ที่มารูปปั้นเด็กเดินเเบกฝืน ชาวนาผู้สอนผู้บริหารญี่ปุ่น
สิ่งที่น่าแปลกใจคือ ผู้บริหารญี่ปุ่นที่ประสบคว
อาทิ Inamori Kazuo (ประธาน Kyocera)
และ Idemitsu Sazo (ประธานบ.น้ำมัน Idemitsu)
ล้วนกล่าวถึงคุณธรรม
และความสำคัญของการเห็นประโ
ทุกท่านกล่าวว่า ตนได้รับแรงบันดาลใจมาจาก
Ninomiya Sontoku (二宮尊徳)
ชาวนาคนหนึ่งที่เกิดในศตวรร
เขาเป็นผู้ "สอน" วิถีแห่งความเป็นผู้นำและจิ
ให้แก่ผู้บริหารระดับสูงเหล
ได้อย่างไร?
++++++++++++++++++++++++++
"ที่มาของรูปปั้นเด็กแบกฟืน
ใครเคยอ่านการ์ตูนหรือเคยไป
อาจพอคุ้นภาพเด็กชายแบกฟืนท
นี่แหละค่ะ สุดยอดชาวนาที่ดิฉันจะเล่าใ
Ninomiya เกิดในตระกูลชาวนาที่ยากจน
พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เขาอ
จนต้องระเห็จไปอาศัยอยู่กับ
เพื่อไม่ให้ลุงมองว่าเขาเป็
Ninomiya พยายามช่วยเหลืองานทุกอย่าง
ความฝันของเขา คือ การอ่านเขียนออก
ตอนกลางวัน เขาต้องช่วยงานลุง
เขาจึงพยายามใช้เวลาช่วงกลา
เมื่อลุงพบเข้า แกโกรธมาก
"แกนั่งอ่านหนังสือตอนกลางค
Ninomiya บอกตัวเองว่า เขาจะหยุดอ่านหนังสือ
จนกว่าจะหาน้ำมันมาใช้อ่านห
Ninomiya ตัดสินใจปลูกพืชตรงที่ดินผื
ไม่กี่เดือนถัดมา เขาเก็บเมล็ดพืชที่ได้ไปแลก
เขาอ่านหนังสือตอนกลางคืนได
ทว่า ลุงก็โกรธอีก
การอ่านหนังสือไม่เห็นสร้าง
เวลาของหลาน ก็คือ เวลาของลุง
ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์และค
จากนั้นเป็นต้นมา ตอนกลางคืน
เขาก็จะนั่งทำรองเท้าฟาง และเสื่อให้กับลุง
Ninomiya จึงเปลี่ยนมาอ่านหนังสือ
ตอนที่เดินไป-กลับที่พักกับ
++++++++++++++++++++++++++
"จุดกำเนิดชาวนานักพัฒนา"
จากประสบการณ์ในการปลูกพืชเ
ทำให้ Ninomiya ได้เรียนรู้ว่า
"หว่านพืชอย่างไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น"
หากเราพากเพียรทำงาน ธรรมชาติก็ย่อมให้ผลตอบแทนท
ในหมู่บ้าน มีแอ่งน้ำร้างแห่งหนึ่งที่โ
Ninomiya ไปพบเข้า และพัฒนาพื้นที่จนกลับมาปลู
เขากลับไปบ้านพ่อแม่ที่ถูกท
และพัฒนาที่ดินรกร้างให้กลั
++++++++++++++++++++++++++
"วิถีแห่งผู้นำที่แท้จริง"
เรื่องที่ Ninomiya พัฒนาที่ดินดังไปถึงหูเจ้าเ
ซึ่งกำลังกลุ้มใจเรื่องหมู่
และไม่สามารถส่งภาษีข้าวได้
หมู่บ้านเหล่านี้ เคยอุดมสมบูรณ์ ประชากรอยู่เยอะ
แต่เมื่อคนใช้พื้นที่ปลูกพื
ดินเริ่มเสีย คนก็เริ่มย้ายออกไป ปล่อยให้ที่ดินรกร้าง
คนที่เหลืออยู่ในหมู่บ้านก็
ท่านเจ้าเมืองจึงขอให้ Ninomiya ไปช่วยพัฒนา
เมื่อไปถึงหมู่บ้าน Ninomiya สังเกตชีวิตความเป็นอยู่
เดินเข้าไปคุยกับชาวบ้านแต่
เขาส่งจดหมายไปรายงานท่านเจ
"การส่งเงินช่วยเหลือ หรือการละเว้นภาษี
ไม่สามารถแก้ปัญหาความยากจน
สิ่งสำคัญ คือ ต้องทำให้ทุกคนเห็นคุณค่าขอ
และรู้จักช่วยตัวเอง"
Ninomiya มองว่า ทุกคนต้องใช้แรง ใช้พลังของตัวเอง
ในการดิ้นรนเพื่อหลุดจากบ่ว
ในตอนแรก ชาวบ้าน (ผู้ขี้เกียจ) ต่อต้าน
ไม่ยอมรับการเกษตรวิธีใหม่
แต่ Ninomiya ก็ไม่ย่อท้อ
Ninomiya ตื่นมาทำงานก่อนใครและกลับด
เขานอนเพียงวันละ 2 ชั่วโมงเท่านั้น
เขาเริ่มทำงานกับชาวบ้านกลุ
หลังจากนั้น เมื่อมีผู้เห็นความมานะบากบ
และการมุ่งมั่นปฏิรูปหมู่บ้
ชาวบ้านก็หันมาหยิบจอบปลูกพ
เขาสอนให้ชาวบ้านอดทน อุตสาหะในการทำงาน
เขาสอนให้ชาวบ้านเข้าใจถึงก
โดยค่อยๆ ทำให้ชาวบ้านดูเป็นตัวอย่าง
สุดท้าย ความขยันและร่วมมือร่วมใจขอ
ทุ่งนาอันอุดมสมบูรณ์
++++++++++++++++++++++++++
โรงเรียนในญี่ปุ่นตั้งรูปปั
Ninomiya ได้สอนเด็กๆ ทั่วประเทศว่า
ไม่ว่าเจออุปสรรคแค่ไหน
หากพยายามขวนขวายเล่าเรียน
ความรู้นั้นจะเกิดประโยชน์แ
Ninomiya ได้สอนผู้บริหารญี่ปุนว่า
ผู้นำไม่ใช่คนที่เอาแต่น
หรือเบียดบังน้ำพักน้ำแรงคน
ผู้นำที่แท้จริงต้องกระโดดล
ต้องทำงานหนักกว่าใคร
และต้องมุ่งมั่นทำเพื่อคนอื
ในยุคที่ระบบศักดินายังศักด
การที่ Ninomiya ซึ่งเป็นเพียงชาวนา
แต่กลับได้รับความไว้วางใจจ
ย่อมแสดงถึงความสามารถของ Ninomiya ได้เป็นอย่างดี
++++++++++++++++++++++++++
ขออนุญาตเล่าต่อนะคะ
"่เงินสกปรก อยู่กับเราไม่นาน"
สิ่งที่น่าแปลก คือ ยิ่ง Ninomiya ใช้ความรู้ความสามารถ
ช่วยเหลือหมู่บ้านต่างๆ เท่าไร
เจ้าเมืองก็ยิ่งไว้ใจ และให้ผลตอบแทนเขามากขึ้นเท
โดยที่เขาไม่เคยคาดหวังมาก่
วันหนึ่ง มีพ่อค้าข้าวผู้ประสบเหตุเภ
และกำลังจะล้มละลายมาขอให้ Ninomiya ช่วย
Ninomiya ทราบว่า พ่อค้าคนนี้ ในอดีตเคยร่ำรวยมาก
แต่ความร่ำรรวยนั้น มาจากการกักตุนและขายข้าวใน
ช่วงที่คนกำลังยากลำบากและข
Ninomiya จึงกล่าวแก่พ่อค้าทีใกล้ล้ม
"วิธีแก้ คือ ขายทรัพย์สินที่มีให้หมด และจงเริ่มสร้างเนื้อสร้างต
การที่พ่อค้าสูญเสียเงินทอง
เป็นเพราะเงินทองเหล่านั้นไ
ทรัพย์สินที่เหลืออยู่ตอนนี
รายได้ที่มาจากเรื่องมิชอบธ
(และอยู่กับเราได้ไม่นาน)
รายได้ที่ได้มาอย่างถูกต้อง
ไม่ขัดกับหลักคุณธรรมเท่านั
พ่อค้าขี้โกง ตัดสินใจแจกจ่ายทรัพย์สินทั
และเริ่มประกอบอาชีพถ่อเรือ
เขาได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญ
++++++++++++++++++++++++++
"หน้าที่ข้าราชการ"
ในปี 1836 เกิดภาวะอดอยากครั้งใหญ่หลว
เจ้าเมืองจึงรีบส่ง Ninomiya ไปยังเมือง Odawara
เพื่อให้เขานำข้าวในคลังเสบ
เมื่อไปถึง ข้าราชการประจำเมืองปฏิเสธก
"ไม่มีหนังสือแจ้งจากท่านเจ
Ninomiya ตอบว่า
"ไม่เป็นไร ระหว่างรอทางเราทำหนังสือไป
เพื่อขอเอกสารนั้น
พวกท่านในฐานะ "ข้าราชการ" ....ผู้รับใช้แผ่นดิน ผู้รับใช้ประชาชน
ก็ควรจะอดอาหารตามเช่นกัน"
ขุนนางต่างพากันอึ้ง
ท่านพูดว่าอะไรนะ?
Ninomiya กล่าวต่อว่า
"ขณะที่ประชาชนกำลังทุกข์ยา
ท่านผู้กำลังรับใช้ "ประชาชน" จะอยู่ดีกินดีได้อย่างไร
มามาอดอาหารไปพร้อมกับปร
เมื่อข้าราชการประจำเมืองได
ก็รีบเปิดคลังเสบียงแจกจ่าย
+++
Ninomiya สอนข้าราชการเหล่านั้นต่อ
"เมื่อเกิดภาวะอดอยาก คลังของเราว่างเปล่า ประชาชนไม่มีอะไรกิน
เราจะโทษใครถ้าไม่ใช่ตัวเรา
ความอดอยากนั้น เกิดจากความฟุ่มเฟือยในยุคท
ตอนที่มีข้าวปลาอุดมสมบูรณ์
ไม่คิดจะเก็บออม
ไฉนตอนเกิดเภทภัย เรากลับนิ่งเฉยเสียเล่า
หน้าที่ของพวกเรา คือ ดูแลประชาชน
ปกป้องพวกเขาจากเรื่องชั่วร
และดูแลให้พวกเขามีชีวิตที่
แต่ดูพวกท่านตอนนี้คนอดอ
ท่านยังเมินเฉยได้
พวกท่านก็สมควรตายเช่นเดียว
(ไม่ใช่ท่านโกรธ แต่พูดด้วยความหมายว่า
หากประชาชนตาย ผู้รับใช้ประชาชนอย่างข้ารา
++++++++++++++++++++++++++
หลังจากสั่งสอนอบรมเหล่าขุน
Ninomiya แก้ปัญหาความอดอยากในเมือง Odawara
โดยแบ่งคนเป็น 3 ประเภท
1. ผู้ที่ไม่ลำบาก (มีเงิน มีอาหารกิน)
2. ผู้ที่ลำบากน้อย (พอมีเงินและอาหารอยู่บ้าง)
3. ผู้ที่ลำบาก (ไม่มีเงิน ไม่มีอาหารกิน)
เขาแบ่งข้าวให้คนกลุ่มที่ 3 (ผู้ลำบาก) วันละ 1 กระป๋อง
พร้อมทั้งบอกผู้คนว่าอย่าหม
จากนั้น เขาขอให้คนกลุ่มที่ 1&2 (คนทีไม่ลำบาก)
ให้คนกลุ่มที่ 3 ยืมเงินโดยไม่คิดดอกเบี้ย
(เกตุวดี: โปรดสังเกตว่า เขาไม่ได้ขอให้ให้เปล่า
แต่ให้ยืมเงิน เพื่อให้คนรู้จักสร้างเนื้อ
ในตอนแรก กลุ่มผู้ที่มีทรัพย์ก็อิดออ
เพราะกลัวว่า จะไม่ได้เงินคืน กลัวตนเองไม่มีเงินใช้
Ninomiya จึงกล่าวว่า
"ตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ พวกเราอยู่ในหมู่บ้านเดียวก
ดื่มน้ำบ่อเดียวกัน อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินเดียว
เราเข้าใจว่า พวกท่านคงโกรธว่า
ในกลุ่มคนที่ลำบาก มีพวกคนขี้เกียจอยู่ด้วย
แต่การบริจาคข้าวให้พวกเขาอ
ก็เป็นการแสดงความเมตตา คือความรักที่มนุษย์ควรมีให
หลังจากนั้น
คนในหมู่บ้านก็ร่วมมือกัน ช่วยเหลือกันมากขึ้น
ภัยพิบัติก็ค่อยๆ ซาลง
และไม่มีผู้ใดตายจากความอดอ
++++++++++++++++++++++++++
จริงๆ แล้ว Ninomiya ปฏิรูประบบต่างๆ ไว้มาก
เช่น วางระบบกู้เงินในอัตราดอกเบ
ให้สิทธิ์คนโหวตเลือกผู้นำ (ประชาธิปไตย)
วางมาตรฐานที่ตวงข้าวเพื่อก
ฯลฯ
แต่ดิฉัน เลือกหยิบเรื่องพ่อค้า ข้าราชการ และคนในหมู่บ้านมาเล่าให้ฟั
เนื่องจากทั้ง 3 เรื่องสะท้อนสิ่งที่ Ninomiya จะสอน
นั่นคือ ....
"การประพฤติหน้าที่อย่างมีค
และกระทำสิ่งต่างๆ โดยนึกถึงผลประโยชน์ของ
ผู้อื่นก่อนตนเอง"
พ่อค้า ควรจะขายข้าวในราคาปกติช่วง
หากเขานึกถึงความลำบากขอ
ข้าราชการ ควรรีบจัดจ่ายเสบียงในคงคลั
หากเขาเห็นความทุกข์ยากข
ชาวบ้าน ควรหาทางช่วยกันและกัน ไม่ให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งต
หากเขาเห็นใจคนในหมู่บ้านเด