รีวิวหนังดัง DEADPOOL 2
ภาคแรกว่าปังแล้ว ภาคสองจึงต้องตามมา ใน DEADPOOL 2 ว่าด้วยเรื่องราวชวนอึ้ง เมื่อ Wade Wilson ได้สร้างวีรกรรมไว้มากมาย แน่นอนว่าต้องมีศัตรูที่มองไม่เห็นตามมา ทำให้เขาสูญเสียแฟนสาวจากการลอบยิงของคนที่ตามมาล้างแค้น นั่นทำให้เขาเสียศูนย์ ถึงจะจัดการกับคนร้ายได้ แต่เขาเรียกชีวิตแฟนสาวของตัวเองกลับมาไม่ได้
ผลงานการกำกับของ David Leitch ซึ่งผลงานการกำกับของเขาเป็นแบบสไตล์อารมณ์ดีในแบบฉบับอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งก็เข้ากับสไตล์อย่าง DEADPOOL พอดิบพอดี
เรื่องย่อ
Wade เสียแฟนสาวคนรักอย่าง Vanessa ทำให้เขาแทบอยู่ไม่เป็นผู้เป็นคน Colossus จึงชวน Wade Wilson เข้าทีม X-MEN ก่อนที่ Wade จะฆ่าตัวตายบ่อยครั้งมากไปกว่านี้
นั่นนำพาให้ Wade ไปเจอกับ Russell Collins ที่กำลังทำลายสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยกำปั้นเพลิง แทนที่ Wade จะหยุดยั้งเด็ก กลับกลายเป็นเห็นด้วยกับเด็กคนนั้นว่าสถานที่แห่งนี้ทารุณเด็ก ต้องแก้แค้นด้วยการนองเลือด ทั้งคู่ช่วยกันฆ่าคนจนถูกต้องโทษเข้าคุกสวมปลอกคอจำกัดพลัง
เป็นโอกาสของ Cable เดินทางข้ามเวลามาจากโลกอนาคตเพื่อมาสังหารเด็กที่ชื่อ Russell ที่ในอนาคต Russell จะเป็นคนโหดเหี้ยมฆ่าคนไปทั่วรวมถึงครอบครัวของเขาด้วย Wade จึงต้องเข้าไปขวางทาง Cable เพราะเชื่อว่าหากให้เวลาเขาหน่อยจะสามารถเปลี่ยน Russell ให้กลับมาเป็นคนดีได้
นักแสดงนำ
- Ryan Reynolds รับบทเป็น Wade Wilson, Deadpool
- Josh Brolin รับบทเป็น Cable
- Julian Dennison รับบทเป็น Firefist
- Zazie Beetz รับบทเป็น Domino
- J. Miller รับบทเป็น Weasel
- Morena Baccarin รับบทเป็น Vanessa
- Leslie Uggams รับบทเป็น Blind Al
- Karan Soni รับบทเป็น Dopinder
- Brianna Hildebrand รับบทเป็น Negasonic Teenage Warhead
- Shioli Kutsuna รับบทเป็น Yukio
ความชื่นชอบและประทับใจของครีเอเตอร์
1.หนังใช้สไตล์ Comedy เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก แม้ตัวเอกจะเจอเหตุการณ์ที่ต้องสูญเสียคนรัก แต่หนังก็พาให้ทุกอย่างกลับมาดูมีความหวังจะแก้ไขสถานการณ์ได้ แล้วให้ตอนจบของเรื่องลงเอยอย่าง Happy Ending ตามสูตรสำเร็จของผู้กำกับ David Leitch
2.ฉากต่อสู้ประชิดตัวออกแบบคิวบู๊มาได้อย่างมันสะใจคอหนัง Action อย่างครีเอเตอร์มากๆ ถ้าหนังไม่ขัดจังหวะด้วยอารมณ์เบาสมองเสียก่อนจะเป็นการดีกว่ามาก ควรจะใส่ความเข้มข้นแบบเอาให้สุดก่อนจะเวิร์กกว่า น่าเสียดายจริงๆครับ
3.ทีม X-FORCE ที่ Wade Wilson ไปเกณฑ์คนมาร่วมทีมหมายจะไปหยุดยั้ง Cable ที่ได้เห็นในตัวอย่างหนังมาก่อนนั้น อย่าได้คาดหวังว่าพวกเขาจะสนองความมันระห่ำแบบสาแก่ใจ หากมาดูหนังจริงๆจะพบว่าพวกเขาก็เป็นแค่ตัวตลกทีมหนึ่งที่โชคร้ายไปหน่อยเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งมุกตลกร้ายที่สอบผ่านอยู่เหมือนกันครับ
4.เนื้อเรื่องโดยภาพรวมก็ใช้ได้อยู่นะ เพียงแต่การดำเนินเรื่องเป็นไปตามสูตรสำเร็จของผู้กำกับ David Leitch ที่อยากให้หนังคงความรู้สึก feel good อีกทั้งวายร้ายตัวจริงของภาคนี้ไม่น่าเกรงขามเท่าที่ควร คือมันไม่เก่งพอจะมาเจอกับทีมมนุษย์กลายพันธุ์ มันจึงไม่มีอะไรให้ลุ้นเท่าที่ควร
5.ในเวอร์ชัน Blu-ray จะมีเวอร์ชัน Extended Cut แบบเต็มไม่มีตัด มีฉากให้เห็นมากกว่าในโรงภาพยนตร์ยาวกว่าประมาณ 17 นาที
6.สปอยล์ !!!!..........ตอนจบของเรื่องเกี่ยวข้องกับการข้ามเวลาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีต ทำให้ Timeline ผิดเพี้ยนไปจากความจริงที่ควรจะเป็น นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้ตำรวจกาลเวลาอย่าง TVA ต้องมาควบคุมตัว Wade Wilson ในภาค 3 อย่าง DEADPOOL & WOLVERINE ก็เป็นได้ ฉะนั้น ภาคนี้จึงเป็นหมุดหมายสำคัญของเหตุการณ์ในภาคถัดไป