รู้จัก "เกาะแมว เอโอชิม่า" ประเทศญี่ปุ่น เมืองที่เหล่าทาสแมวอยากไปเยือนให้ได้สักครั้ง
คนรักแมวมีอยู่ทั่วโลก แต่สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้ว ได้ชื่อว่าเป็นมิตรกับแมวมากที่สุดชาติหนึ่งของโลก โดย 1 ใน 10 ของพื้นที่ประเทศเป็นที่อยู่อาศัยของแมว ว่ากันว่าแมวในญี่ปุ่นมีจุดเริ่มต้นในสมัยนารา ในสมัยนั้นมีการนำแมวมาเลี้ยงให้คอยดูแลและป้องกันไม่ให้หนูมากัดทำลายหนังสือเล่มสำคัญ ๆ ที่ส่งเข้ามาจากประเทศจีน เรื่องราวของแมวถูกบันทึกลงในหนังสือ และปรากฏอยู่ในวรรณคดีเรื่องต่าง ๆ และได้เกิดความเชื่อว่าแมวเป็นสัตว์นำโชคจนถึงทุกวันนี้
ประเทศญี่ปุ่นมีแมวจำนวนมากกว่าสุนัข การเลี้ยงสุนัขในญี่ปุ่น เจ้าของจะต้องไปจดทะเบียนเหมือนกับอยู่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ดังนั้นที่ญี่ปุ่นจึงไม่มีสุนัขจรจัดเลย แต่จะมีแมวจรจัดอยู่ทุกหนทุกแห่ง เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นได้กำหนดกฎเกณฑ์ไว้ว่าไม่ให้มีสุนัขจรจัดมาเดินเพ่นพ่านตามท้องถนนเด็ดขาด และบังคับให้เจ้าของดูแลสัตว์เลี้ยงของตนให้ดี เหตุผลก็เพราะสุนัขมีโอกาสเป็นพาหะนำเชื้อโรคมาสู่มนุษย์ได้ ส่วนแมวนั้นเป็นสัตว์ที่รักความสะอาด ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร รัฐบาลจึงอนุญาตให้มีแมวจรจัดได้ เพราะเหตุนี้จึงทำให้ญี่ปุ่นมีจำนวนแมวมากกว่าสุนัข ถึงขั้นกำหนดให้วันที่ 22 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันแมวของประเทศอีกด้วย
"วันแมว" หรือ "Neko No Hi" มีที่มาจาการเลียนเสียงร้องของแมว ในประเทศไทยการออกเสียงร้องของแมวเราจะใช้คำว่า เหมียว เหมียว เหมียว แต่ในญี่ปุ่นเขาจะออกเสียงว่า เนียะ เนียะ เนียะ ニャー、ニャー、ニャー คำร้องของแมวเมื่อเป็นภาษาเขียนจะขึ้นต้นด้วยคันจิที่เหมือนกับเลข 2 สามตัววางเรียงกัน เป็น 222 ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ตั้งวันที่ 22 เดือน 2 เป็น "วันแมว" นั่นเอง
ประเทศญี่ปุ่นยังมีเกาะที่ชื่อว่า "เกาะแมว เอโอชิม่า" (Aoshima Cat island) เกาะแมวเป็นเกาะเล็ก ๆ เกือบจะร้าง เพราะมีผู้คนอยู่น้อยมาก เป็นหนึ่งในเกาะแมวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในอันดับต้น ๆ ของญี่ปุ่น จนได้รับการขนานนามให้เป็นหนึ่งในสวรรค์ของคนรักแมวเลยทีเดียว โดยทุก ๆ ปีจะมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและจากต่างประเทศมาเยี่ยมเยียนน้องแมวกันอย่างมากมาย
จุดเริ่มต้นของเกาะแมว เริ่มจากในยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เกาะแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นสถานที่หลบภัยสำหรับผู้อพยพ ซึ่งบางคนก็นำสัตว์เลี้ยงของพวกเขาติดมาด้วย และต่อมาชาวบ้านก็เริ่มจะละทิ้งถิ่นฐานย้ายไปทำงานบนแผ่นดินใหญ่ พากันทิ้งบ้านเรือนและสัตว์เลี้ยงของพวกเขาไว้บนเกาะ จนกระทั่งในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา แมวที่ยังคงอยู่บนเกาะได้ขยายพันธุ์อย่างมากมาย พวกมันพากันกระจายอาศัยอยู่ตามบ้านเรือนที่ว่างร้างต่าง ๆ และถนนที่ว่างเปล่า ทำให้จำนวนประชากรมนุษย์บนเกาะลดลง สวนทางกับจำนวนแมวที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มากถึง 6 เท่าของมนุษย์
"แมว" ที่อยู่บนเกาะนี้ส่วนใหญ่เป็นแมวสายพันธุ์ญี่ปุ่นขนสั้นสีพื้น ๆ อย่างเช่น สีขาว สีส้ม สีดำ หรือลายปลาสลิด มีนิสัยขี้อ้อนไม่หวาดกลัวผู้คน จึงอาศัยอยู่บนเกาะร่วมกันมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะนอกจากชาวบ้านที่เอ็นดูคอยให้ข้าวให้น้ำพวกมันแล้วก็ยังมีนักท่องเที่ยวแวะมาเยี่ยมเยียน ให้อาหารและเล่นกับพวกมันอีกด้วย
ด้วยจำนวนแมวที่มากกว่าคนถึง 6 เท่า จึงเกิดปัญหาตามมา ทีม Aoshima Cat Protection Society จึงเข้ามาดูแลแมวที่เกาะโดยจัดการทำหมันเพื่อลดปริมาณลงและทำการฉีดวัคซีนต่างๆ ให้กับแมว นอกจากจำนวนแมวที่เพิ่มขึ้น ผู้อาศัยบนเกาะต่างเป็นกังวลเกี่ยวกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นจะทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของกฎระเบียบและความสะอาด ดังนั้นจึงมีการจัดให้ทางฝั่งตะวันตกของเกาะเป็นสถานที่ให้อาหารแมวโดยเฉพาะ โดยมีกฎสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตามก็คือ ขณะที่ท่องเที่ยวถ่ายรูปบนเกาะนั้น เมื่อจะให้อาหารแมวต้องให้ในบริเวณที่กำหนดให้เป็นสถานที่ให้อาหารแมวเท่านั้น รวมไปถึงไม่อนุญาตให้นำสุนัขขึ้นมาบนเกาะอีกด้วย
ในช่วงนี้แม้ โควิด 19 ยังคงระบาดอยู่ แต่หลายประเทศก็เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศได้แล้ว ซึ่งญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในประเทศเหล่านั้น "ทาสแมว" ทั้งหลายที่สนใจจะเดินทางไปชื่นชมความน่ารักของน้องแมวที่มีมากมายและเล่นกับน้องแมวได้อย่างสบายใจ พร้อมกับสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามของเกาะเอโอชิม่า ก็ลองเช็คดูว่าญี่ปุ่นเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเกาะได้หรือยัง ลองหาโอกาสไปเยี่ยมเยียนนาย ๆ ที่น่ารักกันสักครั้ง ใครที่ได้ไปก็อย่าลืมปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ เพราะความปลอดภัยของเหล่าน้องแมวสำคัญที่สุด
ขอบคุณภาพจาก :: blog.fwd, iamthecatphotographer, i.pinimg, musuvi, nicovideo, shutterstock, sobadsogood, triipgo, vrf.wpengine.netdna-cdn