงนี้ในแอปพลิเคชัน TikTok ก็มีโพสต์ที่ใช้แผ่นเสียงมากกว่า 86,000 ครั้ง ทั้งยังมีแนวโน้มจะไวรัลมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะในขณะนี้มีคนนำเพลงนี้มาทำเป็นมีมและทำชาเลนจ์เต้นตามฮีโร่ Deadpool ด้วยเช่นกัน มากไปกว่านั้น ขณะนี้ช่อง YouTube ของวง NSYNC ก็เปลี่ยนชื่อไตเติลวิดีโอบน YouTube ให้เป็นคำว่า NSYNC – Bye Bye Bye (Official Video from Deadpool and Wolverine) ดังนั้นดูเหมือนว่าภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่คู่หู Deadpool & Wolverine จะสร้างผลกระทบให้กับเพลงนี้อย่างมหาศาลหลังจากที่เพลงปล่อยออกมาแล้วกว่า 24 ปีนั่นเอง