สรุปบทเรียนชีวิต 90 ข้อ

1. พูดไม่ชัดเจน สื่อสารไม่ชัดเจน คนฟังก็จะฟังไม่ชัดเจน
2. ก่อนจะฝึกพูดให้เก่งฟังให้เป็นก่อน
3. การพูดจาเหน็บแนม ประชด กระแนะกระแหน ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น มีแต่สร้างบาดแผลในใจ
4. หากจะเตือนใครให้พูดด้วยความรักความห่วงใย บอกกล่าวในสภาวะที่ผู้ฟังพร้อมที่จะรับฟังและไม่ได้อยู่ในโหมดปกป้องตัวเองให้ดูดี ถ้าหากใครไม่พร้อมจะรับฟัง เค้ามักจะสวนด้วยคำว่า “ไม่ๆ” แล้วตามด้วยประโยคต่างๆ ก่อนเราจะพูดจบ
5. พูดชื่นชมในส่วนที่ดีและให้กำลังใจดีกว่า
6. ใช้คำพูดสร้างพลัง ไม่ใช่ดูดพลัง
7. คนที่พูดดีกับเราไม่ได้หมายความว่าจะคิดดีกับเรา คนที่พูดร้ายกับเราไม่ได้หมายความว่าจะคิดร้ายกับเรา ดูที่การกระทำเป็นหลัก
8. อย่าพูดให้ใครเสียหน้า ยกเว้นเค้าจะทำตัวเอง
9. การกระทำสำคัญกว่าคำพูด คนที่พูดจาดูดี มีเยอะ คนที่มีความคิด การกระทำและคำพูดไปในทิศทางเดียวกันมีน้อย
10. อาจารย์ที่ดีคืออาจารย์ที่ปฎิบัติตนเป็นแบบอย่าง (ไม่ใช่พูดอย่างทำอย่าง สอนคนอื่นให้เป็นในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้)
11. หากไม่มีจุดหมายในชีวิต คงลอยไปลอยมาเหมือนแมงกระพรุน รู้ตัวอีกทีคงจะแก่ตัวลงและรอวันเกยตื้น
12. เรียงลำดับให้ถูก สิ่งที่ต้องทำ ควรทำ ชอบทำ
13. ไม่ใช่แค่รู้ว่าสิ่งไหนต้องทำ แต่ต้องรู้ว่าสิ่งไหนไม่ต้องทำด้วย
14. พึ่งพาตัวเอง อย่าทำตัวเป็นคนไร้ค่า แบมือขอเงินใคร
15. อย่าใช้ชีวิตตามความคาดหวังของสังคมแต่ให้ฟังเสียงจากภายใน ค้นพบสิ่งที่เราต้องการจริงๆ ทำสิ่งที่รักแล้วจะพบความสุข
16. อย่าใช้ชีวิตอยู่กับนามธรรมมากเกินไป มีคนจำนวนมากพูดจาดูดี ความรู้ท่วมหัวแต่เอาตัวไม่รอด แม้แต่ตัวเองและพ่อแม่ยังเลี้ยงดูไม่ได้ นับประสาอะไรจะมาช่วยเหลือเราในวันที่เราลำบาก
17. ล้มแล้วลุกขึ้นมา เอาความผิดพลาดเป็นบทเรียน
18. ขอบคุณสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ผู้คนรอบข้างที่ทำให้เรามีวันนี้
19. บุญคุณต้องทดแทน
20. ธุรกิจก็เหมือนปลูกต้นไม้ ปลูกถั่วงอกได้ถั่วงอก ปลูกไม้ยืนต้นได้ไม้ยืนต้น วันนี้เราปลูกต้นอะไร? ปลูกในที่ของใคร? ปลูกอะไรได้อย่างนั้น
21. หนี้ที่ดีคือหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ หนี้ไม่ดีคือหนี้ที่สร้างรายจ่ายมากกว่าสร้างรายได้
22. หากคิดจะเลี้ยงหมาเลี้ยงแมวควรเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ให้ได้ก่อน ดูแลบ้านช่องตัวเองให้สะอาดก่อน ก่อนที่จะไปดูแลปัดกวาดบ้านคนอื่น
23. คุณธรรม ความดี เป็นสิ่งควรยึดถือปฎิบัติ หากวันนี้ทำถูก วันหน้าย่อมถูก
24. เห็นคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองมี พัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้า
25. อย่าดูคนที่เปลือกนอก จะวัดคนให้วัดระยะทางที่เค้าเดินมา วัดคุณค่าที่เค้าสร้างให้กับคนอื่น (บางคนเกิดมามีต้นทุนชีวิตดีกว่าคนอื่นมากมายแต่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้ไกลจากจุดเริ่มต้นเท่าไร)
26. ขนาดของการศึกษาไม่ได้รับประกันเรื่องคุณภาพชีวิต คนฉลาดไม่ได้วัดกันที่ปริญญา คนฉลาดมากมายที่ชีวิตลำบากตอนแก่
27. อย่าเอาไม้บรรทัดตัวเองไปวัดคนทั้งโลก วัดแค่ตัวเองดีที่สุด
28. ทุกคนมีข้อเสีย ให้เลือกมองส่วนที่ดี
29. อย่าประเมินศักยภาพตัวเองต่ำเกินไป
30. อย่ากลัวว่าจะทำไม่ได้ ถ้ายังไม่ได้ลองทำจนสุดฝีมือ
31. อย่าใช้ชีวิตอยู่กับความกลัว ข้ามผ่านมันด้วยคำว่า "การเริ่มต้น"
32. อย่าใช้ชีวิตอยู่กับนามธรรมมากเกินไป การลงมือทำเท่านั้นที่สร้างความแตกต่าง
33. เรียนรู้และฝึกฝนสร้างความเก่งฉกาจ
34. ไม่สำคัญว่าอดีตจะเป็นอย่างไร สำคัญว่าอนาคตจะไปไหน สำคัญกว่าคือการลงมือทำ
35. ไม่มีใครสมบูรณ์แบบแม้กระทั่งคนสำเร็จ ซึบซับส่วนที่ดี ปล่อยวางส่วนที่แย่
36. รับผิดชอบการกระทำและคำพูด กตัญญูกตเวที เดินทางตามความฝัน
37. ความรัก ความปรารถนาดี และความกตัญญูกตเวที จะนำพาเราไปสู่ความเจริญ
38. ทัศนคติแห่งการขอบคุณ และรู้สำนึกรู้คุณในสิ่งต่างๆที่ได้รับ จะช่วยดึงดูดสิ่งดีเข้ามาในชีวิตง่ายขึ้นและมากขึ้น
39. จงเมตตากับผู้คน อย่าดูถูกคน
40. การกระทำก็เหมือนกับบูมเมอแรงค์ เหวี่ยงอะไรไปก็ได้สิ่งนั้นกลับมาไม่ช้าก็เร็ว
41. อย่าฟังความข้างเดียว ฟังแล้วให้วางไว้ก่อน แล้วนำมาใคร่ครวญ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินอะไรเร็วเกินไปหรือช้าเกินไป (คนบางคนก็พูดไปเรื่อย พูดแล้วไม่รับผิดชอบคำพูดก็เยอะ ยุแยงตะแคงรั่วจนเป็นสันดานก็มี)
42. ฟังโดยปราศจากอคติ การมีอคติคือการเป่ากระดองลมมาปกป้องความเห็นแก่ตัว ถ้าไม่หยุดเป่าจะมองไม่เห็นความจริง
43. ฟังให้เป็น แยกแยะให้ออกและยอมรับความจริงให้ได้ จึงจะพัฒนาได้
44. สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ประวัติศาสตร์มักจะซำ้รอย
45. การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความดีความเลว สุราและเหล้ายาทำให้รู้จักกันง่ายขึ้น และมีความสนุกสนานฮาเฮ กระชับมิตรให้แน่นแฟ้น สูบมากๆ เปลืองตังค์ ปอดพัง อายุสั้น รบกวนคนไม่สูบ ดื่มมากๆ จะทำให้ขาดสติ นำไปสู่การทะเลาะวิวาท ชู้สาว อุบัติเหตุ ตับพัง เปลืองตังค์ เมาแล้วแฮงค์ ตื่นสาย ทำงานไม่ได้
46. เวลาเป็นสิ่งมีค่าของคนมีเป้าหมาย บริหารเวลาไม่เป็นบริหารธุรกิจไม่ได้
47. เราไม่มีเวลาหรือเราไม่จัดเวลา
48. วันนี้เราปลูกต้นไม้ด้วยเมล็ดพันธุ์อะไร วันหน้าก็เก็บเกี่ยวผลลัพธ์จากเมล็ดพันธ์ุเหล่านั้น ใช้เวลากับเรื่องใดก็ได้ผลลัพธ์จากเรื่องนั้น
49. ถ้าไม่คิดการใหญ่ ก็ไม่มีวันได้ทำการใหญ่
50. เลิกมีข้ออ้าง เลิกโทษคนอื่น เรามักจะหาเหตุผลมาอธิบายว่าทำไมถึงยังอยู่กับที่แทนจะหาเหตุผลมาทำให้ตัวเองเคลื่อนไปข้างหน้า
51. เป็นเพราะเราไม่เปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงจึงมาไม่ถึงเรา
52. อย่าเสียดายอดีตและปัจจุบันที่ดี หากต้องแลกเปลี่ยนกับการจ่ายเวลาเรียนรู้และลงมือทำเพื่อวิถีชีวิตที่ดีกว่า
53. มีแรงเอาแรงไปสร้างทรัพย์สิน หมดแรงทรัพย์สินยังคงทำงานอยู่
54. อนาคตวัดกันตอนหยุดทำ ไม่ใช่ตอนมีแรงทำอยู่ สุดท้ายวัดกันว่าหยุดทำแล้วเหลืออะไร
55. ใช้ชีวิตตามจุดประสงค์ที่เราเชื่อ เราศรัทธา กล้าที่จะเผชิญทั้งความทุกข์และความสุข
56. ความงมงายในวัตถุนิยมทางศาสนาไม่ได้นำไปสู่ปัญญา ที่พึ่งทางใจที่ดีที่สุดคือสติตัวเอง รู้ว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ สตินำไปสู่สมาธิ สมาธินำไปสู่ปัญญา ปัญญานำไปสู่ความสงบสุข คือความเข้าใจว่าทุกข์อย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เกิดขึ้น คือธรรมชาติของสรรพสิ่ง มองเห็นทุกอย่างตามความจริง
57. ทุกข์และสุขเป็นสภาวะที่ไม่คงที่ เกิดขึ้นและก็จากไป แล้วก็มาใหม่ เกิดขึ้นและก็จากไป นับครั้งไม่ถ้วน
58. เราจะเป็นทุกข์กับความคิดและเรื่องราวที่เราสร้างขึ้นมา หากแยกเยอะไม่ทันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงมันจบไปแล้ว
59. เมื่อเรารู้สึกว่าดำดิ่งลงไปในความทุกข์จนถึงที่สุด จะเจอพื้นที่ทำให้เราใช้เป็นจุดค้ำยันเพื่อทยานกลับขึ้นมา
60. การแสวงหาบุญเป็นระบบความเชื่อรูปแบบนึง คนมากมายที่ทำดีกับพระ จุดธูปเทียนไหว้พระพุทธรูป แต่ในใจเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา เหวี้ยง อารมณ์ร้อน หงุดหงิดง่าย นิสัยไม่ดีกับพ่อแม่และญาติมิตร ยกมือไหว้พระตอนเช้า ตกเย็นไปกินเหล้า เป็นพุทธดัดจริต ทำความดีอย่าหวังผลตอบแทน อย่าไปหวังบุญ อย่าเบียดเบียนใคร ทำเพื่อให้ประโยชน์กับผู้อื่น ให้เห็นแก่ตัวน้อยลง
61. การปล่อยวาง ทำให้ไม่หงุดหงิด หรือ หงุดหงิดง่ายหายเร็ว
62. อะไรที่เราไม่ชอบในตัวผู้อื่นและทำให้เราหงุดหงิด สิ่งนั้นมักจะมีอยู่ในตัวเราแต่เรามักจะไม่รู้ตัว มองเห็นผู้อื่นแล้วพัฒนาตัวเอง
63. คนจำนวนนึงที่มักจะบอกว่าไม่ต้องการอะไร แค่อยากใช้ชีวิตให้มีความสุข และปฎิเสธการต่อสู้ การเผชิญอุปสรรค หรือการเผชิญความทุกข์ ไม่ใช่เรื่องแปลก เคารพความคิดของเค้า คิดแบบไหนได้แบบนั้น ไม่มีถูกผิด
64. เพื่อนที่ดีจะยอมรับเราในแบบที่เราเป็น สนับสนุนเราในสิ่งที่ดี ปรารถนาดีกับเรา เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเรา (บางคนพูดและเตือนในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ทำ ไม่ได้เป็นอย่างที่พูด ให้ขอบคุณในความหวังดี)
65. เพื่อนที่ดีไม่นินทาเราลับหลัง ตักเตือนเราเพื่อให้เราดีขึ้นในวันที่เรามองไม่เห็นตัวเอง อยู่ข้างๆเราเวลาเราต้องการโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
66. เพื่อนที่ดีจะเตือนเราในสิ่งที่ไม่ถูกต้องแต่อาจไม่ถูกใจ
67. ความสัมพันธ์ที่ยาวนานไม่ได้หมายถึงคุณภาพ ระดับของคุณภาพวัดกันตอนฝ่าฟันความยากลำบาก ไม่ใช่การเสพความสบายร่วมกัน
68. ธาตุแท้ของคนมักจะปรากฎตอนมีวิกฤต ถ้าหากต้องการวัดคนตอนให้ดูลำบากร่วมกัน
69. อาจจะมีคนใส่หน้ากากเข้าหาเรา ให้เข้าใจว่าเป็นธรรมดาโลกมีขาว เทา ดำ
70. จะเป็นอะไรในอีก 5 ปีสิบปีข้างหน้า สังคมที่เราอยู่ สื่อที่เรารับ เพื่อนที่เราคบมีผลมาก คบคนเช่นไรจะกลายเป็นคนเช่นนั้น
71. อดีตจนไม่ได้หมายความว่าอนาคตจะจน หากมีความคิดแบบคนจนชีวิตก็จะจน เปลี่ยนความคิด ชีวิตเปลี่ยน จะเปลี่ยนความคิดได้ต้องเปลี่ยนบรรยากาศ
72. บรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เราอยู่มีผลต่อความคิดมากกว่าการท่องจำตำรา (พฤติกรรมเราจะคล้ายกับคนที่เราใกล้ชิดด้วยหรืออาจจะมีลักษณะเป็นขั้วตรงข้ามกับคนใกล้ชิดที่ลึกๆเราไม่ยอมรับพฤติกรรมเค้า)
73. การเปลี่ยนแปลงทัศนคติต้องอาศัยเบ้าหลอมและบรรยากาศ บรรยากาศจะหล่อหลอมเรา ทำให้เรากลายเป็นอะไรในอนาคต
อย่าไปตัดสินใครถ้าไม่จำเป็น ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ ทุกคนมีโอกาสแก้ตัวเสมอ
ให้ดูนิสัยคนเป็นภาพสะท้อนกลับมามองตัวเองแล้วพัฒนาตัวเอง
76. อ่อนน้อมถ่อมตน เรียนรู้เสมอจากคนทุกระดับชั้น แต่อย่าขาดความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเอง (คนที่กร่างมักจะกลวงและไม่ค่อยจะทำมาหากิน)
77. อยู่ให้ห่างจากเด็กอันธพาลที่คิดว่าตัวเองไม่มีอะไรจะเสียและคนรวยแต่เลว
78. น้ำใจเป็นสิ่งที่สวยงาม การสนับสนุนคนที่คิดดี คนที่ตั้งใจกับชีวิตเป็นเรื่องที่ดี
79. คนล้มอย่าข้าม คนทำผิดแล้วสำนึกควรให้โอกาส
80. เปลี่ยนแปลงคนอื่นนั่นยากกว่าเปลี่ยนแปลงตัวเอง
81. รักเพื่อน เตือนเพื่อนในทางที่ดี อย่าตามใจให้เคยตัว
82. พิสูจน์ตัวเองด้วยการกระทำและการสร้างผลลัพธ์
83. อย่ายอมรับผลงานที่ทำพอผ่าน
84. เวลาที่เราไปเล่าความฝันของเราให้ใครฟัง วันที่เราเดินทางยังไม่ประสบความสำเร็จ เป็นเรื่องปกติที่คนจะตัดสินเราจากปัจจุบันที่เราเป็น เป็นเรื่องปกติที่คนจะดูถูก เหยียดหยาม ด้วยการกระทำและคำพูด หรือเพิกเฉย แม้กระทั่งคนที่เรารัก หรือคนที่เรียกเราว่าเพื่อน อนาคตของเราไม่ได้ถูกตัดสินจากคนเหล่านั้น เราวัดอนาคตตัวเองจากวิสัยทัศน์ การกระทำและความเป็นไปได้ในอนาคต
85. ให้กำลังใจตัวเองให้เป็น หากเราช่วยตัวเอง ดูแลตัวเอง และพึ่งพาตัวเองไม่ได้ เราจะช่วยคนอื่นคงยาก
86. ชีวิตมนุษย์สั้นนักๆ พึงระวังอย่าประมาทกับการใช้ชีวิต
87. ทำสิ่งที่ควรทำ สิ่งที่ควรเกิดจึงจะเกิด
88. คิดถึงแต่เรื่องบวกๆ สมองจะส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดึงดูดส่ิงที่ใกล้เคียงกับความคิดเข้ามา ถ้าคิดลบก็จะดึงดูดแต่เรื่องไม่ดีเข้ามา คิดถึงสิ่งที่ต้องการจะดึงดูดสิ่งที่ต้องการ
89. ทุกความคิดคือคำอธิษฐาน ทุกความคิดสร้างแรงดึงดูด จงควบคุมความคิดให้ดี คิดอย่างไรได้อย่างนั้น
90. อย่าหยุดเรียนรู้ การศึกษาในระบบทำให้เราทำงานเลี้ยงชีวิตได้แต่การศึกษาด้วยตัวเองตลอดชีวิตจะทำให้เรามั่งคั่ง

CR Richard Joe