ไม่บอกก็ไม่รู้นะ บริจาคเลือด 24 ครั้ง ใช้สิทธิ์เบิกรักษาพยาบาลได้ 100 %
ขอเรียนชี้แจงให้ทราบ ถึงรายละเอียดสิทธิในการักษาพยาบาลของผู้บริจาคโลหิต ที่ศูนย์บริการโลหิต ฯ ได้ให้การช่วยเหลือ จะเป็นไปตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเฉพาะตัวผู้บริจาคโลหิตเท่านั้น มีดังนี้
ผู้บริจาคโลหิต 7 ครั้งขึ้นไป เป็นผู้ป่วยใน ของโรงพยาบาลสังกัดสภากาชาดไทย ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เสียค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยสามัญ ถ้าอยู่ห้องพิเศษ ผ่าตัด ผ่าตัดคลอดบุตร จะเสียเพียงกึ่งหนึ่งของอัตราที่กำหนด
ผู้บริจาคโลหิต 24 ครั้งขึ้นไป เป็นผู้ป่วยใน ของโรงพยาบาลสังกัดสภากาชาดไทย ได้แก่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ได้รับการยกเว้นเฉพาะค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยสามัญ ถ้าอยู่ห้องพิเศษ ผ่าตัด ผ่าตัดคลอดบุตร จะเสียเพียง ร้อยละ 50 ของอัตราที่กำหนด
ผู้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 18 ครั้งขึ้นไป อาศัยอำนาจจากกระทรวงสาธารณสุข ตามความในประเภท ข. ที่มีหนังสือรับรองจากสภากาชาดไทยว่าได้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 18 ครั้งขึ้นไป ได้รับการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล และถ้าอยู่ห้องพิเศษ ได้รับความช่วยเหลือค่าห้องและค่าอาหารเพียงร้อยละ 50 ของอัตราที่กำหนดไว้
ผู้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 7 ครั้งขึ้นไป อาศัยอำนาจจากกระทรวงสาธารณสุข ตามความในประเภท ค. ที่มีหนังสือรับรองจากสภากาชาดไทยว่าได้บริจาคโลหิตตั้งแต่ 7 ครั้งขึ้นไป ได้รับการช่วยเหลือเฉพาะค่าห้องพิเศษและค่าอาหารพิเศษไม่เกินสิทธิอันพึงเบิกได้จากหน่วยงานต้นสังกัดก่อน ส่วนที่เกินสิทธิให้เรียกเก็บเพียงร้อยละ 50 สำหรับผู้ไม่มีสิทธิ ได้รับความช่วยเหลือเพียงร้อยละ 50 ของอัตราที่กำหนดไว้
สิทธินี้จะใช้ได้เฉพาะผู้ที่ไม่มีสิทธิอย่างอื่น เช่น ประกันสังคม หรือข้าราชการ และจะใช้ได้เฉพาะผู้ป่วยใน เมื่อได้ห้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว
โดยให้ญาตินำบัตรประจำตัวของผู้บริจาคโลหิต ขอหนังสือรับรองผู้บริจาคโลหิตได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ถนนอังรีดูนังต์ เพื่อนำไปลดหย่อนการรักษาพยาบาลเป็นครั้งๆไป
สอบถามเพิ่มเติม โทร. 0 2263 9600 ต่อ 1813
***ชี้แจงเพิ่มเติมครับ ทาง Admin ได้โทรสอบถามไปยังสภากาชาดไทยแล้ว ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า ผู้บริจาคโลหิต 24 ครั้งขึ้นไป จะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่สังกัดในกระทรวงสาธารณะสุขเท่านั้นถึงจะมามารถขอใช้สิทธิ์ยกเว้นค่ารักษาพยาบาลได้ และจะต้องเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในเท่านั้น
ขออภัยสำหรับข้อมูลที่ไม่ได้ลงให้ละเอียดตั้งแต่แรกครับ
http://goo.gl/4t4OK3