ลดน้ำหนักสไตล์ Korean girl

         คืนนี้มาว่ากันด้วยเรื่องความอ้วนกันดีกว่าค่ะคนอ้วนก็อยากลดน้ำหนักใช่ไม๊คะ แล้วก็ต่างรู้อยู่แล้วล่ะว่าอาหารอะไรดี, อะไรที่ควรทาน, อะไรที่ควรเลี่ยง หรืออะไรที่ไม่ควรแตะเลย   แต่ปัญหาใหญ่คือ...จะทำอยู่ได้ไม่นาน และสุดท้ายต้องล้มเลิก, ไปไม่ถึงฝั่งฝัน แถมพอตบะแตกแล้ว ก็จะทานแหลก, ทานมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ชดเชยกับที่เคยอดไป ทีนี้ล่ะ “โยโย่เอฟเฟคท์” เลยจร้า

 

     วันนี้จึงอยากนำเสนอการลดน้ำหนักในแบบฉบับของสาวเกาหลีมาฝากค่ะ  แต่นำมาประยุกต์ให้เหมาะสมกับคนไทย เรื่องการ ที่จะให้ไปสรรหาอาหาร, หรือผลไม้ของเกาหลีก็ดูจะยากไป และจะให้ทานแบบเล็มๆ, ทานน้อยๆ แบบมื้อละช้อน 2ช้อน ก็เข้าใจค่ะว่าไม่พอยาไส้อย่างแน่นอน แล้วจะพลอยเป็นโรคเครียด, อารมณ์บูดง่ายเข้าไปอีก ผิวก็จะไม่ดี, มีปัญหาผิวแห้ง, ผิวมีริ้วรอยได้  

 

      แหม⁉️ อุตส่าห์ลดน้ำหนักให้หุ่นสวยทั้งที  ก็ต้องสวยทั้งหุ่น สวยทั้งผิวด้วยสิคะ

 

       ส่วนตัวแต่ก่อนน้ำหนักที่พีคๆเลยก็ 59 kg สูง 158 cm เรียกว่าตัวตันเลยค่ะ ก็มีประสบการณ์ลดน้ำหนัก ทั้งลองผิดลองถูกมาเยอะค่ะ ทั้งแบบอดไม่ทานอะไรเลย, พึ่งอาหารเสริม, ทั้งแบบทำตามสูตรอาหารที่ต้องไปตามหาเครื่องปรุงเยอะแยะมาให้เป๊ะ หรือ แบบวันๆกินแต่ผลไม้อย่างเดียว  แต่ผลที่ได้คือ ไม่ทันไรก็โหย, ไม่มีแรง, ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไรในแต่ละวัน  

 

     สรุปคือทำได้ไม่เท่าไหร่ก็เบื่อค่ะ  มันก็ลดๆ เพิ่มๆมาโดยตลอด  จนเริ่มลดน้ำหนักอีกทีตอนน้ำหนัก 55 kg  มาโอเคที่สุดก็คือด้วยวิธีการควบคุมอาหารที่ไม่เข้มงวด, ไม่ต้องกินอาหารเดิมๆซ้ำๆ , กินแล้วอิ่มอร่อย, รสชาติไม่ได้จืด, กินแล้วมีความสุข, กินแล้วมีแรง,  บอกเลยว่าเน้นอิ่ม ไม่ต้องทรมานกับการอดอาหาร เพียงแต่ต้องเลือกชนิดของอาหารที่เป็นไปตามหลักที่จะกล่าวต่อไปนี้ แต่ต้องบอกก่อนนะคะ อาหารรสหวานที่ทานได้ จะเป็นผลไม้  ไม่เอาขนมเค้ก, ไม่เอาขนมหวานนะคะ ไม่ได้ลดแบบปุปปับ ฮวบฮาบในเวลาสั้นๆหรอกค่ะ

 

        พอลดจนได้น้ำหนักได้พอใจก็จะมีบางทีที่หลุดๆ ออกนอกโปรแกรมไปบ้าง อยากกินอะไรที่แคลอรี่สูงๆ น้ำหนักก็จะมีขึ้นมาเล็กน้อย แต่จะรู้เลยว่าน้ำหนักขึ้นช้ากว่าแต่ก่อน และพอกลับมาคุมอาหารต่อก็จะลดได้   ไม่ว่ายังไงมันก็ต้องมีกรอบการปฏิบัติตัวค่ะ  ตามใจปากอยู่ตลอดไม่ได้  

 

         ดูแลเรื่องอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย  การลดน้ำหนักก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป เพียงแต่ต้องมีระเบียบวินัยกับตัวเอง สร้างจุดมุ่งหมาย เริ่มจากเรื่องรอบตัว เช่น อีก 1 เดือนฉันจะลดน้ำหนักอย่างน้อย 1 kg. (ถ้าทำได้มากกว่า 1 kg. ก็ถือว่ากำไร) , อีก 3  เดือนจะลดให้ได้ 5 kg, อีก 6 เดือนจะใส่กางเกงยีนสมัยเมื่อ 10 ปีตัวนี้ให้ได้  .....

 

     แต่อย่าสร้างเป้าหมายที่ใหญ่เกินไป อย่างเช่น ปัจจุบันหนัก 100 kg แต่ 1 เดือนอยากจะลดแล้วใส่เสื้อผ้าไซส์ M  คือแบบนี้กดดันตัวเองเกินไปค่ะ แล้วพอทำไม่ได้ก็จะหมดกำลังใจ ตรงกันข้ามถ้าเริ่มจากเป้าหมายเล็กๆ แล้วพอทำได้จะมีความภูมิใจและจะมีกำลังใจที่จะทำต่อค่ะ

 

         ส่วนการที่ใครจะลดได้มาก ลดได้เร็วก็ขึ้นอยู่กับร่างกายแต่ละคนด้วยนะคะ  ทุกวันนี้น้ำหนักของตัวเราเองจะอยู่ระหว่าง 47-49 kg ราวๆนี้มา 6-7 ปีแล้ว  ก็ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นเพลิดเพลินกับอาหารมากน้อยยังไง เพราะก็มีบางวันที่อยากกินขนม ก็จะกิน พออีกวันก็กลับเข้าสู่โปรแกรม ทำสลับกัน อาจจะมีที่กินตามใจ 3 วัน ควบคุมอาหาร 4 วัน

 

         หลักการการทานอาหารเพื่อการลดน้ำหนัก คือ “มากมื้อ แต่มื้อละไม่มาก”  แบ่งอาหารในแต่ละวันให้เป็นหลายๆมื้อค่ะ เพื่อร่างกายจะได้นำไปใช้เป็นพลังงานได้เยอะๆ ก็จะเหลือสะสมในร่างกายได้น้อย  กินให้ครบหมวดหมู่  จะแป้ง โปรตีน ไขมัน ร่างกายเราขาดไม่ได้หรอกค่ะ ข้อสำคัญคือทานช้าๆ ค่อยๆเคี้ยว  คุณจะตกใจเลยค่ะว่าทำไมรู้สึกอิ่มมากมายทั้งที่ทานอาหารน้อยกว่าเมื่อครั้งอดีต  และอีก 1 อย่างที่สำคัญกับการลดน้ำหนัก และผิวพรรณ ก็คือ น้ำเปล่าสะอาดๆ  ปริมาณที่แนะนำคือ 2.5 - 3 ลิตรค่ะ  ง่ายๆเลยก็ดื่มระหว่างวันชั่วโมงละ 1 แก้ว  (200-250 cc.) น้ำจะขับของเสีย และทำให้การขับถ่ายปกติด้วยค่ะ

 

         🌸 ทีนี้ก็มาดูโปรแกรมกันนะคะ

 

หลังตื่นนอน : ดื่มน้ำเปล่า 2 แก้ว แต่ถ้าบางคนดื่มไม่ไหวจริงๆ ก็เริ่มแค่ 1 แก้ว แล้วค่อยๆเพิ่มก็ได้เช่นกันค่ะ

 

มื้อเช้า : กล้วยน้ำว้า 1-2 ผล  หรือกล้วยหอม 1 ผล ตามด้วยน้ำอุ่น 2 แก้วๆ ละ 250 cc.  หรือบางวันจะเปลี่ยนจากน้ำอุ่นธรรมดา เป็นนมสดอุ่นๆ ไขมันต่ำ 250cc. ก็ได้ค่ะ 

       ถ้ายังรู้สึกยังหิวอยู่ก็อาจกินหมูย่างไร้มัน สัก 2 ไม้ แต่ถ้าแค่กล้วย กับ นมแล้วรู้สึกอิ่ม ก็พอเท่านั้นค่ะ

📌 ให้กินเพราะหิว  ห้ามกินเพราะอยากนะคะ 

 

ของว่างตอนสาย  ถ้ารู้สึกหิว  : กล้วยน้ำว้า 1-2 ผล หรือ มันหวาน 1 ผล

ผลไม้ก็เปลี่ยนไปตามความชอบของเราค่ะ เช่น แอปเปิ้ล 1 ผลโต, แคนตาลูป 2-3 ชิ้นยาว หรือ มะละกอ 4-5 ชิ้นพอคำ แตงโม 4-5 ชิ้นขนาดพอคำ หรือ แตงกวา 1-2 ผล , ข้าวโพดต้ม ครึ่งฝัก ก็ได้ค่ะ

 

มื้อเที่ยง : กินอาหารเพื่อสุขภาพ เมนูอะไรก็ได้ตามใจชอบ แต่ต้องไม่ใช่ฟาสต์ฟู้ดส์ , ไม่มัน , ไม่เลี่ยน , ไม่ปรุงรสจัดจนเกินไป  และเคี้ยวแต่ละคำให้นานๆ

เมนูแนะนำ : ข้าวกล้องครึ่งทัพพี ทานคู่กับไข่ตุ๋นใส่เนื้อหมู กับ แครรอตหั่นลูกเต๋า 1 ชามเล็ก 

หรือ ฟักทองผัดไข่ ใส่น้ำมันน้อยๆ 1 จาน  

หรือ เกาเหลา ใส่ผักเยอะๆ ใส่เนื้อสัตว์ที่ชอบ 1 ชาม

หรือ แกงเลียง ใส่ตำลึง, บวบ หรือผักที่ชอบ  1 ชาม กับ ไข่ต้ม 1 ฟอง

หรือ แกงส้มปลาช่อน ใส่แตงโมอ่อน

หรือ ต้มยำกุ้งน้ำใส ใส่แครรอต

                     ฯลฯ 

หมุนเวียนไปเรื่อยๆ เปลี่ยนชนิดของเนื้อสัตว์ และผัก จะได้ไม่เบื่อค่ะ

 

ของว่างตอนบ่าย ถ้ารู้สึกหิว : กล้วยน้ำว้า 1-2 ผล หรือ มันหวาน 1 ผล หรือ ฝรั่ง ครึ่ง - 1 ผล แล้วดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว

 

มื้อเย็น : เมนูอะไรก็ได้ตามใจ แต่...ต้องไม่เลี่ยน ไม่มัน, ไม่เน้นแป้ง, ไม่เอารสจัดนะคะ (ควรให้ห่างจากเวลานอนสัก 3-4 ชม.)

และเคี้ยวแต่ละคำให้นานๆ

การเลือกเมนูก็จะใช้หลักการเหมือนกับมื้อเที่ยงค่ะ 

 

ของว่างก่อนนอน ถ้ารู้สึกหิว  :  กล้วยน้ำว้า 1-2 ผล (ต้องทานก่อนนอนอย่างน้อย 2 ชม.) แล้วดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว

 

        จะเห็นว่าสามารถทานกล้วยน้ำว้าได้ทั้งวันเลยค่ะ  ที่สำคัญคือหาซื้อง่าย, รสชาติอร่อย , มีใยอาหารสูง  มีหลายงานวิจัยที่ชี้ว่ากล้วยช่วยลดน้ำหนักได้  โดยจะลดความอยากอาหาร

       ส่วนมันหวาน เป็นอาหารที่สาวเกาหลีชอบกันมากเลยนะคะ แคลอรี่ต่ำ ทานแล้วอยู่ท้อง เส้นใยเยอะ  ในบ้านเราก็หาได้ไม่ยาก หรือจะเปลี่ยนเป็นมันม่วงก็ได้ค่ะ  

      และโปรแกรมนี้ไม่ได้ต้องจำกัดว่าต้องทานแต่ผลไม้ หรืออาหารคลีนจืดๆ  เห็นไม๊คะว่าคุณเลือกได้อีกหลายเมนูเลย เป็นโปรแกรมที่ให้คุณทานได้ทั้งอาหารคาวหวาน  เพียงแต่ว่ารสชาติของอาหารก็ไม่ควรสุดโต่งนักนะคะ หวานเค็มก็พอประมาณเนอะ 

      ส่วนการออกกำลังต่อวันก็ไม่ต้องยาวนาน สัก 15 นาทีต่อเนื่อง  แบบ cardio ให้หัวใจได้ทำงานสูบฉีดแรงๆ

      อาหารอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับเกาหลีสักเท่าไหร่  แต่หลักการนี้สาวเกาหลีนิยมทำกันค่ะ คือแบ่งอาหารเป็นหลายๆมื้อ เน้นอาหารที่แป้ง น้ำตาล ไขมันน้อยๆๆๆๆๆ, ทานผักผลไม้  ซึ่งก็คือยังทานได้เกือบทุกอย่าง เพียงแต่เลือกให้ถูกต้อง และยังรู้สึกมีความสุขกับการทานอาหารได้   ไม่ถึงขนาดต้องนับแคลลอรี่กัน

 

     แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องใช้ความพยายาม และความตั้งใจจริงนะคะ อะไรที่เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกก็ย่อมยากเป็นธรรมดา แต่หากได้ทำและเห็นเลขบนตาชั่งลดลง ก็จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทำต่อไปได้

ลองหารูปดาราหญิงที่ชอบมาแปะไว้ที่หน้ากระจกก็ได้ค่ะ สักวันหุ่นของคนในกระจกก็จะเหมือนกับหุ่นของคนในรูป 

 

** สาวเกาหลีจะไม่ทานขนมปังในช่วงลดน้ำหนักนะคะ

 

     ใครกำลังตั้งใจจะลดน้ำหนัก  เริ่มกันได้ตั้งแต่พรุ่งนี้เลยนะคะ เป็นกำลังใจให้น้า  แล้วมารีวิวผลหลังทำตามโปรแกรมให้ฟังด้วยนะสาวๆ 🤗

    Fighting ‼️🎉✌🏻