จริงๆแล้วเขาตายจากกันนานแล้ว
ในช่วงเวลาบ่ายแก่ๆที่ทำงานนิด เป็นออฟฟิศรับทำเอกสารและเขียนงานโฆษณาทุกชนิด ทุกคนกำลังทำงานที่โต๊ะของใครของมัน จูๆนิดก็พลัดตกจากเก้าอี้ ก้นกระแทกพื้น ล้มหงายท้องศรีษะกระแทกพื้นเลือดไหลแดงเปื้อนฉาด "ว้าย ช่วยด้วยไอ้นิดตกโต๊ะหัวแตก" เพื่อนร่วมงานร้องเสียงดังด้วยความตกใจและบางคนก็โทรเรียกรถพยาบาล ไม่กี่อึดใจรถฉุกเฉินก็มาถึง "ขอทางให้เจ้าหน้าที่ด้วยครับ " เจ้าหน้าที่รุดหน้ามาถึงร่างที่หมดสติของนิด แล้วรีบนำสำลีอุดกดเลือดที่ไหลไม่หยุดกับอีกคนช่วยกันนำร่างของเธอใส่เปลไปที่รถ รถแล่นถึงโรงพยาบาลแต่โชคไม่ดีเธอสิ้นลมหายใจก่อนได้รับการรักษา
เพื่อนในที่ทำงานรีบแจ้งคนในครอบครัวนิด
ที่เคาว์เตอร์โรงพยาบาลแม่ของนิดและน้องชายมารับศพเพื่อไปบำเพ็ญกุศลตามศาสนา แต่คุณหมอไม่ให้เพราะผู้ตายได้บริจากร่างกายให้กับโรงพยาบาล และไม่มอบเงินประกันชีวิตทั้งหมดให้เป็นการกุศลด้วย และคุณหมอได้บอกสาเหตุก่อนตาย นิดป่วยเป็นโรคซึมเศร้าขั้นร้ายแรง แต่เธอพยายามทำตัวให้เข้มแข็งทุกวันโดยมีคุณหมอที่โรงพยาบาลให้กำลังใจ สอนเธอสวดมนต์ แต่ธอก็ไม่มีอาการดีขึ้นเลย เธอเหมือนคนผิดหวัง ไม่มีความหมายของชีวิตเหลืออยู่ โชคดีที่เธอไม่ฆ่าตัวตาย แต่เธอก็ต้องมาเสียชีวิตเพราะเส้นเลือดในสมองแตกจึงทำให้ตกเก้าอี้ศรีษะฟาดพื้น
แม่และน้องชายกลับบ้านด้วยความสบายไม่ยุ่งยากที่จะต้องนำร่างของนิดไปทำพิธีต่างศาสนา
แม่คือผู้ที่มีอิฐธิพลต่อครอบครัว ถ้าแม่ไม่เป็นกลางไม่สอนให้ลูกหลานเคารพและปรองดองกัน คนในครอบครัวก็จะไม่รักไม่สามัคคี ไม่สะทกสะท้านที่มีคนเจ็บป่วยและตายจากกันเช่นครอบครัวของนิด
เพราะนิดเองก็ได้ตายจากใจของคนในครอบครัวนานแล้ว เพราะการเป็นคนมีนิสัยแปลกแยกของนิดนั้นเอง
การอยู่ร่วมกันจึงจำเป็นต้องอะรุ่มอะรวย และอย่าปล่อยให้จิตใจบอดใบ้จากการมองเห็นความดีในวันที่ยังอยู่ร่วมกันเช่นครอบครัวของนิด