ไรเดอร์เจอผี
เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าและเป็นความเชื่อส่วนบุคคนโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของน้าคนหนึ่งที่รู้จักกันซึ่งเขาเล่าให้ผมฟัง ผมขอเรียกน้าคนนี้เป็นนามสมมุติว่าน้าแดนนะครับ วันหนึ่งผมได้มีโอกาสไปงานศพในหมู่บ้านข้างๆซึ่งเป็นญาติของเพื่อนผมคนหนึ่งซึ่งผมก็นั่งพูดคุยเรื่องต่างๆกับคนที่รู้จักกันนี่แหละ อยู่ๆน้าแดนแกก็เดินมาจากไหนไม่รู้และแกก็มานั่งพูดคุยด้วยในกลุ่มของพวกเราจนถึงเวลาพระสวดทุกคนจึงไปฟังพระสวดกันหมดเหลือแค่น้าแดนและผมแล้วเราก็นั่งกันไปได้ซักครู่อยู่ๆแกก็ถามขึ้นมานี่หลานๆเคยเห็นผีบ้างไหม ผมก็ตอบแกว่า ไม่เคยครับและไม่อยากจะเห็นด้วย แล้วแกก็พูดต่อว่า เชื่อไหมน้าเคยเห็นอยู่ครั้งหนึ่ง ทั้งที่ผมยังไม่พูดอะไรแกก็เล่าแบบไม่สนใจไครเลย แกเล่าว่าขอย้อนไปเมื่อประมาณ 3 ปีก่อน สมัยที่ยังไม่เกิดโรคระบาด ตอนนั้นแกยังทำงานอยู่ในกรุงเทพ แกบอกว่าแกเป็นยามทำงานอยู่ในบริษัทหนึ่งแล้วจึงโดนให้ออกเนื่องจากบริษัทขาดทุน แล้วแกเลยมาขับรถส่งอาหารกับเพื่อนหรือไรเดอร์นั้นแหละ แล้วแกยังบอกอีกว่ารายดีมากเลย แกขับรถส่งอาหารได้เกือบ 2 เดือน อยู่มาวันหนึ่ง วันนั้นแกไม่มีลูกค้าเลย แกเฝ้ามองแต่มือถือของแกว่าในแอพไรเดอร์จะมีออเดอร์ลูกค้าเด้งขึ้นมาบ้างไหม แต่ไม่ว่าแกจะมองกี่ทีมันก็ไม่มีอะไรเลยแกได้แต่นั่งเซ็งกับเพื่อนไรเดอร์อีกคนอื่นๆที่กระท่อมซึ่งเป็นที่พักของไรเดอร์ ซึ่งมีไรเดอร์เข้าออกตลอด แบบว่าถ้ามีออเดอร์ลูกค้าก็จะออกไป พอส่งเสร็จก็จะมาพักที่นี่ วันนั้นน้าแดนนั่งรอออเดอร์ลูกค้า นั่งดูมือถือจนบ่ายจะค่ำน้าแดนก็ยังไม่ได้ลูกค้าเลยซักคนเดียวจนน้าแดนเริ่มถอดใจว่าวันนี้จะไม่มีเลย ตอนนั้นเวลาประมาณ 5 โมงเย็น น้าแดนเริ่มเตรียมตัวจะกลับ แล้วอยู่ๆก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากในกระเป๋าเสื้อของน้าแดน แล้วน้าแดนจึงรับสาย ฮัลโหลครับ แล้วปลายสายก็พูดว่า ฮัลโหลค่ะ นี่ใช่ไรเดอร์ป่าวค่ะ น้าแดนจึงตอบว่า ใช่ครับ มีอะไรหรือป่าวครับ ปลายสายก็พูดต่อว่า ช่วยซื้ออาหาร และก็มาส่งที่ .... ให้ได้ไหมคะ คือตอนนี้ออกไปไม่ได้เลยค่ะเดี๋ยวฉันจะจ่ายค่าอาหารและค่าส่งให้ค่ะ น้าแดนจึงตอบว่า ได้ครับ แล้วปลายสายก็พูดว่าเดี๋ยวส่งที่อยู่ให้นะคะแล้วเขาก็วางสายไปแล้วสักครู่เขาก็ส่ง โลเคชั่น ที่อยู่มาให้ แล้วน้าแดนจึงขับรถไปซื้ออาหารให้ลูกค้าคนนั้นเพื่อจะไปส่ง และเมื่อน้าแดนได้อาหารน้าแดนจึงขับรถไปส่ง น้าแดนก็ขับไปตามโลเคชั่นที่เขาให้มาเมื่อน้าแดนขับรถจากถนนใหญ่เข้าซอย ทันใดนั้นเองน้าแดนถึงกับร้องและเบรครถกะทันหันเมื่อน้าแดนเกือบชนหมาตัวหนึ่งซึ่งเป็นหมาดำตัวใหญ่มากเกือบตัวเท่าวัวเลยแหละน้าแดนเล่าถึงกับน้าแดนบ่นออกมา หมาอะไรว่ะตัวโครตใหญ่เลย แต่น้าแดนก็ขับรถหลบไปได้และขับรถตามโลเคชั่นมาจนเจอบ้านหลังหนึ่งที่อยู่สุดซอย บ้านหลังนี้ดูเก่าๆและก่ออิฐกำแพงไว้ล้อมรอบมีแค่ทางเข้าเล็กๆตอนนั้นเวลาก็น่าจะประมาณ 6 โมงเย็นกว่าๆแล้วฟ้าก็จะเริ่มมืดลงน้าแดนจึงหยิบมือถือขึ้นมาแล้วโทรหาลูกค้าคนนั้น แต่น้าแดนโทรไปไม่รู้กี่สายแล้วก็ไม่มีใครรับ น้าแดนจึงยืนรอตรงนั้นแล้วเวลาก็ผ่านไป เมื่อน้าแดนยืนรอนานแล้วน้าแดนจึงคิดว่าเข้าไปเรียกเขาเลยดีกว่านี่ก็ค่ำมากแล้ว น้าแดนจึงเดินเข้าไปผ่านช่องเล็กๆทางเข้านั้น เมื่อน้าแดนเข้าไปถึงหน้าบ้านน้าแดนจึงเคาะประตู ก๊อก ก๊อก ก๊อก.. แล้วก็ร้องเรียก มีใครอยู่ไหมครับเอาข้าวมาส่งครับ แต่เสียงก็เงียบและน้าแดนจึงเคาะประตูและร้องเรียงอีก 2-3 ครั้งแต่เสียงก็เงียบเหมือนเดิม น้าแดนจึงนั่งรอสักครู่แต่ก็ไม่มีใครเปิดประตูออกมา น้าแดนจึงตัดสินใจกลับบ้านน้าแดนจึงเดินออกมาเมื่อน้าแดนถึงหน้าประตูน้าแดนก็หันกลับไปมองบ้านหลังนั้นอีกครั้งน้าแดนก็เห็นเงาใส่ชุดสีขาวแวบๆไปมาตรงหน้าต่างน้าแดนก็บ่นคนเดียวอีกครั้งว่า สงสัยคนแกล้งเราแล้วว่ะวันนี้ยิ่งไม่มีลูกค้าด้วย แล้วน้าแดนก็หันกลับไปมองบ้านหลังนั้นอีกคราวนี้น้าแดนเห็นพยาบาลบนระบียงบ้านชั้น 2 แต่คราวนี้น้าแดนบอกกับตัวเองว่าเมื่อเขาไม่ออกมารับก็ไม่ต้องกิน แล้วน้าแดนจึงกลับบ้านไป เมื่อเวลาผ่านไปอีก 4 วัน น้าแดนจึงได้มาส่งอาหารในซอยข้างๆซอยนี้นี้ เมื่อส่งอาหารเสร็จน้าแดนจึงเล่าเหตุการณ์ที่น้าแดนเจอและถามลูกค้าว่าหลังนั้นคืออะไร ลูกค้าจึงตอบน้าแดนว่าคนที่โทรสั่งอาหารวันนั้นสงสัยเป็นเพื่อนของผมเองแหละวันนั้นมันมาเล่นล่าท้าผีที่นี่สงสัยมันส่งโลเคชั่นผิดครับและบ้านหลังนี้เมื่อก่อนเคยเปิดเป็นคลีนิคทำแทงเถื่อนมาก่อน คนแถวนี้และคนทั่วไปที่เข้ามาจะเจอผีสาวพยาบาลหลอกเอาเยอะครับส่วนเรื่องหมาดำผมไม่รู้ครับว่าเป็นหมาใครแล้วน้าแดนเลยโพสต์ในFacebook ว่าหมาดำที่น้าแดนเจอคืออะไร ไม่นานก็มีพี่คนหนึ่งมาเม้นตอบน้าแดนว่า หมาดำที่เจอมันเป็นผีปอบหรือผีชนิดหนึ่งที่จำแลงกายเป็นหมาดำ น้าแดนเล่าว่าไม่นานก็เกิดโรคระบาดน้าก็เลยกลับมาอยู่บ้านนี้แหละ พอน้าแดนเล่าจบน้าแดนก็เดินหนีไปฟังพระสวดเหมือนคนอื่นๆ
ขอขอบคุณรูปถาพจาก : Pixar