ทำไมเจ้าชู้ต้องประตูดิน
ทำไมเจ้าชู้...ถึงต้อง “ประตูดิน” ด้วย ประตูอย่างอื่นไม่ได้หรือ ???
เป็นคำถามที่ชวนสงสัยเมื่อผมได้ยินคำว่า “เจ้าชู้ประตูดิน” เชื่อว่า ท่านผู้อ่านหลายๆท่านก็คงจะตั้งคำถามเช่นเดียวกับผม
จริงๆแล้ว คำว่า เจ้าชู้ประตูดิน นี้ มีความหมาย ไม่ใช่ตั้งขึ้นเพื่อให้เกิด ความคล้องจองสละสลวยของภาษาเท่านั้น
จากหนังสือ “ปาริชาต” ปีที่ ๒ เล่ม ๔ ปักษ์หลัง กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๓ หน้า ๑๖ มีคำอธิบายไว้ว่า…คำว่า “เจ้าชู้ประตูดิน” เป็นคำที่หมายถึง คนเจ้าชู้ที่กรีดกราย คอยกรอผู้หญิง
มีต้นบัญญัติมาจากที่ประตูดิน อันเป็นประตูพระบรมมหาราชวังมีอยู่ ๑ ประตู เป็นประตูสำหรับสตรีข้างในเดินเข้าออก (ไม่ปะปนกับบุรุษ) เรียกตามทำเนียบนามว่า ประตูศรีสุดาวงศ์ และประตูอนงคลีลา
ประตูนี้เป็นประตูที่สนุกสนานครึกครื้น เพราะมีเจ้าหนุ่มแต่งตัวมายืนดูหรือ นัดพบกับนางใน พวกสาวใช้ ข้าหลวง หรือจ่าโขลน (หัวหน้าของพวกโขลน คือ หญิง นายประตูวังทำราชการอยู่ในพระราชวัง มีหน้าที่คล้ายตำรวจ-พจนานุกรมแปลไทย-ไทยของ อ.เปลื้อง ณ นคร)
ด้วยเหตุที่มีทางข้างในเข้าออกเหมือนกับเป็นตลาดที่แต่งกายโอ่อวดกัน ปรากฏในขุนช้าง-ขุนแผนว่า “ดีแต่จะเย่อหยิ่งนั้นอย่างเดียว ลอยลากหางเกี้ยว ประตูดิน”
ฉะนั้น เมื่อพูดว่า คนเจ้าชู้ ก็จะมักพูดว่า เจ้าชู้ประตูดิน หมายถึงเป็นเจ้าชู้เดิน กรีดไปกรายมา เพื่อรอพบหญิงข้างใน ดั่งนี้…
หรืออีกความหมาย : เจ้าชู้ประตูดิน สำนวนนี้ใช้กล่าวถึงคนที่เจ้าชู้มาก เจอใครถูกใจก็จีบไม่เลือกหน้า ไม่ว่าจะโสดไม่ โสด เด็ก วัยเดียวกัน หรือสูงวัยกว่าตัวเอง จีบไม่เลือกหน้า ถ้าถูกใจ บางครั้งอาจจะทำให้ตัวเองเดือดร้อน เพราะไปยุ่งกับคนมีคู่
"ประตูช่องกุด" เรียกกันว่า "ท้ายวัง"
ประวัติศาสตร์ กล่าวถึงในชื่อ ประตูดิน เป็นประตูที่ชาววังใช้กัน
สาวชาววัง จะออกมาทางประตูนี้ จึงเป็นที่มาของคำว่า "เจ้าชู้ประตูดิน"
อ้างอิงจาก: ครูอั๋นสรรสาระ, wordpress