(สปอยเต็ม 1/3) จากเด็กกำพร้าสู่นักกีฬาโลก แพ้ปุ๊บ..โดนทิ้งปั๊บ!!!
สวัสดีครับ มาพบกันอีกครั้งที่ช่อง แมงวันมูวี่ สำหรับวันนี้ ผมมีภาพยนตร์แนวกีฬาฤดูหนาวมานำเสนออีกเรื่อง มีชื่อเรื่องว่า คู่สเก็ต ลีลาสะเด็ดโลก บอกได้เลยว่า โคตรฮามากๆ หนังช่วงปี 2550 นะครับ แต่ไม่ได้เข้าฉายในไทย เรื่องราวของคู่สเก็ตน้ำแข็งที่เขม่นกันมา ตลอด จนสุดท้ายก็ต้องมาจับมือร่วมกัน.. เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น 1 ซับ 1 ไลท์ แล้วไปติดตามรับชมกันเลยครับ
เริ่มเรื่อง เราจะได้พบกับจิมมี่ เด็กน้อยที่โชว์ลีลาสเก็ตน้ำแข็งให้กับเศรษฐีคนหนึ่งชื่อแม็กรอยได้ดู ซึ่งจิมมี่เองนั้นเป็นเด็กกำพร้า และอาศัยอยู่กับบาทหลวง
ซึ่งในตอนนั้น แม็กรอยเป็นคนหนึ่งที่ชอบเฟ้นหาเด็กที่มีพรสวรรค์ด้านกีฬาเอาไปเลี้ยงดูโดยการแสดงของจิมมี่นั้นเข้าตาเป็นอย่างมาก เลยถูกนำไปเลี้ยงดูนั้นเองครับ
ซึ่งจิมมี่เองนั้น ได้ถูกนำไปฝึกฝนและต่อยอดด้วยวิทยาการทางวิทยาศาสตร์ ด้วยพรสวรรค์และเงินทุนที่มากพอ ทำให้เขาสามารถเติบโตและโดดเด่นในเรื่องของสเก็ตน้ำแข็งได้อย่างรวดเร็ว ชื่อเสียงของจิมมี่โด่งดังเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะทรงผมที่ทำให้เหล่าวัยรุ่นต่างตัดเลียนแบบกันทั่วบ้านทั่วเมือง แถมแม็กรอยที่เป็นพ่อบุญธรรมของเขาก็พลอยได้ชื่อเสียงไปด้วย ทำให้ยิ่งมีฐานการเงินที่มั่นคงส่งผลให้มีการพัฒนาจิมมี่ให้ได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่อง
จนมาถึงการแข่งขันครั้งสำคัญ จิมมี่เองก็โชว์ลีลาได้อย่างสวยงามตามท้องเรื่อง การแสดงในชุดนกยูงบนลานน้ำแข็ง เป็นที่ตรึงตราตรึงใจ เป็นอย่างมาก
แต่คู่แข่งของเขาในวันนี้ กับเป็นนักสเก็ตชาวอเมริกัน กับการโชว์ลีลาสเก็ตน้ำแข็งสไตล์ใหม่ กับชื่อชุดคาวบอยร๊อคแดนซ์ เป็นการเต้นที่ทำให้สาวๆ ในสนามละลายกับท่าอันเซ็กซี่ของเขาเป็นอย่างมาก
โดยประวัติของไมเคิลนั้น เขาได้เคยทำอาชีพเป็นนัก แสดงนู๊ดมาก่อน แต่ด้วยที่ชอบความโล้ดโผน เลยหันมาลองเล่นสเก็ตน้ำแข็งโดยใช้ลีลาสุดยั่วจากอาชีพเดิมมาต่อยอด ทำให้เกิดท่าเต้น ที่หวือหวาพาสยิวกิ้ว เป็นสเก็ตน้ำแข็งลีลาใหม่ที่หาตัวจับได้ยาก
สุดท้ายผลคะแนนออกมาสูสีกัน ทำให้ทั้งคู่ ได้รับชัยชนะเหรียญทองอันดับ 1 ร่วมกันครับ แต่ไมเคิลกลับบอกว่า ที่ 1 มันจะต้องมีแค่คนเดียวสิวะ มันจะมีที่ 1 สองคนได้ยังไงกัน
ว่าแล้วทั้งคู่ก็เถียงกันไปผลักอกกันมา และซัดกันในที่สุดซึ่งจิมมี่เองก็ได้ล้มไปโดนขาตั้งไฟ จนไปติดมัสคอตไฟลุกด้วยเช่นกัน เรียกว่าโคตรโกลาหนกับการชกกันของทั้งสองคนนี้
โดยจิมมี่เองก็ได้คว้าคอไมเคิลไว้ แต่พอตั้งสติได้กลับเห็น ผู้ชมเห็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของจิมมี่ เจ้าหนูมหัศจรรย์ไปเรียบร้อย แม้กระทั้งเด็กยังร้องไห้ที่พี่จิมมี่ทำไมโหดร้ายเยี่ยงนี้
ทั้งคู่ครับ เลยโดนพาไปขึ้นศาลกีฬา โดยตัวของไมเคิลก็ตามนิสัยเพลบอย แม้กระทั้งทนายความก็ขอม่อสักหน่อย เมื่อทั้งคู่ให้การต่อศาล และดูท่าทีว่าจะไม่มีใครยอมใคร ศาลเลยตัดสิน ห้ามทั้งคู่ ลงแข่งสเก็ตเดี่ยวตลอดชีวิต
การตัดสินของศาลในหนนั้น ทำให้แม็กรอย ค่อนข้างไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะเขาชุบเลี้ยงจิมมี่มา และอยากให้จิมมี่ก้าวสู่ระดับโลก สร้างเงิน สร้างชื่อเสียง แต่เมื่อจิมมี่ไม่สามารถ ลงแข่งได้อีก ก็เท่ากับไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว... แกมันก็แค่ขยะตัวหนึ่งในตอนนี้ เพราะแกมันทำประโยชน์อะไรให้ฉันไม่ได้แล้ว.. แม็กรอยพูดจบ ให้คนขับรถจอดรถ แล้วไล่จิมมี่ลงจากรถและไม่ขออุปการะเลี้ยงดูอีกต่อไป... คือบทจะไล่ก็ไล่กันง๊ายง่าย
3ปีครึ่งหลังถูกตัดสิน ไมเคิลตอนนี้ก็มารับบทเป็นนักแสดงบนลานที่คณะแสดงโชว์แห่งหนึ่ง
นิสัยเพลบอย ขี้เหล้า แลดูจะเลิกยาก เพราะทุกครั้งที่ขึ้นแสดง เขาจะมักกระดกเหล้าก่อนลงโชว์เสมอ จนทำให้เขาเองถูกเตือนอยู่บ่อยครั้ง
ส่วนทางจิมมี่เองก็ไปทำงานเป็นพนักงานดูแลเด็กในลานสเก็ตแห่งหนึ่ง แม้เป็นงานที่น่าเบื่อแต่เขาก็ต้องทำ จนมีแฟนคลับคนหนึ่งของเขา ที่ตามเชียร์เขามาตลอด และก็เป็นเพื่อนร่วมงานในตอนนี้บอกกับจิมมี่ว่า ทำไมนายไม่ลงแข่งสเก็ตลีลาคู่ละ จิมมี่ก็บอกว่า เขาตัดสิทธิ์การแข่งแล้วนะ .. ไม่ดิ นายเข้าใจอะไรผิดรึเปล่า ศาลบอกว่า ห้ามนายเล่นสเก็ตน้ำแข็งเดี่ยว แต่ในกฏและข้อบัญญัติยังให้นายสามารถลงแข่งแบบคู่ได้ ดังนั้น สิ่งที่นายจะต้องทำ กลับไปซ้อม แล้วหาคู่ที่ดีสักคนเพื่อลงแข่ง นายจะได้กลับมาอีกครั้ง... ซึ่งเมื่อจิมมี่ได้ดูกฏก็พบว่า มันมีช่องทางที่เขากลับไปลงแข่งได้จริงๆ
ตัดมาที่ไมเคิลครั บตอนนี้เมายำเป๋และเริ่มพูดออกนอกบทในการแสดงบนเวที เขาพูดไปเรื่อย เหมือนจะหลับด้วย แล้วก็เริ่มพูดจาออกไปในทาง 18+ อยู่ๆ ก็อ้วกออกมา จนทำให้คนดูต่างเหว๋อและรับไม่ได้จนเด็กหลายคนเอาของปาใส่ ผู้จัดการเลยรีบออกมาแจ้งว่า ขอยุติการแสดงก่อน เนื่องจากมีข้อผิดพลาดในเทคนิค.. แต่เราไม่คืนค่าตั๋วให้นะ และนั่น ทำให้ไมเคิลโดนไล่ออกทันที
ส่วนจิมมี่ เริ่มไปปรึกษาโค้ช ว่าจะลงแบบคู่ แต่โค๊ชก็ไม่เห็นด้วย เนื่องจากนายมีฝีมือที่เหนือชั้นมากๆ การที่จะหาคู่ที่มีฝีมือเทียบเท่า คงต้องใช้เวลาและทุนเยอะมากๆ ซึ่งตอนนั้นทั้งทุนและเวลาก็ไม่มี ไม่เช่นนั้น นายเองก็ต้องไปหาคู่ที่ดีมาให้ได้ก่อน แล้วค่อยมาว่ากัน
จิมมี่เลยตะเวนตามหาจากพวกที่ไปสมัครงานโชว์ลีลาสเก็ตน้ำแข็งต่างๆ จนมาถึงคณะโชว์แห่งหนึ่ง ผู้จัดการของคณะเห็นจิมมี่ถึงกับว๊าวมาก ไม่คิดว่าจิมมี่จะมาสมัครงานที่นี่ เพราะเขาเองพึ่งจะไล่พนักงานออก
เปล่าครับ..ผมแค่มาจดรายชื่อคนที่น่าสนใจไปร่วมทีด้วยครับ จิมมี่ก็ตอบไปอย่างซื่อๆ ทำให้ผู้จัดการถึงกับไม่พอใจ.. นี่นายจะมาล้วงคนของฉันไปเหรอ.. อย่ามาตัวทุเรศๆ ที่นี่ ออกไปซะ ก่อนจะหยิบสมุดของจิมมี่ปาทิ้งไป
พอจิมมี่ไปเก็บ ทำให้เขามากับกับไมเคิลทันที.. นี่น้องสาว..จะมาสมัครงานที่นี่เพื่อรับตำแหน่งของฉันสินะ จิมมี่ก็บอกว่าเปล่า เพราะนายนั่นแหละ ที่ทำให้อนาคตของฉันต้องพังไปหมด ว่าแล้วก็ซัดกันทันที คู่นี้เจอหน้ากันทีไร บวกใส่กันตลอด
ข่าวของทั้งคู่ได้ออกไปทั่วประเทศ ของนักแข่งส
เก็ตทีเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด จนทำให้โค๊ชที่นั่งดูข่าวอยู่นั้น มองเห็นบางสิ่งบางอย่าง เพราะทั้งต่อยกันก็จริง แต่มันกับแฝงท่าทางและลีลาที่ทรงพลัง
ไม่ว่าจะจับหมุนด้วยท่วงท่าที่สวยงาม หรือไมเคิลโดนจิมมี่จับโยนด้วยท่าอันเป็นเอกลักษณ์ คือเองสู้กันยังไงถึงท่าออกมาฮาและแจ่มได้ขนาดนี้
ก็สำหรับโพสนี้ขอหยุดไว้ตรงนี้ก่อนนะครับ ซึ่งบอกได้เลยว่า ช่วงต้นเรื่องจนถึงตอนนี้ที่ผมเล่ามา ใครได้ดูนี่ มีฮาไม่ต่ำกว่า 10 ฉากเข้าไปแล้ว เป็นหนังตลกที่ห้ามกินน้ำขณะดูจริงๆ มันฮามาก ที่ผมชอบมากที่สุด ก็ตอนมันต่อยกันจนออกข่าวเนี้ยแหละ เป็นฉากต่อสู้ที่แอบผสมผสานลีลาสเก็ตไปแบบไม่รู้ตัวของทั้งคู่ ฮาจริงๆ ยังไงๆ ฝากรบกวนกดติดตามช่องให้ด้วยนะครับ ^^