ท่องโลกดึกดำบรรพ์: ยุคแคมเบรียน
สมมุติว่าคุณได้ตื่นขึ้นมาใต้ทะเลลึกที่ก้นทะเล คุณอยู่ในชุดดำน้ำและเมื่อเดินว่ายไปเรื่อยๆ สีสันสะดุดตาของบางสิ่งดึงความสนใจให้คุณเข้าไป ปรากฏว่ามีฟองน้ำปะการังมากมายสีสันสวยงามงอกขึ้นมาจากโขดหินรอบๆ ทว่า คุณมองไปรอบๆ พบว่าท้องทะเลมืดมิดและลึกลับมืดครึ้ม คุณอยู่เพียงคนเดียว มีแต่พื้นทรายที่ปลิวว่อนไปมา
และยังไม่ทันจะแหวกว่ายส่งร่างหนีออกไป คุณก็ถูกห้อมล้อมด้วยสัตว์มีเปลือกหน้าตาประหลาดตัวแบนๆ ที่มีแผ่นเกราะซ้อนเหมือนกระเบื้อง พวกมันนับสิบตัวเดินเข้ามาหมายจะไต่ขา ใช่แล้ว พวกมันคือไทรโลไบท์ (Trilobites) กลุ่มของครัสเตเชียนหรือสัตว์น้ำมีเปลือกที่น่ากลัวน่าขยะแขยงจำนวนมหาศาล นี่คือรูปแบบเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตในทะเล และนี่ คือทะเลของยุคแคมเบรียน
ยุคแคมเบรียน (Cambrian Period) มีเวลาช่วง 635-559 ล้านปีที่แล้ว หลังจากสิ่งมีชีวิตเริ่มมีเซลล์มากขึ้น พวกมันก็ยังอาศัยในท้องทะเลที่เหมือนแกงจืดของเหล่าชีวิตนับพันสปีชี่ส์ สัตว์กลุ่มแรกบนโลก มีผิวหนังนุ่มนิ่มไร้กระดูก บางส่วนก็มีลำตัวแข็งเป็นข้อปล้องอย่างแมลงและกุ้งที่เรารู้จักกันดี ฟองน้ำและแนวปะการังเองก็ถือกำเนิดในยุคนี้เช่นกัน ทะเลบนโลกนั้นอบอุ่นเหมือนกับทะเลเขตร้อน หากแต่ว่า แผ่นดินที่เป็นมหาทวีปยักษ์ยังรกร้าง มีแต่หินและฝุ่นทรายไร้ซึ่งพืชพันธุ์
ในก้นทะเลแห่งนี้เอง คุณออกตัวว่ายไปเรื่อยๆ พลางมองไปบนพื้นทราย ก็เจอหนอนทะเลหลากชนิด ฮัลลิเจนลูเซีย (Halligenlucia) เป็นหนอนทะเลที่หน้าตาแปลกมาก ไม่ได้เป็นญาติกับแมลงหรือไส้เดือน พวกมันเป็นกลับใกล้ชิดกับดาวทะเลและปลิงทะเลเสียมากกว่า ขายาวๆ ทั้งสิบสองข้างที่เหมือนหนามช่วยให้มันเดินไปตามพื้นทะเล รูที่หัวของมันเป็นทั้งทวารและปาก สามารถขับถ่ายไปกรองเอาเศษตะกอนจากทรายมากินได้
และขณะที่คุณหยุดมองเหล่าฮัลลิเจนลูเซียเดินเล่น พวกมันก็ถูกกระแสน้ำอันรุนแรงพัดมันออกไป เงาสีดำขนาดใหญ่ว่ายโฉบมาอย่างรวดเร็วและปรากฏตัวต่อหน้าคุณ สัตว์น้ำมีเปลือกขนาดยักษ์ตัวโต ดวงตาสีดำสนิทพร้อมแผ่นเกราะและแผ่นครีบซ้อนกันเหมือนใบปาลม์ เขี้ยวทั้งสองข้างนั้นมีหนามแหลมคมคล้ายตะขอ มันเริ่มขุดลงไปและควักเหยื่อ หนอนทะเลตัวเขืองรูปร่างยาวเหมือนไส้กรอกถูกหนามที่เขี้ยวนั้นทิ่มแทงและลากเข้าไปกัดกินอย่างช้าๆ และทรมาณ ภาพที่เห็นนั้นน่าสยดสยองยิ่งนัก!
นักล่าแสนอัปลักษ์นั้นมันคืออโนมาโลคาริส (Anomalocaris) เป็นสัตว์ทะเลจำพวกสัตว์น้ำมีเปลือกและจัดว่าเป็นนักล่าสูงสุดของระบบนิเวศ เขี้ยวยาวคล้ายๆ งวงสองข้างนั้นแท้จริงคือก้ามหรือรยางค์ที่ใช้ควานหาเหยื่อ หนามนั้นมีไว้ตรึงและยืดเหยื่อขณะที่เจ้านักล่ากัดแทะอาหารแสนอร่อย พวกมันเคยครอบครองทะเลในโลกช่วงยุคแคมเบรียน
นักล่าได้กินเสร็จก็ว่ายจากไปอย่างไม่ใยดี เศษเนื้อของเหยื่อได้ดึงดูดสัตว์ขนาดเล็กจำนวนมาก พวกมันตัวแบน ผิวนิ่มเป็นเมือก และมีตาขนาดเล็กบนศีรษะที่ปลายหัวแหลม มันคือปลาขนาดเล็กและเป็นต้นตระกูลของปลายุคแรก พวกมันคือ มิโลคุนหมิงเจีย (Myllokunmingia) ปลาขนาดเล็กเหล่านี้ว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็ว พวกมันมีคอลลาเจนเป็นแท่งเล็กๆ แบบเดียวกับไขกระดูกของคุณ นั่นคือรูปแบบของกระดูกสันหลังยุคแรกนั่นเอง พวกมันมีอวัยวะเหล่านี้ช่วยให้ว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็ว
ในไม่ช้า การเดินทางของเราในยุคนี้มาถึงตอนจบ และเตรียมตัวเข้าสู่ยุคต่อไป เมื่อยุคแคมเบรียนเริ่มเกิดเหตุที่ทะเลเริ่มอุณหภูมิเย็นตัวลง ปล่องกำมะถันน้ำร้อนใต้ท้องทะเลปล่อยสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ทำให้ทะเลเป็นพิษ ปะการังและฟองน้ำหลายๆ ชนิดเริ่มเกิดสภาวะฟอกขาว ฆ่าแหล่งอาหารของพวกสัตว์ทะเลระดับเล็กลงไป นี่กระทบห่วงโซ่าอาหารและสร้างความเดือดร้อนไปถึงอโนมาโลคาริส พวกมันในไม่ช้าก็จะสูญพันธุ์ไปด้วยเช่นกัน หากแต่ มิโลคุนหมิงเจียนั้นยังมีอนาคตที่ไกล ความที่พวกมันสามารถเคลื่อนไหวว่ายไปมาได้อย่างอิสระไร้ซึ่งเปลือกแข็งอย่างพวกสัตว์มีเปลือกจึงทำให้พวกมันหาอาหารและจับคู่ขยายพันธุ์ได้ ในไม่ช้า ยุคของปลาและสัตว์น้ำจำพวกหอยและหมึกจะเริ่มขึ้นในยุคต่อไป
ตอนต่อไป พวกเราเดินทางไปอีก 100 ล้านปีข้างหน้ายังยุคไซลูเรียน ยุคที่ผู้เหลือรอดจากการสูญพันธุ์วิวัฒนาการขึ้นมาแทนที่ในระบบนิเวศ และนี่ คือยุคที่พืชเริ่มถือกำเนิดบนบกพร้อมกับที่เหล่าปลาและแมงป่องยักษ์เริ่มยึดครองท้องทะเล การวิวัฒนาการได้เริ่มขึ้นเมื่อโลกเริ่มเย็นตัวลงอย่างช้าๆ จะมีอะไรรอพวกเราต่ออยู่กันนะ โปรดรอติดตามใน ท่องยุคดึกดำบรรพ์