ทำไมเครื่องแบบราชการต้องใช้'สีกากี'
สีกากี หรือ จริงๆ เรียกว่า Khaki เป็นสีเครื่องแบบของทหารอังกฤษ เกิดขึ้นครั้งแรกในสมัยสงครามโลก
เนื่องจากทหารอังกฤษที่ทำสงคราม บริเวณทวีปอาฟริกาได้เห็นชาวพื้นเมืองแถบนั้น พรางตัวให้เข้ากับภูมิประเทศ โดยการย้อมผ้าใช้สีของโคลน ดิน ในการย้อม ซึ่งเรียกการย้อมลักษณะนี้ว่า khaki หรือสีของดินโคลน คำว่า กากีจึงแปลว่า สีดิน สีโคลน ทหารอังกฤษ จึงได้ย้อมเครื่องแบบตนเองเป็นสีกากี และใช้เป็นสีมาตรฐานของเครื่องแบบในแอฟริกา จากนั้นคำว่ากากีหรือ khaki นั้นจึงกลายเป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยมีที่มาจากภาษาพื้นเมืองอาฟริกานั้นเอง ต่อมาเมื่อไทยเรามีการเจรจาการค้ากับประเทศตะวันตก และถูกบีบ
ให้ปรับปรุงในหลาย ๆ ด้านให้เป็นสากล ทันสมัย เราจึงได้รับเอาบรรดาวัฒนธรรมการแต่งกาย เครื่องแบบทหาร ตำรวจ จากทางอังกฤษเข้ามาแพร่หลายในบ้านเราในช่วงสงคราม และเราก็ได้รับเอาเครื่องแบบสีนี้เข้าเป็นสีมาตรฐานเช่นกัน จะเห็นอิทธิพลของเครื่องแบบทหารในเครื่องแบบข้าราชการพลเรือนมากพอสมควร ทั้งเครื่องหมายอินธนูบนบ่า (จริงๆ แล้วได้รับอิทธิพลมาจากราชนาวีอังกฤษ) และการประดับเครื่องหมาย
ต่างๆ ที่ติดตามแบบเครื่องหมายของทหาร ซึ่งต่อมาก็ ได้พัฒนาเป็นเอกลักษณ์ของเราเอง โดยสีของผ้าที่ถูกต้องนั้น ต้องไม่ใช่สีครีมหรือสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำหรือสีเทาอ่อนจนถึงเทาเข้ม
แต่เนื่องจากไม่มีระเบียบกำหนดไว้ว่าต้องใช้สีผ้าเบอร์ไหน ทำให้สีของเครื่องแบบ ข้าราชการพลเรือนไม่เป็นเอกภาพ เมื่อเวลามาชุมนุมรวมกันจึงแตกต่างกันออกไป ซึ่งตามแบบธรรมเนียมนิยมนั้น ใช้ผ้าลามีน่าวู เบอร์ ๑๗ หรือ ผ้าเทยิน เบอร์ ๑๓ เป็นสีผ้าเครื่องแบบ หลายๆ คนอาจสงสัยว่าในส่วนของข้าราชการตำรวจ สีกากี หมายความว่าอย่างไร จริงๆ แล้วเครื่องแบบตำรวจนั้นถูกกำหนดให้ใช้สีกากี(khaki) เช่นกันจนเป็นที่รู้กันว่าถ้าพูดถึง สีกากี จะหมายถึงข้าราชการตำรวจ ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๔ ทางราชการได้แต่งตั้ง กัปตัน แซมมวล โจเซฟ เบิร์ด เอมส์ ชาวอังกฤษ ให้รับราชการ และเป็นผู้ก่อตั้งกองโปลิศขึ้นเป็นครั้งแรกในสยาม ปัจจุบันสีกากีเครื่องแบบตำรวจได้เปลี่ยนไปจากเดิมมากของเดิมจะคล้ายกับสีเครื่องแบบมหาดไทย ครู แต่เข้มกว่า
ตอนนี้ที่นิยมใส่ดูเหมือนจะออกสีเทาอ่อนไล่ระดับจนถึงเทาเข้มเกือบดำตามแต่ชอบใจ ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมาก เมื่อมาเข้าแถวรวมกัน ได้ข่าวว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังพยายามหาเบอร์สีเครื่องแบบที่จะใช้เป็นมาตรฐานให้
เหมือนกันหมดทั้งประเทศแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป
นายตำรวจหลายท่านเองก็ตัดและแต่งเครื่องแบบสีเทาอ่อนบ้าง สีเทาเข้มจนเกือบดำบ้าง จนแทบจะไม่หลงเหลือความหมายแห่งสีกากีเลย ส่วนข้าราชการพลเรือนทั่วไปในปัจจุบัน ก็ยังคงใช้เครื่องแบบ สีกาสีอยู่โดยไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม