" 7การค้นพบ"สถานที่สุดแปลกเหลือเชื่อ นักวิทยาศาสตร์ยังหมดคำจะพูด
" 7การค้นพบ"สถานที่สุดแปลกเหลือเชื่อนักวิทยาศาสตร์ยังหมดคำจะพูด
ในโลกมนุษย์การค้นพบสถานที่แปลกๆใหม่ๆหรือที่ที่มนุษย์ธรรมดาอย่างเรายังไปไม่ถึงสถานที่แห่งนั้นแต่ทุกครั้งที่มีนักสำรวจหรือนักผจญภัยได้ไปถึงที่แห่งนั้นเราก็มักจะได้ยินข่าวเสมอว่าค้นพบสถานที่สุดแปลกแหวกแนว ที่ยังไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ตามหน้าสื่อต่างๆจึงได้ยินข่าวอยู่บ่อยครั้ง วันนี้เราจึงรวบรวมสถานที่สุดแปลกที่ถูกค้นพบจะด้วยความบังเอิญหรือตั้งใจก็แล้วแต่ นี่คือสิ่งที่ถูกค้นพบ7อย่างที่ธรรมชาตินั้นปั้นแต่งให้ดูสวยงามตระการตาและก็มีทั้งน่าพิศวงน่าค้นหาเรียกว่าความมหัศจรรย์ทางธรรมชาตินั้นให้มาล้วนๆ
1.ถ้ำน้ำแข็งคริสตัล
ที่ไอร์แลนด์มีสถานที่สวยมากมายแต่1 กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดก็คือสถานที่ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเป็นถ้ำที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งคริสตัลและอัญมณีที่สวยงามตระการตาเป็นอย่างมากจากการรวมตัวของผลึกน้ำแข็ง ในทะเลสาบที่อยู่ในอุณหภูมิติดลบภายในถ้ำที่เช่นไปด้วยไม่ต่างจากภาพวาดในเทพนิยายที่ธรรมชาติบรรจงสร้างสรรค์ความสวยสดงดงามไว้ให้อย่างลงตัว
2.ดวงตาแห่งซาฮาร่า
นี่คือโครงสร้างประหลาดกลางทะเลทราย
ที่มอริสเตรเลีย ซึ่งมองเห็นจากอวกาศเท่านั้น
ดวงตาเแห่งซาฮาร่าเป็นรูปแบบทางธรณีวิทยา
ทางทะเลทรายที่มีลักษณะคล้ายกับเป้าขนาดมหึมา
มีขนาดกว้าง40กิโลเมตร
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมอริสเตรเนีย
สามารถมองเห็นจากที่สูงในอวกาศเท่านั้น
ในอดีตเชื่อว่าเกิดขึ้นจากการชนของอุกกาบาต
แต่แท้จริงแล้วมันเกิดจากหินตะกอนหินแปรและหินอาคนีได้แทรกซ้อนทับกันไปมาและถูกดันตัวขึ้น
จากชั้นผิวโลก เมื่อไปยืนดูใกล้ๆจะไม่สามารถมองออกได้แต่ถ้าขึ้นเครื่องบินและมองลงมาจะสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
3.หินสามวาฬ
สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในจุดสถานที่ท่องเที่ยว
ในภูศรีจังหวัด"บึงกาฬ"ตั้งอยู่ในพื้นที่ในเขตอนุรักษ์ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลาโดยบริเวณนี้จัดเต็มไปด้วยหินรูปร่างต่างๆหน้าผาและถ้ำกระจายอยู่ทั่วพื้นที่โดนนักท่องเที่ยวที่ได้ยินแต่ชื่อแล้วก็อยากมา
ดูด้วยตาของตัวเองโดยพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยยื่นออกมาเรียงตัวก้อนใหญ่ๆ3ก้อนโดย
มีอายุราว75ล้านปีก่อนเลยทีเดียว และที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามที่สุดอีกด้วยในยามพระอาทิตย์ขึ้น
จากขอบฟ้าเราจะเห็น พระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าอย่างสวยงาม รวมไปถึงภาพวิวทิวทัศน์มองได้ไกล
แบบสุดลูกหูลูกตา ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกสวยงามตระการตายิ่งนัก
4.ภูเขาโรไรมา
หากมองมันเป็นครั้งแรกอาจจะทำให้ทุกคนจินตนาการไปถึงกำแพงที่กั้นใว้เหมือนในหนัง
และมันไม่ใช่กำแพงแต่มันคือภูเขาโรไรมาเขาหน้าตัดอันมหัศจรรย์ของโลกหนึ่งในดินแดนมหัศจรรย์
ของอเมริกาใต้ ตั้งอยู่ในเมืองโรไรมาประเทศบราซิล จุดเด่นของยอดเขาดูราบเรียบเหมือนโต๊ะ นักปีนเขาไม่ควรพลาดที่จะแสวงหาความท้าทายใหม่ๆในแต่ละปีซึ่งก็มีนักปีนเขาวนเวียนมาที่เขาแห่งนี้กันไม่ขาดสาย
5.ทะเลสาบไบคาล
ทะเลสาบใบคาลเป็นทะเลสาบน้ำจืดเป็นทะเลสาบที่มีความลึกที่สุดในโลกตั้งอยู่ทางตอนใต้ในเขตไซบีเรียประเทศรัสเซีย
และในทุกฤดูหนาวจะเป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่ต้องการไปชมธรรมชาติอันน่าทึ่งตื่นตาตื่นใจของทะเลสาบที่กลายเป็นลานน้ำแข็งขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตา
ทะเลสาบขนาดใหญ่แห่งนี้มีสภาพภูมิอากาศเฉพาะตัวโดยมีหน้าหนาวช้ากว่าที่อื่นๆทางฝั่งตะวันออกของไซบีเรียแล้วน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง
ทั้งหมดประมาณช่วงปลายเดือนธันวา แต่จะมีหิมะตกเพียงเล็กน้อยเรื่อยไปจนถึงมกราคมเมื่ออากาศ
เย็นจัดน้ำในทะเลสาบก็จะจับตัวเป็นน้ำแข็งจนมีความหนาพอที่จะทำให้เดินบนผิวน้ำแข็งได้อย่างสบาย
6.น้ำพุร้อนฟรายไกเซอร์
นี่อาจเป็นน้ำพุร้อนที่มีสีสันมากที่สุดในโลกน้ำพุร้อน
ฟรายไกเซอร์ เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นด้วยความบังเอิญ เมื่อร้อยปีมาแล้วมนุษย์ได้ขุดเจาะหาน้ำและทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่ตรงนี้ แต่กลับพบว่าน้ำที่ขุดเจาะขึ้นมานั้นมีอุณหภูมิสูงถึง 200 องศาเซลเซียสเมื่อใช้ประโยชน์ไม่ได้มันเลยถูกปล่อยทิ้งว่างไปเวลาผ่านไปฟรานไกเซอร์จึงกลายเป็นน้ำพุร้อน
ที่มีรูปทรงแปลกตามีน้ำพุร้อนพุ่งออกมาเป็นระยะๆและมันตั้งอยู่ที่รัฐเลวานดาสหรัฐอเมริกา
และที่เห็นเป็นสีสันแหกตานั้นเกิดจากสาหร่ายที่
ครอบคลุมเนิ่นนาน แต่น่าเสียดายน้ำพุร้อนแห่งนี้ไม่ได้เปิดเป็นสาธารณะให้นักท่องเที่ยวที่อยากเข้าชมต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่แห่งนี้ก่อนเท่านั้น
7.ถ้ำหนอนเรืองแสง
ถ้าพูดถึงการไปเที่ยวถ้ำหลายคนคงจะคิดว่า
ภายในถ้ำคงจะมืดมิดมองอะไรไม่เห็น
แต่ไม่ใช่สำหรับท่านแห่งนี้ ที่ได้ชื่อว่าเป็นถ้ำหนอน
เรืองแสง และเรียกได้ว่าสวยที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะแค่เห็นแค่ไหนรูปก็สะดุดตาและอยากไปเที่ยวซะแล้วถ้านักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสด้วยตาของตัวเองแล้วจะสวยสะดุดตาขนาดไหน คำที่ว่านี้อยู่
ทางเกาะเหนือทางตอนใต้ของเมืองวัยกาโตทำแบบนี้ถ้ำแห่งนี้สำรวจครั้งแรกในปี1887และทำให้หลายคนต้องตกตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อได้ไปเห็นภายในถ้ำโดยแสงระยิบระยับที่ว่านี้เกิดจากหนอนเรืองแสง ที่อยู่ภายในถ้ำนั่นเอง เต็มไปด้วยแสงส่องระยิบระยับแพรวพราวสีสันสวยงามส่องประกายแวววาวอร่ามงามตาเหนือคำจะบรรยายเป็นที่สุดครับ.
อ้างอิงจาก: จัดมาชัลแนล&เปิดโลกมหัศจรรย์