คนขี้โกหกสุด ๆ ทุกเรื่องในชีวิตมันมีจริง ๆ นะเออ ไม่เว้นแม้แต่ที่ทำงาน
http://pantip.com/topic/30541646
กระทู้คุณ kate26august อันนี้ ทำเอาผมจำเป็นต้องเอาประสบการณ์ในที่ทำงานมาแชร์กัน เพื่อให้เพื่อนๆ อ่าน จะไม่รู้เท่าทันคนประเภทนี้ ไม่ตกเป็นเหยื่อ ไม่หลงกล คารมใดๆ
เรื่องยาวมากนะครับ จะมาเติมเรื่องราวเรื่อยๆ อาจจะเติมในกระทู้นี้เลย หรือทำ link โยงไปเรื่อยๆ ก็มาติดตามกันนะครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องของผมอาจจะหนักหน่วงกว่าคุณ kate26august ไปเยอะ จนการจับผิดรู้เท่าทันความคิดอ่านของคนๆ หนึ่ง อาจดูเป็นการใส่ร้ายป้ายสี อิจฉาริษายาหรือกลั่นแกล้งทางความคิด แต่จะบอกว่า แค่นี้จิ๊บๆ ผมเองน่ะเคยถูกมองเป็นตัวร้าย ตัวอิจฉามาก่อนแล้ว ถึงกับมีบางคนแอนตี้ไม่คุยกับผมเลยน่ะ แต่พอตาสว่าง กลับมาตะแง๊บๆ คุยกับผมด้วย ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
และความจริงที่คุณจะได้อ่านกัน ขอบอกเลยว่า ยิ่งกว่าละคร รับรองว่าพลิกแพลง ซับซ้อน และเร้าอารมณ์
คุณ kate26august ใช้ชื่อน้องขี้โกหก ว่าน้องจี ผมขอเรียกชื่อสมมตินายคนนี้ว่า นายวี ละกัน พ้องกันดี
น้องจีชอบเรียกร้องความสนใจใช่ไหม อยากเป็นจุดเด่น จุดสนใจ....แน่นอน นายวีคนนี้ก็เข้าขั้น “วอนนาบีตัวพ่อ” ต้องการเป็นที่พูดถึงทุกเรื่องราว
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
นายวีเป็นชายรูปร่างเล็ก เตี้ย ผิวดำคล้ำ เข้ามาทำงานก่อนหน้าผมไม่กี่เดือน อายุอ่อนกว่าผม 2 ปี เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง
พ่อเป็นนักธุรกิจมีเงินเป็นร้อยล้าน ส่วนลูกมาทำงานเงินเดือนหมื่นต้นๆ (คงเพราะอยากหาประสบการณ์)
เริ่มแรกเลยนายคนนี้ชอบพูดอวดรวย ทั้งอวดตรงๆ และอวดแบบมี keyword ในประโยคที่ทำให้อนุมานได้ว่า ตนนั้นมีกะตังค์ใช่ย่อยเลย สิ่งของมักจะไม่เอ่ยเป็นชื่อสิ่งของ แต่จะเอ่ยเป็นยี่ห้อ เช่น ออกเมอร์ซิเดสคันใหม่ ขับมาสด้า นั่งการบินไทย เป็นต้น
ผมก็เออ..... ไม่เอะใจอะไร คงจะรวยมาก และคลุกคลีกะพวกแบรนด์เนมจริงๆ แต่ก็มีตะขิดตะขวงใจอยู่บ้างว่า ไอ้พวกอะไรที่ดังๆ ป๊อปๆ เนี่ยเขาจะรู้จักหมด และดูจะตามกระแสไปซะทุกเรื่อง
ส่วนผมเองน่ะหรอ เทียบไม่ติด พ่อไม่รวย มีเงินพอใช้ บางเดือนก็ชนเดือน แต่ไม่ถึงขั้นเดือดร้อน แบรนด์เนมหรอ เรียกว่า แค่รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง แต่ไม่มีปัญญาซื้อและไม่ได้สนใจอะไร คนในแผนกและในบริษัทผมก็เป็นเช่นนี้
อุปนิสัยของนายวีก็เป็นคนแรงๆ พูดตรงๆ ไม่พอใจอะไรก็กล่าวคำพูดออกมาตรงๆ แต่กับเพื่อนในแผนกก็มีเกรงๆ อยู่บ้าง บางทีนายคนนี้ก็มีกระโชกโฮกฮาก ออกกาการโมโหอยู่เนืองๆ เวลาคุยโทรศัพท์กับใครที่ทำให้เขาไม่พอใจ ไอ้เราก็เออ คงถูกเลี้ยงมาแบบตามใจมั้ง แบบลูกคนรวย
ในฐานะเป็นเด็กใหม่ ผมก็จะเจียมเนื้อเจียมตัว แต่ก็ไม่ถึงกับหงอเพราะถือว่าเป็นวัยผู้ใหญ่แล้ว อะไรชนผมชนกลับ นี่เป็นวิสัยการทำงานของแผนกผมอยู่แล้ว ส่วนเรื่องส่วนตัว ใครพรีเซ้นต์อะไรมา ผมก็เออออตามไปด้วย ไม่ขัด ไม่เบรก แต่เก็บข้อมูล
เรื่องมันเริ่มที่ผมเข้าทำงานที่นี่ประมาณเดือนที่สี่ นายวีซึ่งเข้ามาก่อนผม แต่ก็ยังถือว่าใหม่ของที่นี่ ฮีบอกว่าจะสอบเข้าเรียนปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ซึ่งผมจบปริญญาตรีจากที่นี่มา)
ปัญหาก็คือนายวีแทบไม่เป็นภาษาอังกฤษเลยนี่สิ ซึ่งดูออกได้จากลักษณะคำง่ายๆ ยังต้องถาม ผสมประโยคได้ไม่ซับซ้อน แปลประโยคไม่ค่อยได้ หรืออย่างการอ่าน อ่านแล้วต้องแปลเป็นไทยก่อน ไม่รับรู้เป็นภาษาอังกฤษโดยตรงเลย
งานนี้ถือเป็นงานช้างมากๆ ที่ต้องสอบให้ผ่าน.ในระยะเวลาอันน้อยนิด
นายวีอ้างว่า จะให้น้องต่างแผนกซึ่งทำงานโดยใช้ภาษาอังกฤษ เป็นคนช่วยติวให้ แต่เท่าที่เห็น ก็ไม่เคยไปนัดอะไรน้องมันเลย เลิกงาน 5 โมงปุ๊บตรงดิ่งกลับบ้านทันที ไอ้น้องนี่ยังนั่งทำงานต่อเลย
นายวีมาบอกว่า ให้น้องมันติวให้ทางแชท ไม่เข้าใจตรงไหนค่อยพิมพ์แชทถามมัน
โอ้ว พระเจ้า..... เป็นการติวที่แสนอเมซซิ่ง!!!