ประวัติดาราที่ไม่ดังเปรี้ยงปร้างแต่คุ้นหน้าแน่นอน ตอน 1
เป็นที่ยอมรับกันว่าเขาเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ทำงานหนักที่สุดในฮอลลีวู้ด แจ็คสันคือดาราที่คนดับรัศมียากเพราะเมื่อดูข้อเท็จจริงแล้ว หนังที่เขาแสดงกวาดรายได้เยอะที่สุดในบ็อกซ์ ออฟฟิศ ซึ่งมากกว่านักแสดงคนไหน ๆ ในประวัติศาสตร์การทำภาพยนตร์
ซามูเอล ลีรอย แจ็กสัน (อังกฤษ: Samuel Leroy Jackson) เกิดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 1948 อายุ68ปี เป็นนักแสดงภาพยนตร์และโทรทัศน์ ชาวอเมริกัน แจ็กสันเริ่มมีชื่อเสียงในต้นทศวรรษ 1990 หลังจากได้รับคำวิจารณ์ในการแสดงด้านดี และกลายเป็นนักแสดงหนังใหญ่จนเป็นสัญลักษณ์ เขามีผลงานในภาพยนตร์ทำรายได้สูงหลายเรื่อง เขามีผลงานแสดงภาพยนตร์มากกว่า 70 เรื่อง รวมถึงเรื่อง Pulp Fiction, Eve's Bayou, รวมถึงใน ไตรภาค ของ Star Wars เขายังได้รับรางวัลด้านการแสดงมาแล้วหลายรางวัล และยังมีผลงานด้านซีรีส์โทรทัศน์ และด้านเพลง
แจ็คสันมีภาพติดตัวที่ไม่มีใครลบได้สำหรับหนังอเมริกันจากบท “จูลส์” นักฆ่าจอมปรัชญา ในหนังเรื่อง “Pulp Fiction” ของเควนติน ทาแรนติโน นอกจากมติเป็นเอกฉันท์จากนักวิจารณ์ถึงการแสดงอันยอดเยี่ยม เขายังได้รับรางวัลอะคาเดมี อวอร์ดส และ เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมรวมถึงรางวัลเดียวกันจาก British Academy of Film and Television Arts อีกด้วย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ แจ็คสันแสดงในเรื่อง “Black Snake Moan” ที่ถ่ายทำในรัฐเมมฟิสทั้งหมดภาย ใต้การกำกับของ เครก บริวเวอร์ (จากหนังเรื่อง “Hustle and Flow”) แจ็คสันรับบทลาซารัส นักดนตรีบลูส์ผู้พยายามที่จะ “รักษา” อาการเฟลิตไปทั่วของหญิงสาวผิวขาวคนหนึ่ง ซึ่งแสดงโดยคริสติน่า ริชชี่ หนังฉายเป็นครั้งแรกที่เทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์และจะออกฉายจริงวันที่ 2 มีนาคม ภายใต้ค่าย Paramount Vantage เมื่อปีที่แล้ว แจ็คสันแสดงในหนังของ New Line เรื่อง “Snakes on a Plane” ที่กำกับโดยเดวิด เอลลิส และเรื่อง “Home of the Brave” ให้กับผู้กำกับ เออร์วิน วิงค์เลอร์ นอกจากนี้ แจ็คสันยังอำนวยการผลิตและให้เสียงตัวการ์ตูนนำของแอนิเมชั่นซีรี่ส์ของ Spike Television เรื่อง “Afro Samurai” ซึ่งออกฉายครั้งแรกในเดือนมกราคม 2007 และประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม หนังชุดเรื่องนี้ได้ถูกต่อสัญญาให้สร้างภาคที่สองแล้วเรียบร้อย
ล่าสุด แจ็คสันแสดงในหนังเขย่าขวัญเรื่อง “1408” ที่อ้างอิงจากนิยายของสตีเฟ่น คิง โดยมีจอห์น คูแซ็คร่วมแสดง ค่าย Weinstein นำหนังออกฉายในวันที่ 13 กรกฎาคม หลังจากนั้นไม่นาน แจ็คสันตกลงเล่นบทนักมวยขี้เหล้าผู้ล้มเหลวที่ถูกตีสนิทจากนักข่าวคนหนึ่งที่สนใจจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับวันเวลาที่เคยรุ่งโรจน์ของเขาในสังเวียน ร็อด ลูรี่กำกับหนังเรื่องนี้ โดยมี Yari Film Group จัดจำหน่ายและออกฉายในวันที่ 3 สิงหาคม โดยที่หนังจะออกฉายเป็นครั้งแรกที่เทศกาลหนังซันแดนซ์
แจ็คสันเพิ่งเสร็จสิ้นการถ่ายหนังไปสองเรื่อง คือ “Jumper” หนังเขย่าขวัญไซไฟของ ดั๊ก ลีมาน ที่มีเฮย์เดน คริสเตียนเซ็นร่วมแสดง และ “The Cleaner” หนังดราม่าที่แจ็คสันทั้งแสดงและร่วมผลิตกับผู้กำกับเร็นนี ฮาร์ลิน โดยมีกีกี้ พาล์มเมอร์ และ อีวา เมนเดสร่วมด้วย
เดือนพฤษภาคม แจ็คสันจะเริ่มถ่ายหนังในนิวออร์ลีนส์เรื่อง “Black Water Transit” ของผู้กำกับโทรนี่ เคย์ และในเดือนมิถุนายนจะเปิดกล้อง “Lakeview Terrace” ของผู้กำกับนีล ลาบิวต์ โดยมีแอชตัน คุตเชอร์ร่วมแสดง ในปี 2006 แจ็คสันเล่นหนังดราม่าเรื่อง “Freedomland” ให้กับผู้กำกับโจ ร็อธ และหลังจากนั้นก็แสดงเรื่อง “The Man” ให้กับค่าย New Line ซึ่งแจ็คสันแสดงกับยูจีน เลวี่
ในปี 2005 แจ็คสันพุ่งแตะชาร์ตบ็อกซ์ ออฟฟิศอันดับหนึ่งในการเปิดตัวสัปดาห์แรกกับหนังของค่าย Paramount Pictures เรื่อง “Coach Carter” แจ็คสันรับบทเป็นโค้ชบาสเก็ตบอลโรงเรียนมัธยมปลายที่มีตัวตนจริง ๆ ชื่อ เคน คาร์เตอร์ ซึ่งเป็นแบบอย่างในอุดมคติและที่ปรึกษาให้กับนักเรียนให้ประสบความสำเร็จทั้งในห้องเรียนและในสนามบาสเกตบอล “Coach Carter” เคยได้รับคัดเลือกให้เป็นหนังเปิดเทศกาลภาพยนตร์ปาล์มสปริงส์ แจ็คสันยังได้รับรางวัล Career Achievement Award ด้านการแสดงจากเทศกาลนี้ด้วย
แจ็คสันยังเล่นหนังนอกกระแสของค่าย Sony Classics เรื่อง “In My Country” ที่อ้างอิงมาจากนิยายขายดีเรื่อง “Country of My Skull” ของนักเขียนชาวอัฟริกาใต้ แอนทิจ คร็อก แจ็คสันเล่นเป็นนักข่าวอเมริกันที่ต้องเผชิญกับความสับสนอลหม่านจากนโยบายแบ่งแยกสีผิว เนื่องจากเขาได้รับมอบหน้าให้สืบหาความจริงและความพยายามที่จะไกล่เกลี่ยหลายต่อหลายครั้งของบาทหลวงราชาคณะเดสมอนด์ ทูตู ที่ทำให้เห็นถึงสถานการณ์เลวร้ายที่สุดทั้งความทุกข์ทรมาน ความทารุณ และความรุนแรงต่าง ๆ “In My Country” กำกับโดยจอห์น บัวร์แมน ผลิตโดยบ็อบ ชาร์ทอฟฟ์ และไมค์ เมดาวอย มีจูเลียต บิโนชร่วมแสดง
ในปี 2005 แจ็คสันชิงเอาบท เอเจนต์ออกัสตัส กิบบอนส์ จากเรื่อง “XXX: State of the Union” และ บท “เมซ วินดู” ใน “Star Wars: Episode III – The Revenge of the Sith” มาแสดงได้ ไม่น่าสงสัยเลยที่ “Star Wars: Episode III – The Revenge of the Sith” จะทำรายได้ถล่มทลายทุบสถิติเปิดตัวสูงสุดในบ็อกซ์ ออฟฟิศ
ในปี 2004 แจ็คสันให้เสียงตัวการ์ตูน โฟรโซน (Frozone) ในการ์ตูนแอ็คชั่นผจญภัยเรื่อง “The Incredibles” ซึ่งออกฉายและติดอันดับในบ็อกซ์ ออฟฟิศไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน หนังกำกับและเขียนบทโดยแบรด เบิร์ด และได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำสาขาภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยมและเข้าชิงสองรางวัลในอะคาเดมี อวอร์ดส
ในปี 2003 แจ็คสันแสดงในเรื่อง “S.W.A.T” ของค่าย Columbia TriStar กำกับโดย คลาร์ก จอห์นสัน “S.W.A.T.” เป็นเรื่องเกี่ยวกับการนำตัวราชายาเสพย์ติดไปคุมขังนอกเมืองในความดูแลแห่งรัฐบาลกลางโดยมีหน่วยสวาทของเจ้าหน้าที่ตำรวจนครลอสแองเจลิสคอยอารักขา แผนลำเลียงนัก โทษเริ่มเสียเรื่องเมื่อเจ้าพ่อค้ายาตัวเอ้ประกาศกร้าวจะจ่ายเงิน 100 ล้านเหรียญให้กับใครก็ตามที่สามารถทำให้เขาหลุดรอดเป็นอิสระไปได้ โคลิน ฟาร์เรลและมิเชล ร็อดริเกซร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ด้วย
ในปี 2002แจ็คสันแสดงร่วมกับเบน เอ็ฟเฟล็กในหนังของค่าย Paramount เรื่อง “Changing Lanes” ที่ติดอันดับบ็อกซ์ ออฟฟิศและได้รับคำชมอย่างมากมายจากนักวิจารณ์ แจ็คสันส่งผ่านความตึงเครียดแต่น่าเห็นใจออกมาในการแสดงบทพ่อผู้จิตตกกับโชคของตัวเอง แต่พยายามจะพาลเอากับชายอีกคนที่ทำผิดกับเขา ในปี 2002 อีกเช่นกันที่ แจ็กสันแสดงและอำนวยการสร้างหนังภายใต้สังกัดSony/ Screen Gems เรื่อง “Formula 51” ร่วมกับ โรเบิร์ต คาร์ไลล์ที่เคยแสดงร่วมกับเขาในหนังไซไฟทริลเลอร์เรื่อง “XXX” และได้รับบทเป็น “เมซ วินดู” ใน “Stars Wars Episode II: Attack of the Clones” ของจอร์จ ลูคัส
ในปี 2001 แจ็คสันแสดงหนังของค่าย Jersey Franchise/Universal เรื่อง “Caveman’s Valentine” ที่กำกับโดยคาซี เลมมอนส์ หนังบรรยายถึงเรื่องราวของชายจรจัดในเมืองนิวยอร์คผู้ที่พบเห็นการฆาตกรรม แจ็คสันยังสวมหมวกอีกใบเป็นผู้อำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ ซึ่งก็กลายเป็นหนังอิสระที่ประสบความสำเร็จที่สุดในปีนั้น นี่เป็นโครงการที่สองที่แจ็คสันทำงานร่วมกับคาซี เลมมอนส์ ส่วนโครงการแรกอย่าง “Eve’s Bayou” ที่เขาร่วมผลิตด้วยก็ได้รับคำชมเช่นกัน
แจ็คสันยังได้แสดงร่วมกับบรูซ วิลลิสในหนังดราม่าลึกลับของผู้กำกับ/นักเขียนบท เอ็ม.ไนท์ ชยามาลานเรื่อง “Unbreakable” ของค่าย Disney บทของแจ็คสันคืออีไลจาห์ ไพรซ์ ชายน่าสงสัยผู้ที่ชีวิตผูกอยู่กับรถเข็น มีทฤษฎีจับต้องยาก ได้ถือกุญแจสำคัญของคำถามในหนังเรื่องนี้ คือ “Are You Unbreakable?”
แจ็คสันรับบทนำในหนังของจอห์น ซิงเกิลตันเรื่อง “Shaft” ร่วมกับคริสเตียน เบล และวาเนสซา วิลเลียมส์ นอกจากนี้แจ็กสันยังแสดงในหนังดราม่าเกี่ยวกับเรื่องราวในศาลของค่าย Paramount เรื่อง “Rules of Engagement” เป็นพันเอกเทอร์รี่ ชิลเดอร์ส นายทหารผู้ที่ถูกพิจารณาคดีในข้อหาออกคำสั่งให้พลทหารของเขายิงพลเรือน หนังกำกับโดยวิลเลียม ฟรีดคิน มีทอมมี่ ลี โจนส์ร่วมแสดง ทั้งเรื่อง “Shaft” และ “Rules of Engagement” ถูกฉายในเทศกาลภาพยนตร์เดอวิลล์ในปี 2000 ซึ่งแจ็คสันได้รับรางวัลเกียรติยศ Lifetime Achievement Award
แจ็คสันแสดงในหนังของ Warner Bros เรื่อง “Deep Blue Sea” ให้กับผู้กำกับ เรนนี่ ฮาร์ลิน และ ของฟรังซัวส์ จีราร์ด ใน “The Red Violin” แจ็กสันยังได้ปรากฏตัวในหนังที่เป็นที่ชื่นชอบและประสบความสำเร็จอย่างสูงของจอร์จ ลูคัส เรื่อง “Star Wars Episode One: The Phantom Menace”
แจ็คสันยังแสดงใน “The Negotiator” และ “Jackie Brown” หนังเรื่องที่สองที่เขาแสดงให้กับผู้กำกับเควนติน ทาแรนติโน สำหรับเรื่องหลัง เขาได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำและรางวัล Silver Bear Award ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สาขาภาพยนตร์ตลก ในเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน
แจ็คสันร่วมแสดงกับแซนดรา บูลล็อค, แมทธิว แมคคอนอเฮย์และเควิน สเปซีย์ในหนังของโจเอล ชูมัคเกอร์ปี 1996 ที่อ้างอิงจากนิยายของจอห์น กริแชมเรื่อง “A Time to Kill” สำหรับการแสดงของเขาทำให้แจ็คสันได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ และ รางวัล NAACP Image Award เขายังแสดงร่วมกับบรูซ วิลลิสใน “Die Hard with a Vengence” ซึ่งกวาดรายได้สูงที่สุดทั่วโลกในปี 1995
แจ็คสันสร้างหน้าประวัติศาสตร์ให้กับวงการหนังเมื่อเขารับบทเป็นขี้ยาติดโคเคนในหนังของ สไปค์ ลี เรื่อง “Jungle Fever” ที่เขาได้รับรางวัลนักแสดงสมทบยอดเยี่ยมในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กรรมการเคยมอบรางวัลนี้ เขายังได้รางวัล New York Film Critics Award สาขานักแสดงสมทบยอดเยี่ยมจากบทนี้อีกด้วย
หนังเรื่องอื่น ๆ ที่เขาเคยแสดงมาได้แก่ “Twisted” , “187” , “Sphere” , “The Long Kiss Goodnight” , “Hard Eight” , “Kiss of Death” , “Losing Isaiah” และ “Amos and Andrew” รวมถึง “Ragtime” , “Sea of Love” , “Coming to America” , “Ray” , “Do the Right Thing” , “School Daze” , “Mo’ Better Blues” , “Goodfellas” , “Strictly Business” , “White Sands” , “ Patriot Games” , “Jumpin’ at the Boneyard” , “Father and Sons” , “Juice” , “Fresh” และ “True Romance”
สำหรับบทบาททางจอแก้ว แจ็คสันเคยแสดงหนังรางวัลเอ็มมี่เรื่อง “Against the Wall” ของจอห์น แฟรงเกนไฮเมอร์ของ HBO การแสดงของเขาทำให้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Cable Ace สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมในหนังหรือมินิซีรี่ย์สมากมาย รวมถึงเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำอีกด้วย
อาชีพของแจ็คสันเริ่มต้นตั้งแต่เรียนจบจากวิทยาลัยมอร์เฮ้าส์ในแอตแลนต้าในสาขาการละคร เขาได้แสดงละครเวทีหลายเรื่อง เช่น Home, A Soldier’s Play, Sally/Prince and The District Line เขายังเป็นต้นคิดตัวละครในละครของออกัสต์ วิลสันที่โรงละคร Yale Repertory Theatre อีกด้วย สำหรับเทศกาล New York Shakespeare แจ็คสันร่วมแสดงในเรื่อง Mother Courage and Her Children, Spell #7, และ The Mighty Gents
ในขณะที่เขาเป็นนักศึกษาอยู่ที่มอร์เฮ้าส์ เขาเริ่มชีวิตการแสดงเป็นครั้งแรกในเรื่อง “Together for Days”