ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร! สาวเล่าชีวิต ถูกรถชนจนพิการ ก่อนเรียนจบ ซ้ำหนักโดนแฟนนอกใจ เพราะเดินไม่ได้
สาวเล่าประสบการณ์สุดเจ็บปวด จากผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ได้ถูกรถชนจนพิการเดินไม่ได้ ซ้ำหนักถูกคนรักหักหลังถึง 2 คนเพียงเพราะเธอเดินไม่ได้ และด้วยสถานการณ์ในครอบครัวที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้มีปัญหาการเป็นโรคซึมเศร้าเพราะต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่อายุ 23 ปี และกำลังจะเรียนจบเป็นพยาบาล จนในวันนี้เธอต่อสู้ไม่ย่อท้อจนสามารถทำตามความฝันได้เป็นพยาบาลวิชาชีพอีกครั้งสมกับที่ตั้งใจไว้
ซึ่งคุณกรรณิการ์เจ้าของเพจบันทึกจากวีลแชร์ ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเธอไว้เมื่อวันที่ 26 พฤษจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งได้เล่าว่า กว่าจะเป็นกรรณิการ์ ครั้งหนึ่งในชีวิต ที่เกิดมาปกติครบ 32 ประการ ฉันใช้ชีวิตปกติแบบคนทั่วไป ไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง หรือมีความลำบาก จนเธอนั้นอายุ 23 บริบูรณ์และฉันกำลังจะเรียนจบ เหตุการณ์ที่เธอไม่ได้คาดฝันมาก่อน เหตุการณ์ที่นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงตัวเธอครั้งยิ่งใหญ่ เพราะเธอได้ประสบอุบัติเหตุ และสิ่งที่ตามมาคือร่างกายของเธอนั้นตั้งแต่ใต้ราวนมลงมาไม่มีความรู้สึก ในสมองคิดขึ้นมาได้ทันทีว่า เธอกำลังบาดเจ็บอย่างหนัก และกำลังจะเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งเธอก็กังวลมาก และหลังจากที่ออกมาจากห้องผ่าตัด ทุกอย่างก็ดีขึ้น พร้อมกับบอกว่าเธอยิ้มทุกครั้ง เพราะไม่อยากให้คนรอบข้างนั้นมีกังวล แต่สิ่งที่นั้นได้กังวล อยู่ลึกๆ อยู่ในใจของเธอนั้นคือ เธออาจจะไม่ได้เป็นพยาบาล สิ่งที่น่ากลัว สิ่งที่เธอต้องเก็บไว้ และสิ่งที่เธอต้องฝืนยิ้ม เธอทำแบบนั้นซ้ำ ๆ ฝืนยิ้มทั้ง ๆ ที่ใจเธอมันกำลังเศร้า
การรักษาตัวที่โรงพยาบาลนครพิงค์เป็นเวลา 2 เดือนครึ่งพี่นักกายภาพ นักกิจกรรมบำบัดทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อให้ร่างกายเธอพยายามฟื้นขึ้นมา แต่เวลา 2 เดือนครึ่งที่เธอรักษาตัวที่นั่น เธอแค่กระดิกนิ้วเท้าข้างขวาได้เท่านั้น ถึงเวลาต้องกลับมาพักฟื้นที่รักษาตัวอยู่ที่บ้านสิ่งที่ร้ายแรงที่สุดในชีวิตก็เกิดขึ้น ระบบทางบ้านรวนไปหมด ปัญหาหลาย ๆ อย่างเริ่มรุมเร้าเพราะเธอต้องมีคนค่อยดูแล 24 ชั่วโมงแต่ปัญหาคือพ่อแม่เธอแยกทางกันและก็มีหน้าที่การงานต้องรับผิดชอบไม่สามารถอยู่ดูแลเธอได้ ซึ่งกีมีเพียงป้า และแฟนของน้องชายเธอ เท่านั้นที่มาดูและเธอ
ความรักครั้งใหม่มันเหมือนจะสวยงาม แต่เมื่อเธอเป็นผู้ป่วยที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากเท่าไหร่และการกายภาพของเธอยังไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าไหร่สิ่งที่เธอต้องกลับมาพบเจออีกครั้ง คือการนอกใจ สุดท้ายคำพูดที่เค้าปฏิญาณไว้ทุกอย่าง เค้าทำไม่ได้สุดท้ายฉันก็แพ้ให้กับผู้หญิงคนอื่นเหมือนเดิม เพียงเพราะเธอ “เดินไม่ได้” (เป็นเวลา 1 ปี กับ 1 เดือนที่เธอประสบอุบัติเหตุพอดีที่เค้าทิ้งฉันไป ปัจจุบัน เธอไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้อยู่ที่ไหนของโลก และเธอก็ไม่รู้ว่าเค้ารู้สึกผิดบ้างมั้ย ที่ทำให้เด็กผู้หญิงคนหนึ่งจากที่เดินได้ปกติแต่กลับต้องมานั่งวีลแชร์ และฟันฝ่าอุปสรรคหลาย ๆ อย่างเพื่อให้เธอกลับมาใช้ชีวิตให้ปกติดังเดิมได้ แต่เธอไม่ถือโทษโกธรเค้า แถมเธอต้องขอบคุณเค้าที่เป็นตัวพลักดันให้ชีวิตเธอดีขึ้น
ความเจ็บปวดครั้งนี้ สอนให้เธอรู้ว่าเธอควรรักตัวเอง และทำเพื่อตัวเองให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เธอพาตัวเองอาสาช่วยทำงานในหอผู้ป่วยไปพูดคุยกับผู้ป่วยและให้กำลังใจเธอกายภาพอย่างหนักเพื่อฟื้นร่างกายให้ได้มากที่สุด และเธอก็พยายามพาตัวเองเพื่อให้กลับไปเรียนต่อให้จบได้ เธอได้รับการช่วยเหลือจากโรงพยาบาลสันทราย คุณหมอ ชลาทิพย์ หมอเวชสาสตร์ฟื้นฟูที่รักษาเธอ พี่ ๆ และเพื่อนนักกายภาพ พี่นักกิจกรรมบำบัด โรงพยาบาลสันทราย และผู้ชายคนหนึ่งที่ติดตามเพจเธอตั้งแต่แรก จนวันหนึ่งมีผู้ชายคนนี้ ได้แนะนำให้เธอเขียนฎีกาถึงสมเด็จพระเทพฯ เพื่อกราบทูลขอกลับไปเรียนต่อ และสุดท้ายเธอก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพ ฯให้เธอได้กลับมาเรียนในวิชาชีพที่เธอรักอีกครั้ง “วิชาชีพพยาบาล” ทางวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี เชียงใหม่ ให้โอกาสเธอได้กลับมาฝึกงานที่เหลือให้จบและดูแลเธอเป็นอย่างดีระหว่างที่เธอต้องสอบจบของสถาบันราชชนกสอบจบของมหาวิทยาลับเชียงใหม่ และสอบใบประกอบวิชาชีพ ให้ผ่านทั้ง 8 วิชา
จนปัจจุบันเธอนั้นสามารถจบและกลับมาทำงานในฐานะพยาบาลวิชาชีพ ที่โรงพยาบาลสันทราย และกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอย่างเคย แค่เพียงเธอมีเก้าอี้ส่วนตัว ที่ไม่ต้องมีใครมาแย่งเก่าอี้ของเธอ
(ผู้ชายที่ติดตามเพจเธอ และแนะนำให้เธอเขียนฎีกาคือแฟนคนปัจจุบันของเธอ และค่อยให้กำลังใจเธอตลอดมาจนวันหนึ่งมีเหตุการณ์ระเบิดที่สามชายแดนใต้ เธอเลยทักไปถามไถ่ เพราะเห็นว่าเค้าอยู่แถวนั้น ด้วยความที่เค้าคอยเป็นห่วงเธอเสมอมา เลยให้กำลังใจเค้าไป นั่นคือจุดเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ของฉันอีกครั้ง กับผู้ชายที่กรีดยางอยู่ที่สามจังหวัดชายแดนใต้)
เกือบจะ 3 ปี กับการเดินทางอันยาวนานของเธอ เธอมีคุณย่าที่อยู่ข้างฉันมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่ฉันประสบอุบัติเหตุย่าจะพูดเสมอว่า “ถ้ายิวยังสู้ ย่าก็จะสู้ไปกับยิว” นี่คือกำลังใจที่สำคัญที่ทำให้เธอลุกขึ้นมาสู้ถึงทุกวันนี้ เธอต้องมาเรียนรู้กับร่างกายที่ต้องมีอุปกรณ์พิเศษ กว่ามันจะสวยงามแบบทุกวันนี้ เธอได้ผ่านความเจ็บปวดมามากมายเพื่อแลกกับการประสบความสำเร็จของเธอ และเธอก็แลกมันมาด้วยคำว่า “ไม่ท้อ ไม่ถอย ไม่ถอดใจ”
เดือนนี้เป็นเดือนพิเศษ เดือนพฤศจิกายน สุขสันต์วันเกิดนะ กรรณิการ์ (23 พฤศจิกายน 2535 เธอ 26 ขวบบริบูรณ์) และขอแสดงความยินดีกับใบปริญญาใบแรกของเธอ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร (29 พฤศจิกายน 2561) ต่อจากนี้ไปขอให้เธอพบเจอแต่สิ่งดีงาม ทำคุณประโยชน์ให้คนอื่นเหมือนที่เธอเคยปฏิญาณไว้ และจงจดจำวันเวลาที่เธอเคยผ่านมา เพราะทุกเรื่องราวที่เธอได้พบเจอ เป็นเรื่องราวที่ทำให้เธอมีวันนี้ได้
กรรณิการ์ ศรีวิจา พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลสันทราย
แหล่งที่มา: deemagna