คนขี้โกหกสุด ๆ ทุกเรื่องในชีวิตมันมีจริง ๆ นะเออ ไม่เว้นแม้แต่ที่ทำงาน PART 6
PART 1 : https://board.postjung.com/911516.html
PART 2 : https://board.postjung.com/911546.html
PART 3 : https://board.postjung.com/911613.html
PART 4 : https://board.postjung.com/911848.html
PART 5 : https://board.postjung.com/912160.html
มีเรื่องที่ใหญ่ขึ้นมาหนักข้อกว่าเดิมคือ ฮีถ่ายใบปริญญาตรีธรรมศาสตร์มาโชว์ในไลน์ครับ ขึ้นหน้าโปรไฟล์เลย
ซึ่งมันขัดแย้งกับที่ผมสัมผัสพูดคุยมา คือ คนๆ นี้ ไม่ใช่อะ ไม่ได้จบมาจากที่เดียวกับผมแน่ ถามอะไรก็ไม่รู้ ไม่มีประสบการณ์ร่วม
คุยแล้วคนละเรื่องเดียวกัน แล้วจะเรียนที่นี่ ในรุ่นที่ใกล้เคียงกับผมได้ยังไง
ผมคงโดนเข้าให้แล้ว ว่าตัวเองไม่มีอะไรจะอวดแล้วนะเนี่ย ยังโดนนายวีไม่ยอมน้อยหน้าเรื่องสถานศึกษา
เมื่อผมลองสังเกตดีๆ คือ ถ่ายรูปมาก็ถ่ายมาไม่หมดใบ เว้นตรงปีการศึกษาไว้ คงกลัวคนมาเห็นแล้วเอาไปเช็ครึไง
และคิดอีกมุม คนบ้าไรถ่ายใบปริญญามาโชว์ ใบปริญญานี่ค้นยากกว่ารูปถ่ายวันรับปริญญาซะอีก ของผมเก็บไว้ที่ไหนยังต้องถามแม่
เอารูปถ่ายชุดครุยแต่งเท่ๆ โบ๊ะแป้งขาววอก เซตผมหล่อเด้ง ถ่ายเฮฮากับเพื่อนๆ มาโชว์ ไม่ง่ายกว่าหรอ
และเมื่อผมมองใบปริญญานั้นอย่างเจาะลึก เฮ้ย.....มันไม่เหมือนของผมเลยนี่หว่า ถึงจะต่างคณะกัน ชื่อวุฒิคณะนี้ผมยังรู้เลยว่ามันสะกดผิด
แล้วอีกอย่าง เอาออกมาจากเล่มทำไมครับ ให้ริบบิ้นมันล็อคเข้ากับเล่มอยู่สวยๆ ก็ถ่ายได้
คิดดังนี้ ใบนี้อาจจะเป็นของปลอม เลยเอาใบนี้แหละโพสต์ถามในพันทิป ได้ความว่าปลอมชัวร์ๆ
ผมกลับไปบ้านค้นใบของตัวเองมาดู โอ้ว มันต่างกันอย่างมาก ฟ้อนท์ก็ดัดจริตเกินไร้ซึ่งความขลัง คำประกาศก็พิมพ์ไม่ตรงกัน
ตราธรรมจักรดูราคาถูกเกินไป ของผมมีริบบิ้นเหลือง-แดงไขว้กันด้วย ที่สำคัญชื่อวุฒินี่แหละโป๊ะมากๆ
ฮีจะทำไปเพื่ออะไรเนี่ย ต้องการเอาชนะผมขนาดนี้เลยหรอ แต่คิดอีกที คงเอาไว้อวดคนอื่นมากกว่า
ถ้าอวดผมมันก็โป๊ะแตกจังๆ เลยล่ะครับ แต่ตานี่พลาดซะแล้วที่ผมดันมาเห็นเข้า
ร้านทำปลอมคงทำได้เหมือนและเนียน แต่ต้องจ่ายหลักหมื่นหลักแสนเชียวนะผมไปเสิร์ชเจอ
ถ้าทำแล้วมีข้อผิดพลาดเยอะขนาดนี้ มันนั่นแหละตัดแปะเอง
และดูจากที่ออกตัวกระทบกระเทียบผมคราวนั้นว่าตนจบธรรมศาสตร์ เหมือนแกจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองโกหกว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ซะด้วย
นี่ถ้าอวดว่าจบสามปีครึ่ง ผมคงขำต่อหน้าเลย
ผมเซฟรูปจากไลน์ใน PC เวอร์ชั่นเก่าครับ มันเซฟรูปหน้าโปรไฟล์ ได้ขนาดไฟล์แบบออริจินอลมาเลย
..............................................................................................................................................................................
เรื่องนายวีที่ผมลืมเล่าอีกเรื่องคือ การสร้างภาพ (ตกลงมีไรดีมั่งวะ)
ก็ไม่รู้ว่าทำไมจะต้องสร้างภาพว่าเป็นคนทำงาน ทำงานดี ทำงานเก่ง
กับคนนอกแผนกจะคิดว่านายนี่ alert กับงาน เป็นระดับหัวหน้างาน มีลูกน้อง
เวลาเข้าห้องผู้จัดการก็จะทำเป็นพรีเซ้นต์ว่าตนขยันทำงาน ยังงั้นยังงี้ แต่พอเกิดปัญหาจะอ้างโน่นนี่ได้ตลอด
ครั้งหนึ่งที่ผมโดนอย่างจังเลย คือ ในแผนกใช้โปรแกรมแชทไม่ได้ แต่เครื่องผมดันใช้ได้อยู่เครื่องเดียว เพราะผมได้รับสาย LAN พิเศษ เข้าอินเทอร์เน็ตได้ทุกเว็บ ทุกโปรแกรม เพราะงานผมต้องหาข้อมูลให้ผู้จัดการ
ซึ่งตอนนั้นสาย LAN ทั่วไปมีปัญหา ฮีร้อนรนให้แผนกไอทีขึ้นมาดู พร้อมกับบ่นแบบกัดผมว่า จะแชทคุยงาน ไม่ได้คุยเล่น
ผมคิดในใจ สำหรับผม ถ้าจะแชท ผมเอาไว้คุยเล่นว่ะ ไม่ได้คุยงาน ใครถามก็จะบอกตรงๆ แบบนี้เลยด้วยซ้ำ ไม่มาสร้างภาพแล้วไม่ได้งานซักชิ้น
ถ้าผมจะแชทเรื่องงาน แล้วใช้โปรแกรมไม่ได้ ผมจะโทรเข้าไปหาโดยตรงเลย ง่ายกว่าต้องมาร้อนรนให้แผนกไอทีรีบแก้
ที่แผนกชักจะทำตัวมึนตึงใส่นายวี เพราะเหมือนคนไม่ทำงาน แล้วใช้สิทธิพิเศษต่างๆ จนมากเกินควร เข้างานหรือออกไปเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ก็ไม่ได้งาน
วันดีคืนดี ผู้จัดการฝ่ายบุคคล (ที่นายวีไปประจบประแจงไว้) โทรมาที่แผนก ต่อว่าว่าพวกเราทำตัวมึนตึง ปฏิบัติต่อนายวีเหมือนเป็นส่วนเกิน
ไปว่าเขาทำงานสบาย เธอรู้มั้ยเขาป่วยนะ ต้องเข้าใจหน่อย ไม่ใช่ทำกับเขาแบบนี้ อะไรหยวนๆ ให้เขาก็หยวนไป เห็นใจเขาหน่อย
ผมเองเป็นคนรับสายนั้นแหละ ก็เออออรับคำไป แล้วเรื่องก็ถึงผู้จัดการผมด้วย แกถามว่าผมมีความคิดเห็นยังไง
ผมเองรู้อะไรมาเยอะก็ไม่ได้ฟ้องแกนะ ยอมเข้าข้างนายวีไป บอกแกไปว่า “ผมเองเห็นใจเขาครับ เขาป่วย”
ที่พูดแบบนี้ ผมมองว่า ถ้าผมฟ้องใครในเรื่องไหน น้ำหนักมันยังไม่พอ แกคงยังไม่เชื่อผมแน่
แต่ในสายตาแก นายวีทำงานสบาย ป่วยก็ยังมาทำงานได้ แต่มาแล้วก็สบายเกิน นั่งเล่นเน็ต เล่นมือถือทั้งวัน
ครั้งนึงแกยังอยากให้ลาออกไปรักษาตัวเลย
คือในเมื่อป่วยแล้วรวย ก็ไปรักษาตัวเหอะ (มาแล้วไม่ทำงาน มันเป็นการกินเงินเดือนฟรีๆ รับพนักงานใหม่มา แล้วทำงานเต็มที่จะดีกว่า)