ห่วง(เลือดสีขาว 24)
ห่วง
วันที่เกิดเรื่องอกสั่นขวัญแขวนนั้น เหตุเพราะสาธิตและลักขณานำเด็กชายภูพิพรรธ
ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตามใบนัด หมอนัดครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและชี้ให้เห็นว่าการรักษาโรคของลูกชายได้พัฒนาไปจนถึงระดับเกือบเป็นปกติแล้ว จะว่าไปทั้งสองสามีภรรยาเริ่มรู้สึกว่าลูกชายเป็นเด็กปกติทั่วไปแล้วด้วยซ้ำ
พล็อทหรือสายยางสำหรับใช้แทงเข็มให้ยาและเจาะเลือด ซึ่งแพทย์ได้ฝังไว้เมื่อสามปีก่อนกำลังจะถูกผ่าตัดเอาออกจากร่างกายของลูก ต่อไปนี้จะไม่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในตัวลูกชายอีก
หมอให้ยาสลบลูกชาย ลูกชายขัดขืนเล็กน้อย ตอนที่สาธิตอุ้มลูกไปหน้าห้องผ่าตัดเพื่อรอหมอนั้น ลูกชายมีอาการกระเง้ากระงอดและปึ่งชากับพ่อและแม่ คงไม่อยากเข้าห้องผ่าตัดและโกรธผู้เป็นพ่อเป็นแม่ที่ส่งแกเข้าไปให้หมอชำแหละนั่นเอง
หมอรับตัวลูกชายที่เริ่มมีอาการสะลึมสะลือหายเข้าไปในห้องผ่าตัด เวลาผ่านไปราวสองชั่วโมงยังไม่มีวี่แววว่าหมอหรือพยาบาลคนใดจะออกมาเรียกให้สาธิตหรือลักขณาเข้าไปดูลูกเหมือนคราวก่อน
สาธิตและภรรยาเริ่มกังวล การผ่าตัดคราวนี้น่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่น่าจะมีอะไรให้ต้องวิตก และน่าจะเสร็จสิ้นภายในหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น
ขณะที่สองสามีภรรยากำลังหวาดวิตก รถเข็นเตียงคนไข้ก็ผ่านหน้าสาธิตและภรรยาไป บนเตียงมีร่างของลูกชายซึ่งนอนไม่รู้สึกรู้สมใดๆ สองสามีภรรยาลุกจากเก้าอี้ กึ่งเดินกึ่งวิ่งตามไป
จากตึกหนึ่งข้ามไปอีกตึกหนึ่ง ซึ่งมีความทันสมัยและโอ่อ่ามากกว่า แค่นั้นสาธิตและลักขณาก็เข้าใจได้ว่ามีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว ต้องมีความผิดพลาดเกิดขึ้นระหว่างการผ่าตัดอย่างแน่นอน
สาธิตนึกย้อนกลับไปวันแรกที่ลูกชายล้มป่วย เขาและภรรยานำลูกชายตระเวนไปพบแพทย์จากระยะห่างหนึ่งวันเป็นหนึ่งสัปดาห์ จากหนึ่งสัปดาห์เป็นหนึ่งเดือน จากหนึ่งเดือนห่างเป็นหนึ่งปี การบำบัดรักษาผ่านมาได้ห้าหกปีแล้ว ลูกชายมีอาการดีขึ้นตามลำดับ ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติ ทว่าตอนนี้เรื่องง่ายๆ กลับเป็นเรื่องยากอย่างคาดไม่ถึง
เจ้าหน้าที่บริการคนไข้เข็นเตียงเข้าไปในห้องๆ หนึ่ง สาธิตและลักขณากำลังจะเดินตามเข้าไป แต่ถูกสกัดไว้โดยหมอสาวซึ่งไม่คุ้นหน้า
"คุณพ่อคุณแม่คะ ใจเย็นๆ นะคะ ขอให้คุณพ่อคุณแม่ทำใจดีๆ แล้วนั่งรอหน้าห้องก่อนค่ะ" หมอสาวท่าทางใจดีกล่าวพลางยิ้มแย้ม แต่สาธิตและลักขณาสัมผัสได้ว่ากำลังมีเรื่องคอขาดบาดตายรออยู่ สองสามีภรรยาจับมือกันแน่น
"มีเรื่องผิดพลาดนิดหน่อยค่ะ ระหว่างผ่าตัดพล็อทหรือสายยางที่ฝังไว้เกิดหลุดและลื่นไหลไปตามเส้นเลือดใหญ่ หากไปขวางทางเส้นเลือดดำจะทำให้เกิดอันตรายต่อเด็กได้ เราต้องส่องกล้องแล้วคีบดึงมันออกมา เรากำลังพยายามเต็มที่อยู่ค่ะ คุณพ่อคุณแม่ทำใจให้สบายนะคะ คุณหมอขอตัวก่อนนะคะ"
สาธิตไม่รู้หรอกว่าเส้นเลือดดำและเส้นเลือดใหญ่มันอยู่ตรงไหนและมันจะร้ายแรงแค่ไหนหากมีอะไรไปอุดตันหรือมีสิ่งกีดขวาง เขารู้เพียงว่าบางทีอาจจะไม่ได้ลูกชายกลับบ้าน
สองสามีภรรยาทรุดกายลงนั่งบนแถวเก้าอี้หน้าห้อง ซึ่งว่างเปล่าและเงียบงัน ช่วงวิกฤตแห่งชีวิตนี้ใจสองดวงรวมเป็นหนึ่ง ภาวนาให้ลูกปลอดภัย
"พี่..ฮือ..พี่..ลูกเรา.."ลักขณาพร่ำเพ้อน้ำตาซึม
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร หมอเขาเก่ง" สาธิตปลอบภรรยา มีอะไรที่ทำได้มากกว่าคำปลอบโยนอีกเล่า
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า สองสามีและภรรยาใจร้อนรุ่ม เหงื่อกาฬซึมไหลท่ามกลางแอร์เย็นฉ่ำ
หมอสาวคนเดิมโผล่ออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน "เด็กปลอดภัยแล้วค่ะ" ว่าพลางส่งซองพลาสติกใสให้สาธิต ภายในซองพลาสติกมีห่วงสีขาวหม่นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่กว่าหนังยางเล็กน้อย "นี่แหละที่อยู่ในตัวเด็ก เก็บไว้ให้ลูกชายดูตอนโตนะคะ นั่นไงคะ เด็กออกมาแล้ว โชคดีนะคะ ขอตัวก่อนค่ะ" สาธิตและลักขณายกมือไหว้หมอผู้เมตตา จิตใจกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวอีกครั้ง ลูกชายผ่านความเป็นความตายมาได้อีกคราแล้ว
บนเตียงคนไข้ที่เจ้าหน้าที่เข็นออกมาเด็กชายภูพิพรรธยังงัวเงีย และคงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างนั้น สาธิตและลักขณาเดินตามเตียงลูกชายไปห้องพักฟื้นด้วยจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความรัก