นิยายเรื่อง กุสุมารักที่รอคอย นิยายสั้นจบในตอน
มาย เป็นนักศึกษาสาว คณะนิเทศศิลป์ ปี 4 ได้นัดกับกลุ่มเพื่อนๆ เพื่อไปถ่ายรูปเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และโบราณคดี ที่ จ. พระนครศรีอยุธยา เพื่อไปทำ ธีสิส โปรเจค สำคัญ
เมื่อมาถึงสถานที่ มายและเพื่อนๆ ก็ได้ช่วยกัน ถ่ายรูป โบราณสถานตาม สถานที่สำคัญ ต่าง ๆ ทางประวัติศาสตร์ ไว้มากมาย พร้อมทั้งได้ถ่ายเป็นวีดีโอ เก็บเอาไว้ดูเพิ่มเติม เพื่อต้องใช้ข้อมูลอะไรจะได้ไม่ต้องเสียเวลากลับมาถ่ายรูปใหม่กันอีกครั้ง
ส่วนตัว มาย มีความรู้สึกชื่นชอบเกี่ยวกับพวกสถานที่โบราณ รูปโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ ต่าง ๆ มาย รู้สึกดีที่ได้มาถ่ายรูปเพื่อทำธีสิส กับเพื่อนๆ ที่นี้ ในวันนี้เป็นอย่างมาก มันเป็นสถานที่ ที่ให้ความรู้สึก ทรงคุณค่า เป็นที่น่าจดจำ และระลึกถึง
ตลอดวัน มายและเพื่อน ๆ ต่างเพลิดเพลินกับการถ่ายรูป ตามสถานที่ ต่างๆ ที่ได้ตั้งใจกันไว้ ทำให้เพลินจนลืมเวลา จนเลยเวลากินข้าวกลางวันกันไปตลอดทั้งวัน จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนเย็น
โอ้ๆๆ หิวข้าวว่ะ โบ เพื่อนในกลุ่มบ่นหิวข้าวขึ้นมา จึงทำให้เพื่อนทุกคนในกลุ่มรู้ตัวและเริ่มรู้สึกหิวข้าวกันขึ้นมาบ้าง
" โบ หิวข้าวแล้วไปหาอะไรกินกันไหม "
" มาย เอ่อ ! ได้ๆ หิวแล้วเหมือนกัน "
" ดาว ป่ะ ! งั้นเราก็ไปหาอะไรกินกันดีกว่า "
" งั้นไปกินกุ้งแม่น้ำกันไหม ร้านอาหาร อยู่ใกล้ ๆ แค่นี้เอง เราเห็นตอนขับเข้ามา " พาที พูดเอ่ยถามเพื่อนๆ
เมื่อทุกคนตกลงกันได้แล้วว่าจะไปกินข้าวที่ร้านอาหารที่ พาที แนะนำ ทุกคนจึงเดินไปขึ้นรถ โดยมี พาที อาสาเป็นคนขับรถค่อยบริการเพื่อน ๆ ในวันนี้ตลอดการเดินทาง
" โชคดีนะที่วันนี้พวกเราตัดสินใจเอา รถยนตร์ส่วนตัวมา ทำให้ไปไหนมาไหนได้สะดวก ไม่งั้นละลำบากกันแน่ๆ " มาย พูดขึ้น
" ใช่ได้นั่งรถกันสบาย แถมยังโชคดีเพราะมี สารถี คอนขับรถให้นั่ง 555 " ดาว พูดเสริม
พาที หันมายิ้ม " งั้นวันนี้ก็กลับ กรุงเทพฯ กัน ค่ำ ๆ หน่อยละกัน รถจะไม่ติดมาก " พาที พูดเอ่ยถามความคิดเห็นจากเพื่อน ๆ ขึ้นมา เพื่อนทุกคนจึงพยักหน้าและลงความเห็นว่า เอาตามที่ พาที แนะนำหล่ะกัน
หลังจากกินข้าวกันที่ร้านอาหารเสร็จ พาที ก็ขับรถพาเพื่อนกลับเข้ากรุงเทพฯ กว่าจะถึงกรุงเทพฯ แวะส่งเพื่อนๆ ที่คอนโด ของแต่ละคนก็เวลาเกือบ 4 ทุ่ม
เมื่อกลับมาถึงห้อง มาย รู้สึกตัวว่าเหนื่อยมากสำหรับวันนี้ มาย จึงคิดว่าจะ อาบน้ำ แล้วเข้านอนเลย พรุ่งนี้ค่อยมาตรวจดูรูปที่ถ่ายมาอีกที จากที่ตอนแรกตั้งใจว่าจะตรวจดูรูปวันนี้เลยเมื่อกลับมาถึงห้อง
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ปิดไฟเข้านอน หัวถึงหมอน มาย ก็นอนหลับลงไปทันทีด้วยความอ่อนเพลีย มาย ได้ยินเสียงเหมือนมีใครมาเรียก ชื่อ ของใครสักคนอยู่ตรงปลายเตียง ท่านวิษณุ ท่านวิษณุ สิ้นเสียงเรียก มาย สะดุ้งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา มายมองไปที่ปลายเตียง แต่กลับมองไม่เห็นใครอยู่ตรงปลายเตียงทำให้ มาย คิดว่าตัวเองน่าจะหลับแล้วฝันไป จึงไม่ได้คิดอะไรมาก มายเลยล้มตัวลงนอนต่อ
เช้าวันรุ่งขึ้น มาย ก็อาบน้ำ เตรียมตัวไปเรียนตามปกติ หลังกลับมาจากเรียน มาย ก็มาตรวจดูรูปที่ถ่ายมาจาก อยุธยา มายตรวจดูรูปไปเรื่อยจนดึก จึงลุกไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวเข้านอน มายนอนไปได้สักพักก็เคลิ้มหลับลงไปได้ไม่นาน ท่านวิษณุ ท่านวิษณุ มาย เริ่มรู้สึกตัว เมื่อได้ยินเสียงเรียก รู้สึกสลึมสลือ เหมือนกึ่งหลับ กึ่งตื่น เริ่มมองหาตามเสียงเรียก
มายรู้สึกเหมือนมองเห็นอะไรลาง ๆ อยู่ตรงปลายเตียงนอน มายสะดุ้งตื่นสุดแรงลุกขึ้นนั่ง มองไปที่ปลายเตียงอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ มายเห็นมี ผู้หญิง รูปร่างเพียวบาง สามใส่เสื้อผ้า ด้วยชุดไทย ห่มสไบเฉียงสีชมพูอ่อน นั่งมอง มาย มาจากปลายเตียง มายได้ยินเสียง หญิงสาว พูดกับ มาย ว่า ท่านวิษณุ ในที่สุดข้าก็ได้เจอท่าน สิ้นเสียงพูด หญิงสาว ก็หายตัวไป ทำให้ มาย สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ มาย มองไปที่ปลายเตียงแล้วมองรอบ ๆ ห้องอีกครั้งก็ไม่พบอะไร ทำให้ มาย คิดว่านี้เรานอนหลับฝนซ้อนฝันยังไงหรอ
เช้าวันรุ่งขึ้น มาย ไปเรียนตามปกติแต่ก็ได้นึกถึงความฝันประหลาด ๆ ที่ตัวเองฝันมาตลอดสองคืนติดกัน แต่ มาย ก็ไม่ได้ติดใจอะไรในความฝันนั้นมากนั้นเพราะคิดว่าน่าจะเป็นความฝันแบบปกติธรรมดาทั่วไป
แล้วคืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่ มาย ฝันถึง หญิงสาวคนเดิม แต่ครั้งนี้ มาย ได้ยินในสิ่งที่ หญิงสาว พูดมากขึ้น ท่านวิษณุ ข้าตามหาท่านมาเป็นเพลานานมากแล้ว ในที่สุด ข้าก็ได้เจอท่านแล้ว ท่านวิษณุ ของข้า สิ้นเสียงพูด มาย สะดุ้งตกใจตื่น นี่เราฝันเรื่องเดิมอีกแล้วใช่มั้ย ทำไหมช่วงนี้เราถึงฝันเรื่องเดิมซ้ำ ๆ ติดกันนะ แล้วใครคือ ท่านวิษณุ ที่ หญิงสาว เรียกกันนะ คืนนี้ มาย ไม่สามารถข่มตาให้นอนหลับได้ต่อเหมือนทุกคืนที่ผ่านมา มาย เอาแต่นอนคิดถึงเรื่อวราวที่อยู่ในความฝันจนถึงเช้าวันใหม่ มาย ลุกขึ้นอาบน้ำเตรียมตัวไป มหาลัย เพราะวันนี้มาย มีเรียนช่วงเช้า ไหนๆ ก็นอนไม่หลับอยู่แล้วนี้ ไปมหาลัยเลยก็แล้วกัน แต่ก่อนที่ มาย จะก้าวเดินออกจากห้อง มายหันไปมองที่เตียงนอนอีกครั้ง มายพบว่าที่หัวเตียงนอนมีดอกลีลาวดีสีขาวนวล วางอยู่บนหัวเตียงนอนของมาย มาย รู้สึกแปลกใจว่าดอกลีลาวดีเข้ามาอยู่ในห้องของเธอได้ยังไง
โบ " เฮ่ย ! หน้าตาเหมือนคนไม่ได้นอนเลยนะ นอนไม่หลับเหรอว่ะ ดูสภาพเหมือนจะไม่ไหวเลย ไปหากินกาแฟกันไหมจะได้ตื่นๆหน่อย "
มาย " อืม ใช่เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับนะ แถมฝันแปลก ๆ ติดกันมา 3 คืนหล่ะ "
พาที " แกไปทำอะไรมาหรือเปล่าว่ะถึงได้ฝันแปลก ๆ นะ ว่าแต่ฝันเรื่องอะไรหล่ะ "
มาย " เอ่อ ๆ ช่างมันเถอะ แค่ความฝันนะ ไปซื้อกาแฟกันดีกว่า เดี่ยวสายจะเข้าเรียนไม่ทันเอา "
หลังจบการเรียนของวันนี้ในช่วงเย็น มายกลับมาถึงคอนโด ก็มานั่งทำรายงานต่อโดยลืมเรื่องราวของความฝันไป มาย ทำรายงานจนดึก ๆ ก็เข้าไปอาบน้ำ เตรียมตัวเข้านอน หลังอาบน้ำเสร็จ ก็ปิดไฟนอน มาย นอนหลับและคืนนี้ มาย ก็ฝันถึง หญิงสาวคนเดิม เข้ามาเรียก มาย ว่า ท่านวิษณุ ท่าน วิษณุ ตื่นมาคุยกับข้าหน่อยเถิด ข้ามีเรื่องจะคุยกับท่าน มาย รู้สึกตัวตื่นลืมตาขึ้นมามองเห็น หญิงสาว หน้าตา อ่อนหวาน รูปร่าง บอบบาง สวมใส่ชุดไทย ห่มสไบสีชมพูอ่อน ดูสวยงาม อ่อนหวาน
" ท่านวิษณุ ข้าตามหาท่าน มาเป็นเพลา นานมากแล้ว ข้าพยายามตามหาท่านเท่าใด ก็ตามหาท่านไม่เจอสักครา แต่เพลานี้ ข้าตามหาท่านเจอแล้ว ท่านวิษณุ ในที่สุดข้า ก็ตามหาท่านจนเจอ ตามที่ตัวข้าได้ให้สัญญาไว้กับตัว ของข้าเอง ว่าข้าจะตามหาท่านจนกว่าจะเจอ ท่านออกญาวิษณุ "
" เธอเป็นใคร แล้วเข้ามาอยู่ในห้องของเราได้ยังไง แล้วใครคือ ท่านออกญาวิษณุ "
" ข้าชื่อว่า กุสุมา เป็นภรรยาของ ท่านออกญาวิษณุ ซึ่งก็คือตัวท่าน "
" เมื่อได้ยินดังนั้นก็ตกใจ เดียวๆๆ เธอพูดว่าอะไรนะ เธอเป็นใคร แล้วแล้วใครคือ ท่านออกญาวิษณุ ที่นี่ไม่มีคนชื่อนี้นะ เธอตามหาผิดที่แล้วหล่ะ เราชื่อมายไม่ใช่ท่านออกญาวิษณุอะไรของเธอหรอกและเราก็ไม่รู้จัก คนชื่อนี้เลยนะ "
" กุสุมา ได้ยินในสิ่งที่ มายพูดบอก เธอจึงตอบกลับมาว่า ก็ท่านอย่างไรเล่า ท่านคือ ท่านออกญาวิษณุ ที่ข้าเฝ้าตามหาและรอคอยมาโดยตลอด มิผิดดอกท่านออกญา "
" เป็นไปไม่ได้เราไม่ใช่ ท่านออกญาวิษณุ อะไรของเธอหรอก เราจะเป็น ท่านออกญาอะไรของเธอไปได้ยังไง ในเมื่อเราเป็นผู้หญิงนะ เธอเข้าใจผิดแล้วหล่ะ "
" ข้าเข้าใจมิผิดดอกท่านออกญา ท่านนั้นหล่ะคือ ท่านออกญาวิษณุของข้า เมื่อครั้งในอดีต ก่อนที่ท่านจะไปออกรบ ท่านสัญญาว่าจะกลับมาหาข้า ท่านบอกให้ข้ารอท่านกลับมา ข้าก็รอท่านกลับมาตามที่ท่านบอก แต่ท่านก็มิได้กลับมาตามสัญญาที่ท่านได้ให้ไว้กับข้า ข้ารอท่านจนกรุงศรีอยุธยาแตก ข้าตามหาท่านมาตลอด ข้ามีเรื่องที่ต้องบอกกับท่าน ท่านออกญาวิษณุ "
ณ.เพลา นั้นบ้านเมืองวุ่นวาย ระส่ำระสาย ข้าศึกบุกโจมตีจนเข้ามาถึงกรุงศรีชั้นใน ได้ ฆ่าฟันผู้คนมากมาย ไม่เว้นแม้แต่ พระสงฆ์ องค์เจ้า เผาบ้าน เผาเรือน ทำลายบ้านเมือง กวาดทรัพย์สมบัติที่มีค่าไปมากมาย ครอบครัว ญาติพี่น้อง ต้องบ้านแตกสาแหรกขาด ครานั้นข้าเห็นซากศพของผู้คนมากมายเต็มไปหมด
ในเพลานั้นตัวของข้าได้ตั้งท้องอ่อน ๆ ข้าตั้งใจรอท่านกลับมาตามสัญญาที่ท่านให้ไว้ เพื่อที่ข้าจะได้บอกข่าวดีนี้แก่ท่านด้วยตัวของข้า เพื่อที่เราจะได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูก แต่เมื่อข้าเห็นข้าศึกบุกเข้าตีกรุงศรีชั้นในได้
เพลานั้นข้าก็รู้ได้ทันที ว่าท่านคงมิสามารถกลับมาหาข้าตามสัญญาที่ให้ไว้ได้เพลานั้นท่านได้ออกไปร่วมรบกับข้าศึกที่ด่านหน้า เพื่อป้องกันกรุงศรีอยุธยาไว้ เป็นเพลาหลายเดือนแล้ว แต่สุดท้ายกองทัพหน้า ก็พ่ายให้แก่ศัตรู จนข้าศึกศัตรูตีเข้าเมืองกรุงศรีได้ และ ตัวข้าก็มิอาจรอดจากเหตุการณ์ ในครานี้ไปได้เหมือนกับท่าน และชาวบ้านคนอื่นๆ เหมือนกัน
จิตของข้าในเพลานั้น รอคอยการกลับมาของท่าน รอคอยท่านกลับมาอยู่เคียงข้างกเพลานั้นข้ารู้สึกหวาดกลัว รู้สึกโดดเดี่ยว แต่ข้าก็ยังรอคอย รอคอยท่าน เฝ้ารอให้ท่านกลับมาท่านออกญาวิษณุ. ตี๊ด ตี็ด ต๊้ด เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ทำให้ มาย ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมา นี่เราฝันไปอีกแล้วใช่ไหม แล้วทำไมเราถึงฝันแปลกๆแบบนี้ติดๆ กันหล่ะ
เมื่อรู้สึกหมดความอดทนต่อสิ่งที่สงสัยเกี่ยวกับความฝันไว้ไม่ได้ วันนี้เป็นวันหยุดไม่มีเรียน มาย จึงมาห้องสมุด เริ่มค้นคว้าศึกษาหาข้อมูล ทางประวัติศาสตร์ สมัยสงคราม ยุคกรุงศรีอยุธยา เพื่อศึกษาหาข้อมูลเพิ่มจากเรื่องราวในความฝัน
ใช้เวลาอยู่หลายวันในการอ่าน และ ค้นหาข้อมูลในสิ่งที่สงสัย จนได้มาเจอหนังสือเล่มหนึ่ง เนื้อหาข้างในหนังสือเล่าถึง สมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนอยุธยากรุงแตก น้ำตามายไหลลงมาอาบแก้ม อย่างไม่รู้ตัว ความรู้สึกข้างในนั่นต่างพรั่งพรู่ ออกมาอย่างห้ามไ่ม่อยู่ มันเป็นความ รู้สึกเศร้า รู้สึกเสียใจ รู้สึกคิดถึง รู้สึกโหยหาใครบ้างคน อย่างยากที่จะอธิบาย มายไม่รู้ตัวเลยว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นอยู่ภายมันคืออะไร ทำให้มายย้อนกลับมานึกถึงเรื่องราวในฝัน เรื่องราวที่ กุสุมาหญิงสาว ในความฝันคนนั้นเคยเล่าให้มายฟัง
คืนต่อมา มายนอนหลับแล้วฝันเห็น กุสุมา กลับมาหาแต่ครั้งนี้ เธอมาพร้อมกับชายหนุ่ม ใบหน้าคมคาย รูปร่างสูงใหญ่ แต่งตัวด้วย ผ้านุ่งสีแดงเลือดนกปลายผ้ามีขลิบสีทอง ขาดเอวผ้านุ่งด้วยเข็มขัดทอง ช่วงตัวไม่สวมใส่อาภรณ์ใด ๆ มีเพียงแค่สร้อยสังวาลย์คลาดไว้เท่านั้น กุสุมาได้เอ่ยบอกออกมาว่าคนคนนี้คือ ท่านออกญาวิษณุ คนที่เธอตามหา ข้าขอบใจท่านมากนะ ที่ท่านช่วยข้าตามหาคนรักของข้าจนเจอ ตอนนี้ข้าได้เจอคนรักของข้าแล้ว ขอบคุณท่านที่ช่วยตามหา ท่านออกญาวิษณุ เพลานี้ข้าทั้งสองคนได้เจอกันแล้ว ดังคำสัญญาที่ได้ให้กันไว้ ข้าขอบคุณท่านมาก ๆ เป็นเสียงจาก ท่านออกญาวิษณุ ที่เอ่ยขอบคุณออกมา สิ้นเสียงบอกกล่าวบุคคลทั้งสองก็จับมือกันแล้วเดินจากไป
หลังจากคืนนั้น มาย ก็ไม่ได้ฝันเห็นคนทั้ง คู่อีกเลย
LOMA 🐬🐬