"ตำนานงูยักษ์"แห่งกาญจนบุรี
เมื่อประมาณปี 2448 ไทยได้ตกอยู่ในสถานการณ์สงครามโลกครั้งที่2อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มีกองทัพญี่ปุ่น เข้ามาในจ.กาญจนบุรีจำนวนมาก เพื่อทำให้มันใจในการโจมตีทหารสหรัฐอเมริกา และพันธมิตรในภาคพื้นเอเชีย ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นดงป่าหนาทึบ ทำให้ทางกองทัพญี่ปุ่น เล็งเห็นถึงความปลอดภัย เพื่อที่จะได้ใช้ในการหลบลี้ กองกำลังฝ่ายตรงข้าม ทหารญี่ปุ่นโหดร้ายมาก ใช้เชลยที่จับมาสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแคว
เพื่อให้รถไฟลำเลียงอาวุธได้อย่างสะดวก ว่ากันว่ากว่าที่จะสร้างสะพานเสร็จนั้น ต้องสังเวยชีวิตเชลยศึกเกือบร่วมหมื่นคน จึงมีคำเปรียบเปรยว่าหนึ่งหมอนรถไฟแทนหนึ่งชีวิตที่เสียไป สมัยนั้นทหารญี่ปุ่นได้ใช้กลางป่ากาญจนบุรีเป็นที่มั่น ในการทำสงครามแน่นอนว่าต้องลุกล้ำเข้าไปในเขตดงป่า ที่อยู่ลึกแบบไม่เคยมีชาวบ้านคนใดเข้าไปถึงมาก่อน ทั้งในถ่ำซอกหินและต้นไม้ต่างถูกดัดแปลงทำเป็นป้อมปราการพร้อมรบ
เมื่อตกกลางคืนก็มีการจัดเวรยามออกลาดตระเวนรอบๆฐานที่มั่น แบ่งเป็นกะล่ะ10-15คนเปลี่ยนผลัดกันออกลาดตระเวนทุกคืน แต่บางคืนกองลาดตระเวนก็กลับมาไม่ครบ หายไปทีล่ะ3-5คน จึงออกไปตามก็ไม่พบร่องรอยใดๆ จึงเกิดการสงสัยว่าข้าศึก อาจจะลอบเข้าโจมตี จึงได้จัดเวรยามให้เข้มงวดขึ้นอีกเท่าตัว
แต่แล้วก็เกิดเหตุการเช่นนี้ คือมีทหาร หายไปแทบจะทุกคืน คืนละ3คนต่อครั้ง จนผู้บังคับบัญชาทนไม่ไหว รุ่งเช้าจึงจัดกำลังหลายร้อยออกค้นหาทหารที่หายไป จนในที่สุดก็ได้พบกับถ้ำแห่งหนึ่ง เป็นโพรงลึกและมืด และบรรยากาศหนาวเย็นจึงส่งทหารจำนวนหนึ่งเข้าไปดู ระหว่างที่ส่งทหารเข้าไปนั้น ฝ่ายที่เฝ้าดูอยู่ข้างนอกก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น1-2ครั้ง จึงทำให้คิดว่าเจอข้าศึก
จึงส่งทหารเข้าไปอีกกลุ่มทันที ผ่านไปได้ไม่กี่อึดใจ ทหารกลับวิ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิต พรานอุทานว่าสัตว์ประหลาด ผู้บังคับบัญชาและทหารที่รออยู่ข้างนอกต่างก็แตกตื่น ในที่สุดจึงมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาว่า ให้เอาระเบิดไประเบิดปากถ่ำซะ ระเบิดได้เริ่มจุดขนานไปเรื่อยๆตั้งแต่ปากถ้ำไปจนถึงภายในถ้ำ อย่างระมัดระวัง และแล้วภาพที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เผยตรงหน้า เมื่องูเหลือมขนาดใหญ่ยักษ์ มีความยาว10เมตร กว้างขนาดเท่ากับตู้กับข้าวในครัว กำลังกระเสือกกระสน พาร่างที่สะบักสะบอมออกมาจากถ้ำ ทหารญี่ปุ่นไม่รอช้ารัวปืนชุดใหญ่ใส่งูตัวนั้น
ที่เป็นต้นเหตุของการหายตัวไปของเหล่าทหารลาดตระเวน ก่อนที่มันจะสิ้นใจตายตรงนั้น ทางทหารก็ได้หั่นเนื้อของงูยักษ์ออกเป็นชิ้นๆ เพื่อความสะใจและเป็นการล้างแค้นให้กับทหารที่ถูกงูตัวนี้กินอย่างสาสม หลังจากนั้นเหล่าทหารก็สำรวจถ้ำอย่างระเอียด แล้วก็พบว่าโครงกระดูกจำนวนมากไม่ต่ำกว่าหลักร้อย มีทั้งคนและสัตว์อยู่ภายในถ้ำเต็มไปหมด เรื่องราวทั้งหมดจึงเป็นเรื่องเล่าสืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน อาจจะเพี้ยนไปบ้างก็เพราะมันเป็นการเล่าต่อๆกันมา
อ้างอิงจาก: ตำนานงูยักษ์
"ทัพฟ้าไทย" ยืดอกรับ ส่งฝูงบินถล่มคลังแสงพระตะบอง ลั่น "เราไม่ได้เริ่มก่อน" แต่ต้องทำเพื่อปกป้องประชาชน
📜 ภาพเก่าประวัติศาสตร์ “พระตะบอง” จากแผ่นดินสยาม สู่ความทรงจำ
ทัพภาค 2 จัดหนัก งัดจรวดไทย DTI-1G รับใช้ชาติ ถล่ม BM-21 เขมรให้กระจาย
รู้จัก M777 ปืนใหญ่สนามตัวโหด เบา คล่อง ยิงแม่นระดับนำวิถี ตัวเปลี่ยนเกมสงครามยุคใหม่
จรวดจีนฟัดจรวดจีน เปิดคลังอาวุธลับสมรภูมิสระแก้ว เมื่อไทย-เขมรต่างงัดไม้เด็ด "สายเลือดมังกร" มาดวลกัน
วิเคราะห์สถิติหวยปีใหม่ 2 มกราคม: เจาะลึกเลขเด่นรับโชควันศุกร์ 2569
เขมร ยอมมาโต๊ะเจรจาที่จันทบุรี หลังไทยดัดหลัง "ไม่ย้ายประเทศ"
พลเมืองและอดีตสส.อินเดีย ประณามกองทัพไทย ที่ทำลายรูปปั้นฮินดูในกัมพูชา
APC M113 รถเกราะ 60 ปี ลุยสมรภูมิช่องอานม้า เสริม "เกราะไม้" กันจรวดสุดแกร่ง
10 ประเด็นร้อนฉ่าที่คนไทยให้ความสนใจสูงสุดในปี 2568
พุทธศิลป์แนวใหม่หรือวัตถุนิยม? กระแสวิจารณ์ "หัวใจพระพุทธเจ้า" ทรงอนาโตมี
เน็ตไทยสวนเจ็บ! วิจารณ์แรงครูสาวเขมร ใช้บทเรียน “นกแร้ง” พาดพิงการเมือง ชี้ครูยังคิดได้ขนาดนี้ อนาคตเด็กจะเหลืออะไร
น้ำแข็งประคบรักแร้ กระตุ้นเส้นประสาท ช่วยลดความเครียดได้ทันที ทำให้จิตใจสงบ
เน็ตไทยสวนเจ็บ! วิจารณ์แรงครูสาวเขมร ใช้บทเรียน “นกแร้ง” พาดพิงการเมือง ชี้ครูยังคิดได้ขนาดนี้ อนาคตเด็กจะเหลืออะไร
เงินเดือนผู้ประกาศข่าว
ปลาย พรายกระซิบ ยัน "ไม่ใช่ผู้วิเศษ" ต้องหาอาชีพอื่นสำรองไว้ด้วย










