เจอผีที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพัทยา
สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์เจอผีครั้งแรก...
ต้องย้อนไปไปตอนต้นปี 2566 ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมเริ่มทำงานกับเพื่อน
เพื่อนผมได้ชวนผมไปทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่พัทยาและที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดผมได้ทำงานตามปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนเข้าสัปดาห์ที่ 2 เป็นวันที่ผมได้เจอกับเรื่องที่ผมคาดไม่ถึง!!
ผมก็ทำงานตามปกติจนมาถึงช่วงประมาณทุ่มสองทุ่มก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกแล้วผมก็พบว่ามีหน้าต่างเปิดอยู่เลยทำให้น้ำฝนสาดเข้ามาในห้องจนทำให้พื้นเปียกตอนนั้นผมลืมเดินไปปิดหน้าต่างเพราะผมรีบเดินไปเอาไม้ถูพื้นเพราะกลัวว่าอาจจะมีลื่นเพราะพื้นที่เปียกผมเดินที่ห้องเก็บของข้างๆห้องที่ผมอยู่ในตอนที่ผมกลับมาผมก็แปลกใจเพราะว่าหน้าต่างก็ปิดอยู่และก็ไม่ได้มีฝนสาดเข้ามาจนทำให้พื้นเปียกผมรู้สึกประหลาดใจและงงมากในตอนนั้นแต่ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะผมอาจเหนื่อยเรื่องงานจนทำให้เบลอ
เวลาก็ล่วงเลยมาประมาณช่วงสามทุ่มพี่ที่ทำงานคนหนึ่งเค้าใช้ผมให้ไปเอาเสื้อตัวหนึ่งที่ห้องเก็บของตอนผมเดินไปที่ห้องเก็บของนั้นผมได้ยินเสียงรอยเท้าเบาๆเดินตามผมมาผมคิดว่าเป็นเสียงรอยเท้าของผมเลยไม่ได้คิดอะไรมากพอผมเดินมาถึงห้องเก็บของแล้วกำลังจะเปิดประตูนั้นผมก็ได้ยินเสียงรอยเท้านั้นอีกครั้งทั้งๆที่ผมยืนนิ่งอยู่ผมหันกลับไปมองแต่ไม่มีแม้แต่เงาหรือใครสักคนผมเริ่มรู้สึกว่าต้องมีอะไรแปลกแน่ทั้งหน้าต่างที่ปิดเองและรอยน้ำฝนที่หายไปและยังมีเสียงรอยเท้าปริศนานี้อีก...
ห้องเก็บของที่ผมไปนั้นมืดมากแล้วไฟก็ไม่ติดอีกผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเปิดไฟฉายขณะที่ผมส่องไปในห้องก็ไม่เห็นเสื้อสักตัวมีแต่ของที่วางกระจัดกระจายรกไปหมดทันใดนั้นเองก็มีเงาผู้หญิงซ้อนเงาผมอยู่ข้างหลังผมตกใจมาก!!มือผมสลัดโทรศัพท์ออกไปด้วยความตกใจแล้วผมก็รีบวิ่งไปหาพี่ที่ทำงานผมนึกขึ้นได้ว่าผมลืมโทรศัพท์ จึงไปชวนพี่ที่ทำงานอีกคนให้พาผมไปเอาของหน่อย
"พี่ครับผมลืมของไว้ที่ห้องเก็บของพาผมไปเอาหน่อยครับ"
ตอนที่ผมกลับไปที่ห้องนั้นผมก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง ห้องที่มืดและไฟไม่ติดแต่พอผมกลับมาอีกครั้งไฟก็ใช้ได้ตามปกติผมหยิบโทรศัพท์ของผมแล้วสังเกตุเห็นเสื้อตังนึงทั้งทีตอนแรกมันไม่มีในห้องนี้ ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไรและคิดว่า...
"เสื้อตัวนี้แหละมั้งที่พี่เค้าให้มาเอา"
พี่ที่พาผมมาก็ถามผมด้วยความสงสัยว่า
"เองเอาเสื้อตัวนั้นมาทำไม"
ผมจึงตอบกลับไปว่า
"มีพี่ให้ผมมาเอาเสื้อตัวนี้ครับ"
ตอนผมกลับไปทำงานพี่ที่ทำงานรวมถึงพี่ที่พาผมไปเอาของนั้นก็ต่างสงสัยว่าผมเอาเสื้อตัวนี้มาทำไมผมก็ตอบเค้าไปว่า
"มีพี่คนนึงให้ผมไปเอาเสื้อตัวนี้มา"
แล้วเค้าก็ถามผมว่าแล้วใครให้เองไปเอามาหรอผมเดินหาพี่ที่ให้ผมไปเอามาแต่ผมก็ไม่เจอช่วงนั้นเป็นตอนจะเลิกงานพอดีผมรู้สึกกลัวมากกลับสิ่งที่ผมเจอในวันนี้ผมรีบเปลี่ยนชุดและเสื้อที่ผมไปเอามานั้นก็เอาคืนให้กลับแม่บ้านที่โรงแรม
ผมรีบเดินตรงไปที่โรงรถเพื่อที่จะกลับบ้านแต่รถของผมก็สตาร์ทไม่ติดทำให้ผมต้องใช้ที่สตาร์ทเท้าผมลองสตาร์ทอยู่หลายรอบแต่รถของผมก็ไม่ติดจังหวะนั้นมีคนผ่านมาพอดีเค้าจึงช่วยผมสตาร์ทรถ ตอนนั้นผมรีบอยู่ก็เลยไม่ได้โฟกัสที่หน้าของเค้าแต่เห็นเป็นชุดที่ทำงานเดียวกันก็เลยอุ่นใจพี่เค้าสตาร์ทรถให้ผมจนติดในตอนนั้นผมดีใจมากกำลังเงยหน้ามาขอบคุณพี่เค้าแต่ผมก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเพราะว่าเป็นพี่คนเดียวกันกับพี่ที่ใช้ผมไปเอาเสื้อตัวนั้นผมขอบคุณพี่เค้าแล้วรีบขับรถไปอย่างไวในขณะเดียวกันพี่เค้าตะโกนขึ้นมาว่า..
"เสื้อที่พี่ให้ไปเอาเองเอาไปไว้ไหนแล้วหละ"
ผมยิ่งกลัวขึ้นไปอีกแต่ผมก็ไม่ได้หันกลับไปดูผมขับรถมาจนถึงไฟแดงหนึ่งผมก็คิดว่าเรื่องที่ผมเจอมันคืออะไร?แต่ผมก็ยังหาคพตอบไม่ได้พอถึงไฟเขียวผมเหลือบไปเห็นพี่คนนั้นยืนใส่เสื้อที่ใช้ให้ผมไปเอาภาพที่ผมเห็นคือเค้าใส่เสื้อตัวนั้นและมีเลือดอยู่เต็มตัวผมยิ่งกลัวขึ้นไปอีกแต่ผมขับไปแล้วไม่หันไปมองพอถึงบ้านผมก็เอาเรื่องที่ผมเจอเก็บมาคิดว่าทุกอย่างมันคืออะไร?ผมคิดวนไปวนมาจนทำให้ผมนอนไม่หลับวันต่อมาผมกลัวมากจนไม่กล้าไปทำงานผมนั่งคิดนานมากว่าจะไปทำงานดีมั้ยผมตัดสินใจว่า
"เอาวะไปก็ไป"
ผมถามพี่ทุกคนว่ามีใครรู้จักพี่ที่ผมเจอมั้ยผมก็อธิบายลักษณะความสูงสีผิวแบบละเอียด
"คือพี่เค้าเป็นผู้หญิงตัวสูงๆหน่อยสีผิวขาวใส่รองเท้าสีดำ"
แต่ไม่มีใครรู้จักสักคน
แล้วผมก็ไม่ได้เจอพี่คนนั้นอีกเลยย!!
และทั้งหมดนี่แหละครับคือเรื่องที่ผมเจอ