ย้อนชมหนัง ลุ้น+ซึ้ง!! ที่นางเอกกัปตันมาร์เวลได้รับรางวัลออสการ์ ในเรื่อง Room - ผม แม่ และโลกของเรา
7 ปีก่อน… โลกของ “Joy” (Brie Larson) ต้องพังทลายลง เพราะความจิตใจดีที่ต้องการช่วยเหลือหมาของชายคนหนึ่ง และมันคือจุดเริ่มของการพรากชีวิตวัยรุ่นปกติสุขของเธอไป ไม่มีหมาบาดเจ็บ มีเพียงชายหลอกลวง “Nick” ที่จับเธอมาขังไว้ในห้องเก็บของหลังบ้าน เพื่อเป็นเครื่องมือบำบัดความใคร่ทางเพศของเขา นับตั้งแต่นั้นโลกของเธอจึงหดเหลือเพียงแค่ห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็กๆ เท่านั้น
5 ปีก่อน… โลกของ “Jack” (Jacob Tremblay) ถือกำหนดขึ้นในห้องนั้น แม้จะเป็นผลผลิตจากการถูกขืนใจ แต่ Jack คือสาเหตุเดียวที่ทำให้ Joy ยังมีแรงใจมีชีวิตต่อ ในฐานะแม่เธอรู้สึกถึงหน้าที่ที่ต้องปกป้องลูก Jack เติบโตมาโดยรับรู้โลกของเขามีอาณาเขตเพียงแค่ห้องๆ หนึ่งเท่านั้น ถัดออกไปคือนอกโลก ไม่มีคนอื่น สิ่งที่เห็นผ่านทีวีในห้องเป็นเพียงภาพสมมติ อาหารที่เขากิน ข้าวของที่มีในห้อง มาจากเวทย์มนตร์ที่ Nick สร้างขึ้นแล้วนำมาให้ ทั้งนี้ ก็เพื่อพยายามสร้างโลกที่สวยงามให้กับ Jack เขาเด็กเกินกว่าจะมารับรู้ความจริงที่โหดร้าย
ปัจจุบัน… โลกของ Joy และ Jack กำลังจะเปลี่ยนไปอีกครั้ง เมื่อ Joy ตัดสินใจบอกเล่าความจริงนอกห้องให้กับ Jack ซึ่ง Jack ก็แสดงอาการต่อต้านอย่างชัดเจน เพราะนั่นเท่ากับว่าโลกใบเล็กในห้องที่ Jack ยึดถือและมีความสุขมาตลอดนั้นเป็นเพียงเรื่องจอมปลอม แม้ไม่อยากออกจากห้อง แต่ Jack ก็ยอมทำตามแผนของ Joy เพื่อหาทางนำพวกเขาทั้ง 2 คน หลุดพ้นจาก Nick กลับไปยังโลกที่ควรจะเป็น
“Room” ใช้เวลาในช่วงครึ่งแรกของเรื่องไปกับโลกใบเล็กในห้องแคบๆ แต่เป็นโลกใบใหญ่ในความคิดของ Jacob ซึ่งเพียงนานหนังก็จับอารมณ์เราได้อยู่อยู่หมด Room เลือกที่จะเล่าเรื่องผ่านมุมมองของ Jacob เป็นหลัก ใช้ประโยชน์จากสายตาไร้เดียงสา ความคิดด้านบวก และจินตนาการต่างๆ เขา เพื่อเติ่มแต่งภาพอันสวยงามให้กับเรื่อง แต่ขณะเดียวกันมันก็ยิ่งให้เราเจ็บปวดไปกับชะตากรรมของตัวละครในเรื่องมากเข้าไปอีก เพราะเราต่างสัมผัสได้ว่า ภายใต้ภาพอันสวยงามนั้นมันมีความจริงที่โหดร้ายซ่อนอยู่
หนังแทบไม่มีฉากรุนแรงให้เห็นเลย แต่เนื้อหากลับรุนแรงกับความรู้สึกอย่างหนักหน่วงมาก โดยเฉพาะสิ่งที่ Joy ต้องเผชิญมาตลอด ในขณะที่ Jacob รับรู้เพียงว่า เมื่อไหร่ Nick มา เขาจะต้องเข้าไปนอนในตู้ แต่เราก็ปะติดปะต่อได้ว่า การมาของ Nick ที่ห้องแต่ละครั้ง เหตุผลหลักไม่ใช่เพื่อนำของมาให้ แต่เพื่อมาข่มขืนระบายอารมณ์ ครั้งแล้วครั้งเล่า ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา เพียงเพราะ Joy หวังดีเชื่อคำโกหกให้ไปช่วยหมาเท่านั้น
ครึ่งแรกว่าหนักหน่วงแล้ว ครึ่งหลังน้ำตาไหลพรากๆ กันเลยทีเดียว เมื่อ Joy และ Jack สามารถหนีออกมาได้ แต่ก็เกิดปัญหากับการปรับตัวเข้ากับโลกภายนอกห้อง สำหรับ Joy ถึงเธอจะได้กลับมายังโลกที่เคยอยู่ก็จริง แต่หลายสิ่งก็ไม่เหมือนเดิม พ่อกับแม่ของเธอเลือกแยกทางกันแล้ว ไม่มีบ้านหลังเดิม และความจริงที่ว่าเธอสูญเสีย 7 ปีไปกับห้องนั้น ขณะที่คนอื่นสามารถใช้ชีวิตตามปกติ ก็ยังคงหลอกหลอนเธออยู่ ด้าน Jack ก็ต้องเริ่มหัดทำความรู้จักกับโลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย แต่โลกที่กว้างขึ้นก็แลกมาด้วยระยะห่างระหวางเขากับแม่ที่มากขึ้นเช่นกัน นั่นทำให้ในหลายช่วง Jack อดไม่ได้ที่อยากจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมอีกครั้ง ห้องๆ นั้นอาจเป็นความทรงจำเลวร้ายของ Joy แต่มันคือความทรงจำสวยงามของ Jack เพราะอย่างน้อยไม่ว่าจะทำอะไร เขาจะมีแม่อยู่ด้วยกันตลอด
ไม่ใช่แค่ Joy กับ Jack ที่ต้องปรับตัวกับโลกใหม่เท่านั้น ตัวละครอย่างพ่อและแม่ของ Joy ก็ต้องเผชิญกับภาวะความหนักหน่วงทางอารมณ์ไม่แพ้กัน เช่นเคยหนังไม่ได้บอกออกมาตรงๆ แต่เราก็สัมผัสได้ทันทีทั้งความรู้สึกดีใจที่ลูกกลับมา ความรู้สึกผิดที่เมื่อลูกกลับมา พวกเขากลับแยกทางกันแล้ว ความกระอักกระอ่วนใจของพ่อเมื่อมองหน้า Jack แล้วตระหนักว่านี่คือผลของความโหดร้ายที่ Joy ต้องเจอ หรือความพยายามชดเชยความรู้สึกผิดของแม่ด้วยการพยายามทำความคุ้นเคยกับ Jack สิ่งที่รู้สึกได้คือ คนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นเจ็บปวดไม่แพ้กัน
การเอาตัวรอดจากขุมนรกว่ายากแล้ว การกลับมาใช้ชีวิตปกติหลังจากอยู่ในขุมนรกมานานอาจยากยิ่งกว่า “Room” เป็นหนังที่ไม่ได้จงใจพยายามทำให้เศร้า เพราะตัวบทมันสะเทือนอารมณ์ในตัวเองอยู่แล้ว ตรงกันข้ามหนังพยายามประนีประนอมกับคนดูพอควร ผ่านสายตาไร้เดียงสาของเด็ก แต่มันก็ไม่สามารถหยุดน้ำตาไหลได้เลย และอย่าอายถ้าจะร้องให้กับหนังเรื่องนี้ เพราะเมื่อหนังจบลง หันไปมองข้างๆ คุณก็จะพบว่าเขาก็อาจมีอาการไม่ต่างกัน
น่ารักมากพ่อหนุ่มน้อย Jacob Tremblay
แหล่งที่มา: https://pantip.com/topic/34759380
https://www.youtube.com/watch?v=3i8BfDrwFH0